Connect with us

Social

“สุชาติ” รมว.แรงงาน แย้ม! “โครงการ ม.33 เรารักกัน” คาดจะได้คนละ 3,500-4,500 บาท อาทิตย์ ละ 1,000 บาท รอเคาะ 5 ก.พ. นี้

Published

on

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยภายหลังเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ว่า นายกรัฐมนตรีเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือแรงงานผู้ประกันตนมาตรา 33 “โครงการ ม.33 เรารักกัน” โดยนายกฯ อยากให้ครบทุกคนที่มีสิทธิดังกล่าว 

ส่วนเม็ดเงินจะได้คนละเท่าไร และออกมาในรูปแบบไหนนั้น ต้องรอหารือในรายละเอียดอีกครั้ง แต่เบื้องต้นรูปแบบจะเป็นเหมือนโครงการเราชนะ โดยนำเงินเข้าแอพพลิเคชั่นเป๋าตังค์ เพื่อช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจอีกทางหนึ่งด้วย โดยยืนยันว่า คนในครอบครัวมาตรา 33 จะให้ทุกคนซึ่งมีอยู่ประมาณ 11 ล้านกว่าคน สำหรับเงื่อนไขผู้ที่จะได้รับสิทธิดังกล่าวนั้น นายกฯ ให้ความอนุเคราะห์ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอเหลือเงื่อนไขเดียวคือ คนที่มีเงินฝากเกิน 5 แสนบาท จะไม่ได้รับสิทธิเพียงเงื่อนไขเดียว 

นายสุชาติ กล่าวอีกว่า ส่วนในประเด็นเงินเดือนต่อปี รวม 3 แสนบาทนั้น ถ้านำประเด็นนี้มาจับคนที่ทำงานที่เดียวกันบางคนได้รับ แต่บางคนอาจไม่ได้ จึงอาจมีปัญหา และไม่เกิดความสามัคคีในที่ทำงาน จึงคิดกันว่า ไม่เอาเกณฑ์เงินเดือนมาพิจารณา เพราะคนที่เงินเดือนสูงค่าใช้จ่ายก็อาจสูงและคนเงินเดือนน้อยค่าใช้จ่ายก็อาจน้อย ตนจึงเสนอนายกฯ และรมว.คลัง ไม่เอาเรื่องเงินเดือนตรงนี้มาจับ ซึ่งนายกฯ เห็นด้วยในเหตุผล 

อย่างไรก็ตามเงินในส่วนนี้เป็นการใช้เงินกู้ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ลำบาก ดังนั้นคนมีเงินฝาก 5แสนบาทแล้ว ก็อยากให้เห็นใจเสียสละก็แล้วกัน ไม่อยากให้มีการมองว่ามีเงินฝาก 5 แสนหรือ 1ล้านแล้วทำไมมาเอาตรงนี้อีก จึงขอหลักเกณฑ์นี้ไว้หลักเกณฑ์เดียว ซึ่งก่อนหน้านี้กระทรวงการคลังก็อยากได้เกณฑ์เหมือนโครงการเราชนะ แต่ตนขอนายกฯ ให้ใช้เกณฑ์เงินฝาก ไม่นำเรื่องเงินเดือนมาพิจารณา ส่วนเม็ดเงินนั้นก็เป็นการใช้เม็ดเงินกู้ก้อนเดียวกับโครงการเราชนะ ไม่ใช่เงินประกันสังคม

เมื่อถามว่า โครงการดังกล่าวจะมีวงเงินต่อคนจำนวนเท่าไร นายสุชาติ กล่าวว่า เรื่องจำนวนเงินเดี๋ยวกลับไปทำตัวเลขอีกครั้ง แต่อยู่ประมาณ 3,500-4,500 บาท โดยจะเป็นการแบ่งจ่ายเป็นรายสัปดาห์ เช่นเดียวกับ “เราชนะ” โดยอาจให้ประมาณ 1,000 บาท ต่อสัปดาห์ โดยคาดว่าโครงการจะเริ่มจ่ายเงินให้ผู้ประกันตนได้ภายในเดือน มี.ค.64 

นายสุชาติ กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องเงินชดเชยมาตรา 33 จะได้ข้อสรุปภายในวันศุกร์ที่ 5 ก.พ.นี้ โดยจะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เร็วสุดภายในสัปดาห์หน้า หากไม่ทันก็ถัดไปอีกสัปดาห์หนึ่ง แต่วันนี้ถือว่านายกฯ กดปุ่มอนุมัติทุกคนให้ทั้งหมด 

โดยขอเงินรัฐบาลมาช่วยในมาตรา 33 นี้ประมาณ 4 หมื่นล้านบาท โดยหลังจากนี้จะมีการกดปุ่มเปิดให้ลงทะเบียนออนไลน์ ส่วนคนที่มีแอพเป๋าตังค์อยู่แล้วก็ต้องลดทะเบียนออนไลน์ เพื่อยืนยันสิทธิเช่นเดียวกัน โดยย้ำว่า ผู้ที่จะได้รับสิทธิจะต้องเข้าหลักเงื่อนไข 3 ข้อได้แก่ เป็นคนไทย, มีเงินฝากในบัญชีไม่เกิน 5 แสนบาท และเป็นผู้ประกันตนในมาตรา 33 ซึ่งคาดว่าจะมีผู้รับสิทธิที่เข้าเงื่อนไขนี้ประมาณ 9 ล้านคน 

นายสุชาติ กล่าวว่า นอกจากนี้นายกฯ ฝากไปพิจารณาเรื่องเงินทุนชราภาพ ให้แก้ปัญหาให้เร็วที่สุด โดยทางออกมี 2 ทาง ในการแก้ปัญหาระยะยาวคือ การแก้ พ.ร.บ. ส่วนการแก้ปัญหาระยะสั้นกำลังหารือกฤษฎีกาตีความอยู่ ว่าจะสามารถนำเงินมาลงทุนกับผู้ประกันตนได้หรือไม่ อย่างเช่นการปล่อยกู้ให้กับผู้ประกันตนในอัตราดอกเบี้ยต่ำร้อยละ 2 ต่อปี 

นายสุชาติ กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มนักร้อง นักดนตรี ที่เรียกร้องให้ชดเชยเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบเป็นเงินสดว่า ตนก็เคยเป็นผู้ใช้แรงงาน บางครั้งมีเงินสดก็เอาไว้ใช้จ่ายในสิ่งที่ต้องใช้เงินสดไว้ใช้ในสิ่งที่ใช้ไม่ได้ เช่น ค่าเทอม ค่าเช่าบ้าน ส่วนการซื้อของกินของใช้ก็ใช้จ่ายผ่านแอพพลิเคชั่นเป๋าตังค์แทน ซึ่งต้องรู้จักบริหารจัดการ

เมื่อถามว่า จะเป็นการตีกรอบการใช้เงินหรือไม่นั้น นายสุชาติ กล่าวว่า ตามหลักเศรษฐศาสตร์ การเอาเงินออกมาเป็นแสนล้าน สิ่งหนึ่งที่จะกลับเข้ามาจะเป็นการฟูขึ้นของเศรษฐกิจ จะทำให้เกิดการหมุนเวียนในภาพใหญ่และฟื้นตัวโดยเร็ว ขอให้เชื่อมั่น เพราะ รมว.คลังได้คิดมาแล้ว ซึ่งย้ำว่า สิ่งที่นายกรัฐมนตรีคิดเพื่อช่วยเหลือแรงงาน นี่คือเจตนารมณ์ กระทรวงแรงงานเป็นผู้ช่วยสนับสนุนข้อมูลในการตัดสินใจ การใช้จ่ายชดเชยเป็นเงินสดเป็นไปได้ลำบาก หากใช้ผิดประเภทก็จะทำให้เจตนารมณ์สูญเปล่า

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Click to comment

You must be logged in to post a comment Login

Leave a Reply

Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: