นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล และนางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ ลุงพล-ป้าแต๋น เปิดเผยภายหลังเข้าเครื่องจับเท็จตามกระบวนการสอบปากคำ คดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ หลานสาว นานกว่า 12 ชั่วโมง ที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน1 จ.ปทุมธานี โดยลุงพล มีสีหน้าเรียบเฉยท่าทางเคร่งเครียดเล็กน้อย และกล่าวว่า ไม่กังวลใจอะไรถือว่าได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ทุกอย่าง ในการเข้าเครื่องจับเท็จตำรวจถามคำถาม ทวน วกไปวนมา บางครั้งก็ตอบผิดตอบถูกและบางคำถามจะมีคำตอบเพียงแค่ ใช่หรือไม่ใช่เท่านั้น ส่วนตัวยังเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม และหวังว่าตำรวจจะปิดคดีและจับกุมคนร้ายได้ ทั้งนี้ ระหว่างการให้สัมภาษณ์ลุงพลมีน้ำตาซึมเหมือนจะร้องไห้ เนื่องจากรู้สึกสะเทือนใจที่ตำรวจถามเรื่องการเสียชีวิตของน้องชมพู่ทำให้ภาพที่เจอศพหลานยังติดตาและเสียใจทุกครั้งที่พูดถึงหลานสาว
ขณะ ป้าแต๋น กล่าวเช่นเดียวกันว่าไม่กังวลใจอะไร ในการเข้าเครื่องจับเท็จเจ้าหน้าที่สอบทีละคน ส่วนการสอบถามก็คล้ายๆการสอบปากคำจึงรู้สึกสะเทือนใจทุกครั้งที่ต้องพูดถึงการเสียชีวิตของหลานสาว และหวังว่าตำรวจจะปิดคดีได้เช่นกัน หลังจากให้สัมภาษณ์ลุงพลป้าแต๋น ได้ขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับบ้านกกกอก จว.มุกดาหารทันที โดยมีแฟนคลับเดินทางมาให้กำลังและมอบดอกกุหลาบจำนวนหนึ่ง
ด้าน พล.ต.ต.สันติ์ สุขวัจน์ รองผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน กล่าวถึงการนำลุงพลและป้าแต๋น รวมถึงคนใกล้ชิดเข้าเครื่องจับเท็จ ว่า เป็น 1 ในกระบวนการสอบสวน และเป็นส่วนหนึ่งของหลักฐานที่จะใช้ประกอบสำนวนคดีนี้ แต่ไม่ใช่การชี้ขาดว่าใครคือคนร้ายที่ฆาตกรรมน้องชมพู่ ส่วนสาเหตุที่เชิญคนในครอบครัวของน้องชมพู่ รวมถึงลุงพลกับป้าแต๋น ให้มาเข้าเครื่องจับเท็จ เนื่องจากเห็นว่าเป็นบุคคลใกล้ชิดที่สามารถเข้าถึงตัวน้องชมพู่ได้ง่าย โดยที่เด็กไม่ร้องหรือต่อต้าน ซึ่งไม่ได้หมายความว่าบุคคลเหล่านี้คือคนร้าย หรือ ผู้ต้องสงสัย ในคดี พร้อมยืนยันว่าเครื่องจับเท็จที่นำมาใช้มีมาตรฐานสากลถือเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์
ข้อมูล/ภาพ : policenews
You must be logged in to post a comment Login