เฟร็ด คือหนึ่งในส่วนสำคัญของการผ่านเข้ารอบของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมวันนั้น
เพียงแต่ว่า เฟร็ด ไม่สามารถทำได้ตามมาตรฐานแบบในวันนั้นได้มากเกมเท่าที่ควรจะเป็น
ถ้าถามว่าคุณสมบัติที่นักฟุตบอลอาชีพควรจะต้องมีติดตัวตลอดเวลาคืออะไร
- ความทุ่มเท
- ความสามารถ
- ความสม่ำเสมอ
- ความลงตัว
- โชค
จากคำให้สัมภาษณ์ของโค้ช และ เพื่อนร่วมทีม คุณสมบัติข้อ 1 และ 2 ของเค้าไม่ใช่ปัญหา
เฟร็ด มีจุดเด่นที่ความขยัน
เฟร็ด มีความสามารถตามแบบฉบับนักเตะแซมบ้าทั่วไป
แต่ เฟร็ด ไม่มีความเสถียร จนทำให้ในหลายๆ เกม เฟร็ด จับบอลห่างตัวครึ่งวา จ่ายบอลห่างเพื่อน 2 ศอก อันทำให้ความทุ่มเทของเค้ากลายเป็นความเสียเปล่าที่แท้ทรู
เราไม่รู้ว่าอาจจะเป็นเพราะความไม่ลงตัวของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รึป้าวที่ทำร้ายเค้า และ นักเตะอีกหลายคนที่เข้ามาเสียคนในเครื่องแบบของเรา
วันที่ เฟร็ด ย้ายเข้ามาในราคาแรง หลายคนทราบดีว่า โชเซ มูรินโญ ไม่ได้ต้องการ มันจึงเหมือนกับเป็นการปักหมุดถึงความไม่เข้ากับระบบของทีมอน่างแรง
แม้จะมีการบอกกล่าวจากนักเตะบราซิลว่า เฟร็ด ถูกใช้งานผิดประเภทมาตลอด แต่ปัญหาก้อคือ 7 ใน 10 เกมที่ได้ลงสนาม เค้าไม่สามารถทำได้อย่างที่เคยทำให้ทีมเก่า หรือ ในทีมชาติ ซึ่งรวมถึงการลงเล่นถูกตำแหน่งแล้วก้อตาม
หรือว่าจะเป็นที่คู่หูของเค้า ที่การเล่นร่วมกันกลายเป็นการทำลายอาชีพของทั้งคู่อย่างพร้อมเพรียงกัน
ซึ่งมันก้อคือเรื่องของโชคชะตาฟ้าลิขิตนั่นเอง
แน่นวลว่าอนาคตของ เฟร็ด กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด น่าจะได้รับการพิสูจน์ไปจนสิ้นสุดฤดูกาลนี้
ส่วนกับทีมชาติบราซิลหลังตกรอบฟุตบอลโลก มีการกดโหวตจากแฟนบอลว่าโค้ชคนใหม่ควรลืมชื่อของ เฟร็ด ไปได้เลย
แต่ไม่ว่าเค้าจะเล่นไม่ดีมากขนาดไหนก้อตาม เราสามารถโห่ได้ วิจารณ์ได้ แต่เราไม่สมควรที่จะตามไปด่าแบบทำร้ายจิตใจจนทำให้คนถูกด่าจิตตก
หลายครั้งที่ รอย คีน วิจารณ์ว่า เฟร็ด ไม่ควรค่าที่จะเล่นให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มันคือการวิพากษ์บนข้อเท็จจริง แม้ว่ามันคือความจริงที่โหดร้ายจากนักวิจารณ์ที่นักเตะต้องน้อมรับเอาไว้
ส่วนการตามไปถล่มด้วยถ้อยคำรุนแรงถึงพื้นที่ส่วนตัวจากคนดูบอลบางคน โดยเฉพาะเนื้อความตามภาพที่ทำให้ เฟร็ด ถึงกับต้องปิดการแสดงความคิดเห็นไปเลย
ซึ่งมันดูรุนแรงมากเกินไป ทั้งตัวคนถูกด่า และ ตัวคนถูกเปรียบเทียบ แม้มันตะเป็นความจริงที่พิสูจน์ได้ด้วยตาก้อตาม
แต่ที่แน่ๆ อนาคตในฤดูกาลหน้าของทั้ง เฟร็ด และ แฮร์รี แมคไกวร์ อาจจะไม่ต้องมาเผชิญหน้ากับความกดดัน หรือ การเหยียดหยามแบบนี้อีกแล้ว
ถ้าหากว่าทั้งคู่ยังคงความไม่เข้ากับระบบการเล่นของทีมอย่างต่อเนื่อง จนต้องหอบเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าออกไปหาทีมที่คู่ควร
ส่วน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก้อต้องเดินหน้าต่อไปด้วยการสร้างทีมที่มีนักเตะที่พกคุณสมบัติทั้ง 5 ข้อ จนกว่าจะกลับมาเป็นอดีตยักษ์ใหญ่ที่คุ้นเคย
บทความโดยมิสมาต้า
#เพื่อไม่พลาดบทความและข่าวสารดีๆอย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS