Connect with us

Sports

เรือใบแล่นลอยลม บุกถล่มปืนใหญ่คาบ้าน นำโด่งเป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก

Published

on

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ คู่บิ๊กแมตซ์คืนวันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา ทีมเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ซิตี้ ฟอร์มยังคงแข็งแกร่งบุก ไปเยือนสนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยมของทีม ปืนใหญ่ อาร์เซนอล ที่ลอนดอน พร้อมทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เก็บชัยชนะติดต่อกันในลีกอย่างต่อเนื่องเป็นนัดที่ 13 โดยทีมเรือใบสีฟ้าได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วตั้งแต่ต้นเกมส์ ทำให่เมื่อจบเกมส์ แมนเชสเตอร์ซิตี้ มีคะแนนสะสม 59 คะแนนจากการลงเตะ 25 นัดนำโด่งเป็นจ่าฝูงต่อไป ในขณะที่ทีมปืนใหญ่ อาร์เซนอล ของมิเกล อาร์เตต้ามีคะแนนเพียง 34 คะแนนอยู่อันดับที่ 10 ของตาราง

โดยในเกมส์นี้มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีมปืนใหญ่จัดทัพโดยได้คีแรน เทียร์นี่ย์ แบ็คซ้ายตัวเก่งกลับมาลงสนามเป็นตัวจริง ส่วนแนวรุกใช้ มาร์ติน โอเดการ์ด ลงปั้นเกมร่วมกับ บูคาโย่ ซาก้า ส่วนหน้าเป้ามอบหมายให้ นิโกล้าส์ เปเป้ และกัปตันทีม ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง ลงล่าประตู

ส่วนทีมเรือใบสีฟ้าของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า หลังจากทำสถิติเอาชนะมา 17 นัดติดต่อกันทุกรายการ ก็จัดทีมชุดใหญ่ลงมาสู้กับอาร์เซนอล โดยวันนี้ได้ เควิน เดอ บรอยน์ กลับมาลงเป็นตัวจริง พร้อมทั้ง ราฮีม สเตอร์ลิง และริยาด มาห์เรซ โดยมี แฟร์นานดินโญ่ สวมบทตัวตัดเกมส่วน แบร์นาร์โด้ ซิลวา และอิลคาย กุนโดกัน เป็นตัวเชื่อมเกมรุกแดนหน้า

เขี่ยบอลเริ่มเกมส์ได้ไม่นาน ราฮีม สเตอร์ลิง ก็กระโดดโหม่งลูกโยนที่

มาร์เรซ บรรจงเปิดมาให้จากทางริมเส้น ลูกบอลเข้าไปตุงตาข่ายโดยที่ 

แบร์นด์ เลโน่ นายทวารปืนใหญ่ ทำได้แค่ยืนมองลูกเข้าประตูไปอย่างสุดเซ็ง ใช้เวลาตั้งแต่เริ่มเกมส์เพียง 1 นาที 15 วินาที 

หลังจากขึ้นนำเกมส์ก็เป็นของทีมเรือใบสีฟ้า อาร์เซนอลไม่สามารถทวงประตูคืนได้ จบเกมส์อาร์เซน่อล พ่ายคาบ้านให้แก่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-1 ส่งผลให้ “เรือใบสีฟ้า” ทำสถิติชนะทุกรายการที่ 18 นัดติดต่อกัน พร้อมขึ้นไปนำจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก โดยเก้บคะแนนเพิ่มเป็น 59 แต้มทิ้งอันดับ 2 อย่างแมนฯยูไนเต็ด และ เลสเตอร์ ซิตี้ 10 คะแนน ส่วน “ปืนใหญ่” ต้องพบกับความพ่ายแพ้เป็นเกมที่ 11 จากการลงเล่นทั้งหมด 25 นัด รั้งอันดับ 10 มี 34 คะแนนเหมือนเดิม

   รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม(ในวงเล็บคือตัวสำรองที่ลงมาแทน)

    อาร์เซน่อล (4-2-3-1) : แบร์นด์ เลโน่ – เอ็คตอร์ เบเยริน, ร็อบ โฮลดิ้ง (ดาวิด ลุยซ์ น.82), ปาโบล มารี, คีแรน เทียร์นี่ย์ – โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ (ดานี่ เซบายอส น.86), กรานิต ชาคา – บูคาโย่ ซาก้า, มาร์ติน โอเดการ์ด (อเลซองดร์ ลากาแซตต์ น.73), นิโกล้าส์ เปเป้ (เอมิล สมิธ โรว์ น.73) – ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมย็อง

    ผู้จัดการทีม : มิเกล อาร์เตต้า      

    แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส – ชูเอา กานเซโล่, รูเบน ดิอ๊าส, จอห์น สโตนส์, โอเล็กซานเดร้ ซินเชนโก้ – แบร์นาร์โด้ ซิลวา, แฟร์นานดินโญ่, อิลคาย กุนโดกัน – ริยาด มาห์เรซ, เควิน เดอ บรอยน์ (กาเบรียล เชซุส น.63), ราฮีม สเตอร์ลิง  

    ผู้จัดการทีม : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า  

    ผู้ตัดสิน : โจนาธาน มอสส์

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Click to comment

You must be logged in to post a comment Login

Leave a Reply

Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: