เรจิส โปรเกรส กับการหวนกลับสู่บัลลังค์โลกที่ใช้เวลาถึง 3 ปี

เมื่อวันเสาร์ที่ 26 พย.ที่ผ่านมา เรจิส โปรเกรส นักชกวัย 29 ปี จากเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ประสบความสำเร็จในการกลับมาครองแชมป์โลกซูเปอร์ไลท์เวท WBC อีกครั้ง ด้วยการคว่ำ โฮเซ เซเปดา นักชกชาติเดียวกันในยก 11 หลังจากที่เขาต้องเสียแชมป์ให้กับ จอร์ช เทเลอร์ ในการชกล้มแชมป์ WBC Diamond , WBA Super World , IBF และยังเป็นรอบชิงชนะเลิศในรายการ World Boxing Super Series เมื่อปี 2019 อีกด้วย

        ก่อนการชก จากทรรศนะของบรรดาเกจิอาจารย์หลายคน ต่างบอกว่า การชกของโปรเกรส และ เซเปดา เป็นการชกที่คู่คี่สูสีอย่างมาก ทั้งคู่มีโอกาสแพ้ชนะ 50-50  แต่ว่า โปรเกรส ก็สามารถปลดปล่อยสิ่งที่ค้างคาใจมาถึง 3 ปี หลังจากที่เขาพ่ายแพ้แก่ เทเลอร์  เขาก็มานั่งคิดทบทวนในสิ่งที่ผิดพลาด และเริ่มกลับมาตั้งต้นใหม่ ตั้งใจศึกษาคู่ต่อสู้ทุกคน ที่จะชกกับเขา และทันทีที่ WBC มีคำสั่งอนุมัติให้เขาได้ชิงแชมป์ว่างกับ เซเปดา เขาจึงไม่ปล่อยโอกาสนั้นให้หลุดลอยไป เขามีเวลาเตรียมตัวสำหรับไฟท์นี้เกือบหกเดือน โปรเกรสบอกว่า แม้เขาต้องการที่จะแก้มือกับเทเลอร์เท่าไหร่ก็ตาม แต่ตอนนี้ต้องเพ่งสมาธิไปกับการชกกับเซเปดามากกว่า

        ถึงวันชก เซเปดา เป็นฝ่ายเปิดเกมการชกได้ดี จนมาถึงยกสาม โปรเกรสเริ่มหาจังหวะได้ เขามีฟุตเวิร์คและการออกหมัดที่เยี่ยมยอด หลังจากยก 6 จะเห็นได้ว่า เซเปดา เริ่มจะเปลี่ยนแผนการต่อสู้  แต่ก็ไม่สามารถทำให้โปรเกรสนั้นบอบช้ำได้ เซเปดามีทางเลือกแค่จะยอมแพ้น็อค หรือประครองตัวไปครบยกเพื่อแพ้คะแนน จนกระทั่งมาถึงยก 11 โปรเกรส จึงสามารถสำเร็จโทษ เซเปดาได้ เมื่อเวลาผ่านไป 59 วินาที ทำให้ เรจิส โปรเกรส กลับมาครองแชมป์โลกซูเปอร์ไลท์เวท WBC ได้อีกครั้ง

    สำหรับคู่ต่อสู้คนต่อไปของโปรเกรส คาดว่าน่าจะเป็น โฮเซ คาร์ลอส รามิเรซ อดีตแชมป์โลกเส้นนี้ หรืออาจเป็น ทีโอฟิโม โลเปซ อดีตแชมป์โลกไลท์เวท แต่สำหรับจอร์ช เทเลอร์ คู่ปรับเก่าของเขา เส้นทางเดินอาจจะยังขนานกันอยู่ เพราะว่า เทเลอร์ยังมีภาระผูกพันในการชกกับ แจ็ค แคทเทอร์รัล รอบ 2 หากเทเลอร์ผ่านแคทเทอรอลไปได้ เราอาจได้เห็นการชกของโปรเกรส – เทเลอร์ ไฟท์ 2 ก็เป็นได้   

      ทางด้าน โฮเซ เซเปดา เป็นการพ่ายแพ้ครั้งที่ 3 ในชีวิตการชกของเขา และทั้ง 3 ครั้ง เป็นการพ่ายแพ้ในไฟท์ชิงแชมป์โลกทั้งสิ้น แต่ในวัย 33 ปีของเขา เชื่อว่าด้วยความสามารถของเขา อาจจะยังพอมีโอกาสได้ชิงแชมป์โลกอีก แต่ถ้าหากยังชิงครั้งที่ 4 แล้วไม่ได้อีก นั่นก็คงทำให้เขาเป็นได้แค่เพียงนักชกที่แข็งแกร่งคนหนึ่งแค่นั้นเอง