โอลิมปิกไม่ใช่แค่การแข่งกีฬา แต่ยังเป็น เครื่องมือ Soft Power ที่ประเทศต่าง ๆ ใช้ในการสร้างภาพลักษณ์ ดึงดูดนักท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจมหาศาล การเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกแต่ละครั้งจึงไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะมีทั้งต้นทุนและผลตอบแทนมหาศาลรออยู่
1. โอลิมปิก = เวทีโชว์ศักยภาพประเทศ
- เจ้าภาพใช้โอลิมปิกแสดงความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่น สนามกีฬา ระบบขนส่ง เมืองอัจฉริยะ
- การเปิด-ปิดโอลิมปิก คือการนำเสนอวัฒนธรรมในแบบ “โชว์ทั่วโลก” เช่น ปักกิ่ง 2008 ที่โชว์ความยิ่งใหญ่ หรือโตเกียว 2020 ที่โชว์เทคโนโลยีและความสร้างสรรค์
2. ผลทางเศรษฐกิจ
- การท่องเที่ยว: มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้าประเทศเจ้าภาพนับล้านคน
- การลงทุน: สร้างโครงสร้างพื้นฐาน เช่น สนามกีฬา รถไฟฟ้า โรงแรม ที่ยังใช้ประโยชน์ต่อไปได้
- การจ้างงาน: ตั้งแต่แรงงานก่อสร้างไปจนถึงงานอีเวนต์ บริการ และสื่อ
- ตัวอย่าง: ลอนดอน 2012 สร้างรายได้กว่า 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
3. ผลทางสังคมและภาพลักษณ์
- เพิ่มความภาคภูมิใจของประชาชน → การเชียร์นักกีฬาเป็นพลังรวมใจ
- ส่งเสริมสุขภาพและการเล่นกีฬาในประเทศ → เด็ก ๆ ได้แรงบันดาลใจจากฮีโร่นักกีฬา
- ประเทศเจ้าภาพได้รับการมองว่า “ทันสมัย เปิดกว้าง และมีศักยภาพ”
4. ด้านลบและข้อท้าทาย
- งบประมาณบานปลาย เช่น เอเธนส์ 2004 ใช้งบมหาศาลจนเศรษฐกิจประเทศสะเทือน
- สนามกีฬาหลายแห่งกลายเป็น “สนามร้าง” หลังจบงาน
- ความกดดันทางการเมืองและสังคม → มีทั้งการประท้วง สิทธิมนุษยชน และแรงกดดันระหว่างประเทศ
สรุป
โอลิมปิกคือเวทีที่ประเทศเจ้าภาพใช้ “กีฬา” เป็น Soft Power ผลักดันเศรษฐกิจ ดึงดูดนักท่องเที่ยว และสร้างภาพลักษณ์ในเวทีโลก แต่ก็ต้องบริหารจัดการอย่างระมัดระวัง ไม่อย่างนั้นอาจได้ “หนี้” มากกว่า “ชื่อเสียง”
อย่าลืมกดติดตาม Tojo News เพื่อพบกับข่าวสาร และบทความใหม่ ๆ จากเรา
Line Today TOJO NEWS , ToJoNews
#โตโจนิวส์ #TOJONEWS #สำนักข่าวโตโจนิวส์ #กีฬา #วัฒนธรรม