Connect with us

Sports

“สเตฟเฟ่น เคอรี่” ว่าที่ตำนาน NBA

“สเตฟเฟ่น เคอรี่” ว่าที่ตำนาน NBA

Published

on

“สเตฟเฟ่น เคอรี่” ราชันย์ชู้ต 3 คะแนน ยอดนักบาสเกตบอลของทีมวอริเออร์ หลายคนกล่าวยกย่องเคอรี่ ว่าคือว่าที่ตำนานที่จะเดินรอยตามไมเคิล จอร์แดน, โคบี้ ไบรอันท์, เลอบรอน เจมส์ แต่อีกทางนึงหลายคนกลับบอกว่า เคอรี่ยังไปไม่ถึงจุดนั้น และยังต้องพิสูจน์อีกเยอะแยะมากมาย “เค้ายังไม่สามารถไปถึงจุดที่เทียบรอยของจอร์แดน, โคบี้, คารีม อับดุลจาบาร์ได้ เค้ายอดเยี่ยม แต่ยังไปไม่ถึงเส้นนั้น” นั่นคือคำกล่าวที่ทีแมคได้เคยกล่าวเอาไว้

“ผมถูกปรามาสมาตลอดชีวิตแหละ แต่ผมเลือกที่จะไม่แคร์มันนะ ผมไม่รู้ว่าคนอื่นคิดยังไง มันสำคัญที่ผมคิดยังไง” เคอรี่ได้กล่าวไว้ในสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ซึ่งในตอนนั้นเค้าถูกจัดเกรดเป็นเพียงแค่นักบาสระดับ 3 ดาวเท่านั้น ไม่ได้มีฝีมือที่โดดเด่นมาก บวกกับรูปร่างที่เล็กกว่านักบาสทั่วไปด้วย และนั่นก็เป็นสิ่งที่เคอรี่ทราบดีว่า “รูปร่างเปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่ฝีมือสร้างขึ้นได้” การที่เคอรี่ไม่ถูกมหาวิทยาลัยชั้นนำให้ทุนการศึกษา รวมถึงการถูกปรามาสจัดแรงค์ต่ำๆให้ นั่นถือเป็นแรงผลักดันชั้นดีให้กับตัวเค้า

. “ผมซ้อม ซ้อม มีคุณพ่อผมที่ช่วยผมตลอด ตอนเด็กๆเราช่วยกันทั้งครอบครัวเลย แม่ผม น้องชายผม สนามหลังบ้านคือที่ๆเราต้องเล่นบาสกันทุกวัน” อาจจะเป็นเพราะการที่เคอรี่ได้เข้าไปอยู่ในสภาพแวดล้อมใน NBA ที่มีแต่นักบาสชั้นนำตั้งแต่เด็ก หรืออาจจะเป็นพรสวรรค์ที่ส่งต่อกันมา แต่สิ่งนึงที่ปฏิเสธไม่ได้คือ “เคอรี่เป็นคนที่มีความพยายามมากกว่าคนอื่น” นั่นคือสิ่งที่เดล เคอรี่เคยบอกเอาไว้ “ผมสอนเค้ามาตั้งแต่เด็ก สเตฟเรียนรู้ได้ไวมาก และทำมันได้ทันที

แม้ว่าจะเข้าสู่ NBA ตามความฝันของตนเองได้แล้วก็ตาม แต่การถูกปรามาสก็ยังเกิดขึ้นตลอด ในการดราฟปี 2009 มียอดดาวรุ่งจากระดับมหาวิทยาลัยเข้าดราฟกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เบลค กริฟฟิน, เจมส์ ฮาเด้น, ไทรีค อีแวนส์, ริคกี้ รูบิโอ, เดมาร์ เดอโรซาน ซึ่งในการดราฟครั้งนั้นเคอรี่ถูกจับตามองในระดับนึง แต่ไม่ได้โดดเด่นมาก มินเนโซต้า ทิมเบอร์วูฟ ได้สิทธิการดราฟในครั้งนั้น 2 อันดับคือ อันดับที่ 5 และ 6 แต่บอร์ดบริหารนั้นต้องการดาวเด่นอย่าง ริคกี้ รูบิโอและจอนนี่ ฟลินท์ ทำให้มีการแซวกันมาตลอดว่า “นี่คือการดราฟที่ผิดพลาดมากอีกครั้งนึงในประวัติศาสตร์” ซึ่งแน่นอนว่าในตอนนั้นเคอรี่ไม่โดดเด่น รูปร่างเล็ก มีดีเพียงแค่การชู้ตวงนอก  แถมเคอรี่ในช่วงต้นอาชีพยังมีอาการบาดเจ็บเข้ามาบกวน นั่นทำให้เค้าถูกสื่อต่างๆปรามาสมาโดยตลอด

“ผมไม่ได้สนใจสิ่งที่เค้าพูดกันมา หรือเรื่องแบบนี้นักหรอก” เคอรี่เคยกล่าวเมื่อถูกถามถึงเรื่องนี้ แม้ว่าเค้าจะคว้าแชมป์ NBA ก่อนหน้านี้ทั้ง 3 สมัย หรือได้เป็น MVP มา 2 สมัย และมีเกรียรติยศรางวัลต่างๆมากมายก็ตาม แต่นักวิจารณ์หลายคนก็ยังคงบอกว่า “เค้าไม่สามารถไปเป็นระดับตำนานได้”

แต่เคอรี่นั้นไม่ได้สนใจคำวิจารณ์เหล่านั้น เค้าได้สร้างจุดเด่นเพิ่มนั่นคือการชู้ตไกล และกลบจุดด้อยเรื่องอาการบาดเจ็บ ด้วยการเวทเทรนนิ่งและโภชนาการที่มากขึ้น นั่นทำให้การบาดเจ็บลดลง

.

และเค้าถูกยอมรับมากขึ้นจากสื่อ และจากยอดนักบาสระดับตำนานหลายคน “สเตฟคือคนที่เปลี่ยนรูปแบบการเล่นของนักบาสเกตบอลทั่วโลก เค้าคือผู้ปฏิวัติบาสเกตบอลยุคนี้” สตีเฟ่น เอ.สมิธ สื่อปากจัดแห่งแวดวง NBA ได้กล่าวไว้ และนั่นก็เป็นความจริง เคอรี่ได้ปฏิวัติรูปแบบการเล่นของยุคนี้ จากเดิมในยุคก่อนที่เล่นกันวงใน การทำแต้มวงนอกจะน้อย เน้นการโพสเพลย์ หรือระบบแผนที่ยิบย่อยเพื่อเอาคะแนนชัวร์ๆ แต่ในยุคนี้กลายเป็นยุคที่ทุกๆคน แม้กระทั่งเซ็นเตอร์ ต้องชู้ต 3 คะแนนได้ และต้องแม่นด้วย “สเตฟปฏิวัติการเล่นยุคนี้อย่างแท้จริง” เรย์ อัลเลน ตำนานรุ่นพี่ได้บอกประโยคนี้ไว้เมื่อตอนที่เคอรี่ทำลายสถิติชู้ต 3 คะแนนลงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ NBA

“เค้ายังไม่มี MVP ในรอบไฟนอล คุณคิดภาพตามผมนะ สองแชมป์แรกเคดีมาช่วยเค้า ทีมจึงมีแชมป์” ทีแมคได้กล่าวประโยคนี้ใน ESPN และแชคก็ได้เสริมว่า ผู้เล่นที่เป็นของจริงต้องคือคนขับรถบัส พาทีมไปสู่เป้าหมายให้ได้ ในปีนี้เคอรี่มีความมุ่งมั่นมาก เค้ารู้ดีว่าด้วยอายุ 34 ปี ถือว่าเป็นจุดที่เลยความพีคของนักบาสอาชีพแล้ว(จุดพีคคือ 27-28 ปี) หากไม่ได้แชมป์ตอนนี้ ก็ไม่รู้ว่าต้องรอและสร้างทีมกันอีกตอนไหน

และในปีนี้สเตฟเฟ่น เคอรี่ได้ทำตามเป้าหมายได้สำเร็จ เค้าได้แชมป์เป็นครั้งที่ 4 และยังพ่วงด้วยรางวัล MVP Final เคอรี่ได้ให้สัมภาษณ์หลังเกมว่า “ที่ผมร้องไห้นะเหรอ มันเหมือนเป็นการปลดปล่อย มันเหมือนว่าผมทำได้ ผมพิสูจน์ตัวเองได้ ผมมาถึงเป้าหมายแล้ว มันดีใจมากนะ ผมร้องไห้เพราะผมภูมิใจกับตัวผมเอง ผมเชื่อว่าพ่อ แม่ ครอบครัวผมก็ภูมิใจกับผมเหมือนกัน มันเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของผม”

.

การได้แชมป์ NBA 4 สมัย, MVP ฤดูกาลปกติ 2 สมัย, MVP รอบชิงชนะเลิศ, MVP ออลสตาร์, ผู้เล่นที่ชู้ต 3 คะแนนลงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ และเกียรติยศอื่นๆอีกมากมาย นั่นคือเครื่องพิสูจน์แล้วว่า “สเตฟเฟ่น เคอรี่” คือว่าที่ตำนานของ NBA อย่างแท้จริง

#เพื่อไม่พลาดบทความดีๆและข่าวสารจากเราอย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: