“ผีแดง”แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกไปปราบจ่าฝูง แมนเชสเตอร์ซิตี้ ถึงบ้าน 2-0 หยุดสถิติชนะรวดของเรือใบทุกรายการไว้ที่ 21 นัดติดต่อกัน ครองตำแหน่งรองจ่าฝูง มี 54 แต้ม ตามหลังจ่าฝูงซิตี้ 11 คะแนน
ในศึก”บิ๊กแมทช์” ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา เป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีของเมืองแมนเชสเตอร์ เป็นเกมส์ดาร์บี้แมทช์ ระหว่างจ่าฝูง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้าน เอติฮัด สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของเพื่อนบ้านอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 3
ก่อนเกมส์นี้ ทีมเรือใบสีฟ้าของกุนซือเป๊ป กวาร์ดิโอล่า นำเรือใบสีฟ้าโชว์ฟอร์มสุดหรู เอาชนะคู่แข่งมา 21 เกมส์ติดต่อกันในทุกรายการ เกมส์นี้มีใช้ ริยาด มาห์เรซ, กาเบรียล เชซุส และ ราฮีม สเตอร์ลิง เป็นสามแนวรุกโดยมี เควิน เดอ บรอยน์ กัปตันและอิลคาย กุนโด ร่วมกันปั้นเกมส์กลางสนาม
ส่วนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดของกุนซือหน้าเด็ก โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผลงานต่างกันโดยสิ้นเชิง โดยผีแดงเสมอกับทีมคู่แข่งแบบไร้สกอร์ 0-0 มา 3 เกมส์ทุกรายการ เกมส์นี้ให้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ได้กลับลงมาเล่นเป็นตัวจริงอีกครั้ง มี 3 แนวรุกอย่าง แดเนี่ยล เจมส์, บรูโน่ แฟร์นันด์ส และมาร์คัส แรชฟอร์ด
เปิดฉากเริ่มเกมส์มาได้ไม่ถึงนาที แมนยูฯ ได้ลูกที่จุดโทษอย่างรวดเร็ว หลัง จากกาเบรียล เชซุส ทำฟาวล์มาร์กซิยาล ในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินแอนโธนี่ เทย์เลอร์ ชี้เป็นจุดโทษทันทีโดยไม่เรียกดูวีเออาร์ ก่อนที่ บรูโน่ แฟร์นันด์ส จะลงมือสังหารจุดโทษตัวตัวเองบอลแรงเสียบมุมผ่านมือเอแดร์ซอน เข้าไปใน แมนฯยูไนเต็ด บุกมานำเรือใบสีฟ้า 1-0 ในเวลาที่เหลือทั้งสองทีมผลัดกันทำเกมส์รุกเข้าใส่ฝ่าตรงข้าม มีลุ้นกันบ้างแต่ไม่มีใครทำประตูเพิ่ม จบครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตามหลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-1
ครึ่งหลังเริ่มต้นขึ้นไม่นานผู้รักษาประตู ดีน เฮนเดอร์สัน ออกบอลให้ ลุค ชอว์ ลากบอลจากครึ่งสนามขึ้นมา ก่อนทำชิ่งกับ แรชฟอร์ด แล้ววิ่งไปรอรับบอลด้านใน แรชฟอร์ด จ่ายบอลกลับมาให้ ลุค ชอว์บิดตัวซัดบอลเต็มตีนบอลพุ่งเลียดแหวกผู้เล่นเจ้าถิ่นเสียบเสาไกลเข้าไปชนิดที่ เอแดร์ซอน ประตูมือหนึ่งของทีมเรือใบได้แต่ยืนมอง แมนฯยูไนเต็ด นำห่าง 2-0
เมื่อนำห่างเกมส์ก็เข้าทางของแมนยู แมีทีมเรือใบจะโหมทำเกมส์บุกและมีโอกาสสร้างความหวาดเสียวให้แผงกองหลังผีแดงเป็นระยะ แต่ก็ไม่สามารถทวงประตูคืนมาได้ ทำให้จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พ่ายแพ้คาบ้านให้แก่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-2 ส่งผลให้ “เรือใบสีฟ้า” หยุดสถิติชนะ 21 นัดติดต่อกันทุกรายการ พร้อมส่งให้ “ผีแดง”ยึดรองจ่าฝูงคืนจาก เลสเตอร์ ซิตี้ ได้สำเร็จ มี 54 แต้ม ตามหลังจ่าฝูงเรือใบที่มี 65 แต้ม เหลือ 11 คะแนน
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม(ในวงเล็บคือผู้เล่นที่เปลี่ยนตัวลงมาแทน)
แมนฯซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส – ชูเอา กานเซโล่ (ไคล์ วอล์คเกอร์ น.65), จอห์น สโตนส์, รูเบน ดิอาส, โอเล็กซานเดร์ ซินเชนโก้ – เควิน เดอ บรอยน์, โรดรี้,อิลคาย กุนโดกัน – ริยาด มาห์เรซ, กาเบรียล เชซุส (ฟิล โฟเด้น น.70), ราฮีม สเตอร์ลิง
ผู้จัดการทีม : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
แมนฯยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดีน เฮนเดอร์สัน – อารอน วาน-บิสซาก้า, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, ลุค ชอว์ – สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, เฟร็ด – แดเนี่ยล เจมส์,บรูโน่ แฟร์นันด์ส (แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ น.90+3), มาร์คัส แรชฟอร์ด (เมสัน กรีนวู้ด น.73) – อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล (เนมานย่า มาติช น.88)
ผู้จัดการทีม : โอเล่ กุนนาร์ โซลชา
ผู้ตัดสิน : แอนโธนี่ เทย์เลอร์
.
ขอบคุณภาพจาก
You must be logged in to post a comment Login