Connect with us

Sports

“ คนนั่งหลัง ที่แตกต่าง “

นักกีฬาแบดมินตัน นอกจากการแข่งขันแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดอีกหนึ่งอย่างก็คือ การฝึกซ้อม และผู้ที่ทำการดูแลในการฝึกซ้อมนั่นก็คือ ผู้ฝึกสอน

Published

on

นักกีฬาแบดมินตัน นอกจากการแข่งขันแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดอีกหนึ่งอย่างก็คือ การฝึกซ้อม และผู้ที่ทำการดูแลในการฝึกซ้อมนั่นก็คือ ผู้ฝึกสอน หรือที่เราเรียกกันว่า “ โค้ช “ หน้าที่หลักของโค้ชนั้นคือการค้นหาเทคนิคและทำการฝึกสอนหรือซ้อมให้กับนักกีฬาพร้อมทั้งดูแลในเรื่องโปรแกรมการฝึกด้านกำลังเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อในร่างกายให้พร้อมเพื่อการมีพัฒนาการของนักกีฬาในการออกไปทำการแข่งขันในแต่ละทัวร์นาเม้นท์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

เมื่อเราพูดถึงคำว่า “ โค้ช ” ที่ต้องทำหน้าที่ในการดูแลการฝึกซ้อมและลงทำการแก้เกมในระหว่างที่นักกีฬาแบดฯทำการแข่งขันนั้นเราจะเห็นจากการแข่งขันว่า โค้ช มีเวลาในสองช่วงเท่านั้น หนึ่งคือ ช่วงกลางเกมตอนเข้าพัก 11 คะแนน และช่วงที่สองตอนพักระหว่างเกม ที่โค้ชจะสามารถพูดคุยแก้เกมหรือให้กำลังใจกับนักกีฬาของตนเองได้อย่างถูกต้องตามกติกา ไม่รวมไปถึงการพูดหรือส่งเสียงลงไปในสนามระหว่างที่แข่งขันซึ่งในวันนี้อยากพูดถึง คำว่า “ กำลังใจ “ ที่ควรมีให้นักกีฬาในระหว่าเกมการแข่งขันฯ

ในปัจจุบันนี้เราจะเห็นอยู่ว่านักกีฬาหลาย ๆ คน ไม่มีโค้ชนั่งอยู่ในเก้าอี้ด้านหลัง หรืออีกนัยหนึ่งคือไม่มีโค้ชติดตามไปในการแข่งขันนั้น ๆ อาจมีด้วยกันหลายสาเหตุ แต่อยากยกประเด็นของการให้กำลังใจ ที่เห็นชัดในนักแบดมินตันชายเดี่ยวในอันดับ 4 ของโลกในปัจจุบันนี้ คือ “ โจวเทียนเฉิน “ นักแบดฯจากไต้หวัน ที่นักแบดฯหนุ่มในวัย 32 คนนี้นั้นคนที่นั่งอยู่ด้านหลังของเขาทุกครั้งกลับไม่ใช่โค้ช แต่เป็นนักวิทยาศาสตร์ด้านกีฬาหญิง ที่ชื่อว่า “ วิคตอเรีย เกา “ ซึ่งเธอคนนี้ได้ทำให้เห็นในความแตกต่างของเก้าอี้ด้านหลังของนักแบดฯ ที่จะไม่มีความกดดันส่งมายังนักกีฬา

 เพราะอะไรถึงพูดว่าความกดดันส่งมาถึงนักกีฬา ก็เพราะเราเห็นในหลายๆ คนที่มีโค้ชนั่งอยู่ด้านหลังแต่ไม่อยากหันไปมองหรือสบตาเลยสักนิดเพราะด้วยสไตล์ของโค้ชแต่ละคนไม่เหมือนกัน ยิ่งถ้าเป็นโค้ชที่มีอายุสักหน่อยหรือสไตล์แบบในอดีต ก็มักจะมีเรื่องของการใส่อารมณ์เข้ามาในการแก้เกมหรือสั่งนักกีฬาตลอดทั้งเกม แต่เรื่องนี้ไม่เคยเกิดกับ “ โจวเทียนเฉิน “ จากภาพที่เราเห็นในทุกสนามที่เขาแข่งขัน โจวเทียนเฉิน ได้รับ “ กำลังใจ “ รวมถึง “ พลังบวก “ อย่างมากมายจากตำแหน่งเก้าอี้ด้านหลังของเขา ไม่ว่าจะพักระหว่างเกมหรือในระหว่างเกม เขาก็รู้สึกว่ากำลังใจและพลังบวกที่ส่งมาจาก “ วิคตอเรีย เกา “

  ในรายการล่าสุดที่เกิด ดราม่า กับ โจวเทียนเฉิน ในรายการ HYLO Open 2022 รายการในระดับเวิลด์ทัวร์ซุปเปอร์ 300 ในรอบชิงชนะเลิศ ที่โจวเทียนเฉิน พบกับ แอนโทนี่ กินติ้ง ชายเดี่ยว จากอินโดนีเซีย ที่เหตุการณ์ที่เปรียบเสมือนการถูกปล้นแชมป์ไปจาก อาโจว คือในเกมที่สามเกมตัดสิน คะแนนของทั้งสองคนเท่ากันที่ 22 – 22 ลูกด้านหน้าแบ็คแฮนด์ที่วางมาโดยกินติ้ง และ อาโจวเข้าไปรับได้ แต่กรรมการขานฟาวล์ ว่าลูกขนไก่ลงพื้นไปก่อนแล้ว ซึ่งสร้างความตกใจและมึนงง กับการตัดสินของกรรมการจึงได้เรียกกรรมการผู้ชี้ขาดมาเพื่อขอดูภาพช้า แต่ก็ไม่สามารถเรียกร้องจากกรรมการได้จามที่ขอ ทำให้อาโจว หงุดหงิดและแสดงอารมณ์ไม่พอใจอย่างมาก แบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และเสียคะแนนนั้นไป ทั้งๆ ที่ภาพช้าจากการถ่ายทอด ก็เห็นว่าลูกยังไม่ถึงพื้นแต่ในสนามกรรมการไม่ยอมเปิดภาพช้าให้ โจวเทียนเฉินได้ดู ทำให้คะแนนต่อมา แอนโทนี่ กินติ้ง ก็อาศัยความได้เปรียบทำคะแนนชนะไป 24 – 22 อาโจวเสียอาการเป็นอย่างมาก อาโจว หันหลังไป หาวิคตอเรีย เกา เธอกลับไม่มีอาการโมโหหรือไปสนับสนุนการคัดค้านการตัดสินของกรรมการ แต่กลับ ทำมือ รูปหัวใจ ส่งให้ โจวเทียนเฉิน เพื่อเป็นกำลังใจและพลังบวกที่แท้จริง เพื่อให้อารมณ์ของนักกีฬาสงบลง และบอกให้นักกีฬาไปจับมือกับกรรมการที่ตัดสินผิดพลาดไปด้วย ซึ่งถ้าเป็นโค้ชคนอื่น ๆ ไม่มีทางทำแบบนี้เป็นแน่ แสดงให้เห็นว่า วิคตอเรีย เกา เธอเป็นคนนั่งหลังที่แตกต่าง ออกไปจริงๆ

นี่คือสิ่งที่โจวเทียนเฉิน ได้รับจาก วิคตอเรีย เกา แบบที่นักกีฬาคนอื่น อาจจะไม่ได้รับ จากคนที่นั่งข้างหลังพวกเค้า ก็เป็นได้

 สิ่งที่ นักกีฬาแบดมินตันทุกคนคงอยากได้เพิ่มจาก “ คนที่นั่งข้างหลังพวกเขา “ นั่นก็คือ พลังบวกที่เป็นกำลังใจ เพื่อเป็นแรงผลักดันรวมถึงลดความกดดันจากเกมการแข่งขัน และจะทำให้นักกีฬาทุกคนสามารถทำผลงานได้ดีขึ้นอย่างแน่นอนเมื่อไม่อยู่ภายใต้ความกดดันจากคนกันเอง…..นี่แหละ คนนั่งหลังที่แตกต่าง

#เพื่อไม่พลาดบทความและข่าวสารดีๆจากพวกเรา อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS

บทความโดย Andy27

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: