เขียนโดย “คุณเอ๋ วัชรินทร์ จัตุชัย” (แชมป์แฟนพันธ์แท้บาสเกตบอล NBA)
ย้อนกลับไปเมื่อปี 1996 ในการดราฟเข้าสู่ NBA ชาร์ลอต ฮอเน็ตส์ได้เลือกเอาเด็กหนุ่มที่เพิ่งจบจากมหาวิทยาลัย “โคบี้ ไบรอันท์” เข้ามาสู่ทีมในฐานะตัวเลือกอันดับที่ 13 แต่โคบี้ ไบรอันท์ในวัย 18 ปีขณะนั้น กลับไม่ทันได้สวมใส่ชุดของทีมฮอเน็ตส์ และก็ถูกเทรดไปสู่ “แอลเอ เลเกอร์ส” ซึ่งเมื่อไปอยู่เลเกอร์สทีมใหญ่แห่งฝั่งตะวันตกในตอนนั้น โคบี้ก็ได้ฉายแวว และพัฒนาฝีมือที่ยอดเยี่ยม จนพาเลเกอร์สนั้นคว้าแชมป์ 5 สมัย แถมตัวเค้าได้ตำแหน่ง MVP อีก 1 สมัย ซึ่งนอกจากในตลอดการเล่นอาชีพ NBA กับเลเกอร์สนั้น โคบี้ก็ได้สร้างตำนานและคุณค่าหลายอย่างที่ทิ้งไว้ให้กับ NBA ก่อนที่เค้าจะจากโลกนี้ไป
.
เมื่อก้าวเข้ามาสู่ลีคบาสเกตบอลที่ดีที่สุดของโลกในปี 1996 แล้ว แน่นอนว่าหลายคนเฝ้ารอดูนัดสำคัญนัดแรกของโคบี้ ไบรอันท์ที่จะเจอกับซุปเปอร์สตาร์เบอร์ 1 ของลีคในขณะนั้นอย่าง “ไมเคิล จอร์แดน” ไม่มีใครคิดว่าโคบี้จะชนะเพราะเค้าเพิ่งจบจากมัธยม 6 เท่านั้น การเรียนรู้ การหาประสบการณ์ และเส้นทางของบาสเกตบอลของโคบี้มันยังอีกยาวไกล “หลายคนอยากดูผมเจอกับไมเคิล ผมรู้นะ คนอยากดูเค้ากับผมดวลตัวต่อตัวกัน อยากรู้ว่ามันจะเป็นยังไงถ้าเราได้เจอกัน ผมเองก็อยากเจอ อยากแข่งกับเค้าเหมือนกัน” นั่นคือสิ่งที่โคบี้ได้บอกกับสื่อ ก่อนที่จะมีการเจอกับไมเคิล จอร์แดนในวันที่ 17 ธันวาคม 1996 การดวลกันของซุปเปอร์สตาร์ดาวค้างฟ้ากับหนุ่มที่เพิ่งจบจากมัธยม 6 ที่อายุน้อยที่สุดใน NBA ขณะนั้น “ออ ได้เด็กจากเลเกอร์สคนนั้นนะเหรอ ผมก็ไม่ได้รู้จักเค้ามากมายหรอก” นั่นคือสิ่งที่ไมเคิล จอร์แดนให้สัมภาษณ์ก่อนเกม
.
แม้ว่าในการเจอกันครั้งนั้นโคบี้จะโดนจอร์แดนสอนมวย และทำได้เพียงแค่ 5 แต้ม ส่วนจอร์แดนทำไปสบายๆ 30 แต้ม แต่นั่นกลับเป็นไฟที่ทำให้โคบี้นั้นต้องเก่งกว่านี้ให้ได้ โคบี้ฝึกซ้อมหนักขึ้น และมีความมุ่งมั่นมากขึ้น “ผมอยากจะเป็นเหมือนไมเคิล” นั่นคือประโยคง่ายๆที่โคบี้ได้บอกเอาไว้ แน่นอนว่าแค่ความมุ่งมั่นไม่เพียงพอ โคบี้เข้าโรงยิมก่อนใครเพื่อน และออกหลังสุด เค้าทุ่มเททุกอย่างเพื่อที่จะเก่งขึ้นกว่าเดิม และไปพิสูจน์ทุกคนเห็นว่าเค้าก็มีดีเพียงพอ
.
ในการพบเจอกันของทั้งคู่อีกครั้งในวันที่ 17 ธันวาคม 1997 โคบี้ได้เจอกับจอร์แดนอีกครั้ง แต่ในวันนี้เค้ามาเป็นอีกคนกับที่เจอกับจอร์แดนในครั้งที่ผ่านมา โคบี้ทำไปถึง 33 คะแนน นั่นทำให้ไมเคิล จอร์แดนนั้นประทับใจในตัวเด็กหนุ่มวัย 19 คนนี้มาก หลังจบเกมจอร์แดนยังไม่กลับเข้าล๊อคเกอร์รูม แต่เค้ากลับมองหาโคบี้ เพื่อที่จะเอ่ยปากชมเด็กคนนี้ และเมื่อได้มีโอกาสคุยกันหลังเกม จอร์แดนได้ถามโคบี้ตรงๆว่า “ไอ้น้อง นายต้องการอะไรหรือเปล่า” สิ่งที่โคบี้ตอบก็คือ “ผมแค่อยากโทรหาคุณบ้าง ผมขอเบอร์คุณหน่อย”
.
“ให้ตายสิ !! ไอ้เด็กคนนี้มันคุยกับผมทั้งคืนเลย และก็ไม่ได้มีความเกรงใจเลย มันโทรมาหาผมห้าทุ่มบ้าง ตีสองบ้าง แถมโทรแทบจะทุกวันเลย” จอร์แดนเล่าความประทับใจกับความพยายามของโคบี้ ซึ่งจอร์แดนได้บอกว่า ตัวของโคบี้ไม่ได้โทรมาเพื่อที่จะคุยสารทุกข์สุขดิบ หรือปรึกษาปัญหาชีวิต แต่เค้าโทรมาเพื่อ “ขอวิชา” จากไมเคิล จอร์แดน เนื้อหาในการคุยไม่มีอะไรมากไปกว่าการทำให้ตัวเองนั้นพัฒนามากขึ้น “ผมต้องกระโดดยังไงดีพี่” “ผมควรจะหมุนตัวยังไงดี” “ผมควรจะบิดข้อมือตอนชู๊ตนิดนึงไหมพี่” แน่นอนว่าการโทรหาจอร์แดนตอนตีสองเพื่อถามเรื่องเหล่านี้ มันทำให้จอร์แดนรู้เลยว่า ไอ้เด็กคนนี้จะยิ่งใหญ่ในอนาคตที่จะมาถึงอย่างแน่นอน
.
ด้วยท่วงท่าการเล่นที่คล้ายคลึงกัน ด้วยลีลาในสนามที่แทบจะเหมือนกัน การที่แฟนๆจอร์แดนจะอคติกับโคบี้ว่าเค้าเลียนแบบจอร์แดนก็คงจะเป็นสิ่งที่ห้ามไม่ได้ แม้แต่สื่อยังบอกว่าโคบี้นั้นลอกเลียนทุกอย่างของจอร์แดน แต่กลับกันจอร์แดนนั้นได้บอกว่า “เด็กคนนี้มีจิตใจที่แข็งแกร่งมากนะ แกร่งกว่าผมด้วยซ้ำ แฟนๆหลายคนของผมไม่ชอบวิธีการเล่นของเค้า เพราะบอกว่ามันเหมือนพยายามลอกเลียนแบบผม แต่เค้าคือน้องชายของผม”
.
หลังจากที่ทั้งคู่นั้นมีอะไรเหมือนกัน การพูดคุยกันจึงมีบ่อยขึ้น และแม้ว่าจะสนิทกันมากเท่าไร แต่เมื่อเจอกันในสนามทั้งคู่จะไม่มีการออมมือให้แก่กัน โดยในการเล่นอาชีพนั้นจอร์แดนจะรีไทร์ไปก่อน ซึ่งเค้ารีไทร์ไปในปี 2003 แต่โคบี้ก็ยังคงโทรมาขอเคล็ดลับ และมาพบเจออยู่เสมอ จนกระทั่งเมื่อโคบี้นั้นได้เลิกเล่นในปี 2016 โคบี้ได้เปิดปากถึงความรัก และความเคารพที่มีต่อตัวของจอร์แดนว่า “เค้าคือพี่ชายของผม เค้าเป็นพี่ที่ผมรักมาก ผมเกลียดนะเวลาที่คนบอกว่า การดวลกันของเราทั้งคู่ใครจะชนะ แต่สิ่งที่ผมได้รับจากเค้าในการเจอกันในสนามแข่งทุกครั้งก็คือ คำแนะนำ ผมรักพี่ชายของผม”
.
แม้ว่าในปัจจุบันโคบี้ ไบรอันท์จะจากโลกนี้ไปแล้วก็ตาม แต่คำยกย่อง เสียงสรรเสริญของเค้าก็ยังคงอยู่ และความผูกพันธ์ของโคบี้ ไบรอันท์และไมเคิล จอร์แดนก็ยังมีเสมอ ซึ่งในพิธีศพของโคบี้นั้น จอร์แดนได้ร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายใคร พร้อมกับบอกประโยคสั้นๆว่า “เมื่อโคบี้ ไบรอันท์เสียชีวิตลง มันเหมือนส่วนหนึ่งในชีวิตของผม มันตายจากไปเช่นกัน หลับให้สบายน้องรัก”
You must be logged in to post a comment Login