ลิเวอร์พูลกลับมาเอาชนะเกมส์ในลีกได้แล้ว หลังจากดิโอโก้า โฌต้า กลับมายิงประตูทีมเก่าของตัวเองได้

ผู้สื่อข่าวกีฬา สำนักข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่าในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ของอังกฤษ คู่ในช่วงกลางดึกของคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล คืนฟอร์มอีกครั้งหลังจากบุกไปเชือด “หมาป่า” วูล์ฟแฮมป์ตันถึงถิ่น 1-0 

จากประตูชัยของ ดิโอโก้ โชต้า

โดยเกมส์นี้วูล์ฟแฮมป์ตันเปิดบ้านสนามโมลินิวซ์ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของแชมป์เก่า หงส์แดง ลิเวอร์พูล ซึ่งก่อนหน้านี้ฟอร์มดิ่งลงเหว แพ้ในบ้านมาแล้ว 6 นัดติดต่อกัน 

เริ่มเกมส์ในครึ่งแรก ทีมหมาป่า เริ่มเกมส์ได้ดีกว่า ครองบอลได้มาก หาโอกาสเข้าไปสร้างความหวาดเสียงที่หน้าประตูหงส์แดงได้บ่อย แถมประกบตัวผู้เล่นได้ดี แก้เเกมส์กดดันของลิเวอร์พูลได้ ไม่เปิดโอกาสให้แนวรุกของหงส์แดงไปสร้างโอกาสที่หน้าประตูตัวเอง เกมส์เหมือนจะจบครึ่งแรกแบบเสมอกัน แต่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 45+2 จากจังหวะรุมแย่งบอลกันทางริมเส้นฝั่งซ้าย บอลลอยมาเข้าทางซาดิโอ มาเน่  ทำชิ่งกับ ซาลาห์ ก่อนจะลากบอลเข้าไปในเขตโทษแล้วถ่ายบอลมาทางฝั่งซ้าย ดิโอโก้ โฌต้า ตวัดยิงตามน้ำบอลพุ่งเลียดผ่านปลายมือ รุย ปาตริซิโอ เบียดเสาแรกเข้าประตูไป หมดครึ่งเวลาแรกลิเวอร์พูลขึ้นนำวูล์ฟแฮมป์ตัน 0-1

เริ่มเกมส์ในครึ่งหลัง วูล์ฟแฮมป์ตันเจ้าบ้านยังทำเกมส์บุกเข้าใส่แชมป์เก่าอย่างไม่เกรงศักดิ์ศรี แถมยังครองบอลได้ดีกว่า มีโอกาสเข้าไปยิงหลายหน แต่ยังไม่ผ่านมือ อลิซอน เบคเกอร์ หงสืแดงเองก็พยายามสร้างโอกาสเข้าไปทำประตู แถมฉวยโอกาสเข้าทำประตูได้ครั้งนึงจากซาลาห์ แต่มีธงยกเป้นลูกล้ำหน้าไปก่อน 

ช่วงท้ายก่อนหมดเวลา ต้องหยุดเกมส์ไปนานกว่า 10 นาทีเนื่องจาก รุย ปาตริซิโอ นายทวาร วูล์ฟแฮมป์ตัน ได้รับบาดเจ็บรุนแรงที่ศีรษะต้องปฐมพยาบาลกันอย่างรอบคอบ ก่อนที่เจ้าบ้านจะส่ง จอห์น รัดดี้ ประตูสำรองลงมาเล่นแทน เป็นการลงสนามในฐานะตัวสำรองคนที่ 4 ด้วยกฎโควต้าเปลี่ยนตัวพิเศษเนื่องจากมีผู้เล่นได้รับบาดเจ็บรุนแรง แต่หลังจากกลับมาเล่นกันต่อ ก็ไม่มีทีมใดสามารถทำประตูกันได้อีก 

จบเกม วูล์ฟแฮมป์ตันแพ้คาบ้านให้แก่ลิเวอร์พูลไป 0-1 ทำให้”หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เก็บคะแนนเพิ่มเป็น 46 คะแนนขยับขึ้นไปอยู่อันดับ 6 ของตารางมีแต้มเท่า เอฟเวอร์ตัน แต่ประตูได้-เสียดีกว่า แต่ก็ลงเตะมากกว่าอยู่ 1 นัด 

รายชื่อนักเตะที่ลงสนาม(ในวงเล็บคือตัวสำรองที่เปลี่ยนตัวลงมาแทน)

วูล์ฟแฮมป์ตัน เล่นระบบ 3-4-2-1 : รุย ปาตริซิโอ (จอห์น รัดดี้ น.90) – วิลลี่ โบลี่, คอเนอร์ เคาดี้, โรแม็ง ซาอิสส์ – เนลซอน เซเมโด้ (มอร์แกน กิ๊บส์-ไวท์ น.84), รูเบน เนเวส (เลอันเดร์ เดน​ดองเคอร์ น.76), ชูเอา มูตินโญ่, จอนนี่ กาสโตร – เปโดร เนโต้, อดาม่า ตราโอเร่ – วิลเลี่ยน โชเซ่ (ฟาบิโอ ซิลวา น.70)

ผู้จัดการทีม :  นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้

ลิเวอร์พูล เล่นระบบ 4-3-3 : อลิซอน เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, นาธาเนียล ฟิลลิปส์, โอซาน คาบัค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – ติอาโก้ อัลกานตาร่า (นาบี เกอิต้า น.67), ฟาบินโญ่, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม (เจมส์ มิลเนอร์ น.67) – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดิโอโก้ โฌต้า (อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด–แชมเบอร์เลน น.82), ซาดิโอ มาเน่  

ผู้จัดการทีม : เยอร์เก้น คล็อปป์

ผู้ตัดสิน : เครก พาวสัน

#TOJONEWS #สำนักข่าวโตโจ้นิวส์ #โตโจ้นิวส์ #ข่าวกีฬา #ลิเวอร์พูล #วูล์ฟแฮมป์ตัน #พรีเมียร์ลีก #โมลินิวซ์สเตเดี้ยม #Molineux #PremierLeague #LiverpoolFC #WolverhamptonWanderersFC 

ภาพจากทวิสเตอร์ 

– Wolverhampton Wanderers FC

– https://twitter.com/LFC/status/1371583523149262862?s=20