ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า เกิดเหตุสามีภรรยาทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายกัน ภายในพื้นที่บ้านข้องโป้ หมู่ที่ 5 ตำบลบ้านขาม อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบผู้ต้องหาคือนายวิวัติ จิตรโก นั่งอยู่ภายในบ้านกอดร่างภรรยา ทราบชื่อคือนางจิลลาวัณย์ พาละแพน นอนแน่นิ่งสลบอยู่ใต้บันได
สอบสวนนายอาลักษณ์ ขันธ์พระ เจ้าของบ้านเล่าว่าก่อนเกิดเหตุได้นั่งดื่มเหล้ากันภายในบ้านของตนเอง 3 คน สักพักผู้ต้องหาได้ชวนภรรยา กลับไปนอนเพราะเมาแล้ว และบ้านอยู่ตรงข้ามกันแต่ผู้ต้องหาได้กลับไปนอนก่อน โดยภรรยาไม่ยอมกลับไปด้วย จึงนั่งดื่มสุรากับตนเองต่อภายในบ้าน 2 ต่อ 2 สักพักผู้ต้องหาได้แอบย้อนกลับมาและตรงเข้ามาชกต่อยตนเอง คาดว่าคงเกิดจากการระแวงหึงหวงคิดว่าตนจะไปมีอะไรกับภรรยา ตนเองพอโดนทำร้ายร่างกายจึงวิ่งหนีออกจากบ้านไป และได้ยินเสียงเอะอะโวยวายทำร้ายร่างกายกันอยู่ภายในบ้าน กระทั่งตำรวจมา
และจากการสอบถามนายวิวัติ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าก่อนเกิดเหตุได้มีปากเสียงทะเลาะวิวาทกันเพราะตนเองหึงหวงคิดว่าภรรยาแอบไปมีความสัมพันธ์กับนายอาลักษณ์ เจ้าของบ้านจึงได้ชกต่อยนายอาลักษณ์ฯ ขณะนั้นภรรยาได้วิ่งหนีขึ้นไปบนบ้าน ตนเองได้ตามขึ้นไปลากลงมาจากบันไดลงมากองที่พื้นและได้ทำร้ายร่างกายบริเวณศีรษะและใบหน้าจนภรรยาได้สลบแน่นิ่งไปจึงได้ไปหยิบกระป๋องแป้งซึ่งอยู่ในกระเป๋าถือของภรรยา ยัดเข้าไปที่บริเวณอวัยวะเพศจนมิด หลังจากนั้นจึงได้ใช้กระดาษมวนบุหรี่จุดไฟเผาบริเวณอวัยวะเพศ จนภรรยาแน่นิ่งไป
โดยยอมรับว่าลงมือก่อเหตุเพราะเมาสุรา และสำนึกผิดจึงได้กอดร่างของภรรยา จนเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาถึง
จากการตรวจสอบประวัติพบเคยติดคุกในคดีพยายามฆ่าออกจากคุกมาเมื่อปี 2559 ติดอยู่ที่เรือนจำจังหวัดอุดรธานี ออกมาจึงได้มาอยู่กินกับนางจิลลาวัณย์ พาละแพน ซึ่งระหว่างอยู่กินกันก็มีปากเสียงกับภรรยามาโดยตลอด ภรรยาชอบแอบมาดื่มสุราและไม่ค่อยกลับบ้านตนเองจึงออกตามหาและระแวงว่าภรรยาจะไปแอบมีชู้ดังกล่าว
ส่วนอาการของภรรยาผู้ต้องหาแพทย์แจ้งว่ามีบาดแผลที่บริเวณศรีษะใบหน้า และอวัยวะเพศโดนกระป๋องแป้งความยาว 4 นิ้ว ความกว้าง 2.4 นิ้วยัดเข้าไปจนมิด และมีร่องรอยไฟไหม้ที่บริเวณอวัยวะเพศเป็นแผลถลอกสีแดง ซึ่งตอนนี้อาการบาดเจ็บสาหัสเป็นตายเท่ากัน ให้เครื่องช่วยหายใจอยู่ในห้อง ICU
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหานายวิวัติ จิตรโก ผู้ต้องหาว่าทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ข่าวคืบหน้าผู้สื่อข่าวจะรายงานให้ทราบต่อไป
You must be logged in to post a comment Login