คุณแม่ “แตงโม นิดา” สงสัยสาเหตุการเสียชีวิตของลูกสาว ไม่เชื่อว่าจะตกน้ำจากอุบัติเหตุ
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า วันที่ 26 ก.พ.65 นางภนิตา ศิริประยุทธโยธิน หรือคุณแม่ แตงโม นิดา ดาราสาวชื่อดัง ได้เข้าพบเพื่อให้ปากคำพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อให้สอบปากคำเพิ่มเติม กรณีแตงโมพลัดตกเรือกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ตามที่ตำรวจได้นัดไว้ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่า พบศพแตงโม บริเวณท่าน้ำพิบูลสงคราม 1
โดย นางภนิตา กล่าวก่อนที่จะขึ้นไปพบตำรวจว่า ขณะนี้ทราบแล้วว่าเจ้าหน้าที่ได้พบกับลูกสาวแล้ว แต่ตำรวจได้นัดไว้เดี๋ยวขอคุยกับตำรวจก่อนแล้วค่อยไปดูลูกสาว เพราะยังมีหลายเรื่องที่ยังขาดใจอยู่เรื่องเรือที่ไม่มีคู่คี่และเรื่องเรือเรื่องการว่าจ้างไปถ่ายแบบบนเรือ ซึ่งติดใจทุกเรื่องโดยเฉพาะเรื่องการจ้าง ต้องสอบสวนให้รู้ว่าใครเป็นคนจ้างไปถ่ายแบบในเรือ แม่ไม่เชื่อว่าเป็นการไปกินข้าวกันตามปกติเพราะน้องโมแต่งตัวสวยมากเลย ชุดที่ไปถ่ายรูปแล้วเขานัดไปถ่ายรูปกัน ส่วนทั้ง 5 คนที่ไปด้วยกันรู้จักกับแตงโมมาก่อนหรือไม่ไม่ทราบเพราะทั้ง 5 คนแม่ไม่รู้จักสักคน
นางภนิตา กล่าวว่า ส่วนกระติก แม่ขอบอกตรงๆวันนี้เป็นวันที่ 3 แล้ว อยากเจอน้องโมแล้ว แต่ก็ติดผู้จัดการไม่เคยโทรหาแม่เลยสักครั้งเดียว คุณกระติกทำไมไม่บอกแม่ว่าเอาลูกไปถ่ายภาพแล้วตกเรือ ปกติงานต่างๆ แตงโมไม่ได้แจ้งให้แม่ทราบเพราะส่วนใหญ่เป็นงานในกรุงเทพฯ ซึ่งแม่ก็จะไปด้วย ส่วนการเอาไปขึ้นเรือขึ้นเครื่องบินมันก็ต้องบอกกันแต่นี่ไม่บอกจนถึงป่านนี้แล้วก็ยังไม่บอก
“การที่กระติกไม่บอกแม่เอาแตงโมไปลงเรือ ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่แม่ไม่สบายใจจะมาปิดบังอะไร ทำไมไม่บอกแต่คนในบ้านซึ่งเป็นพี่เลี้ยงของน้องโมก็ไม่บอกแม่ต้องโทรไปถามเองเขาถึงจะบอก มันมีอะไรเกิดขึ้น คือมันจะมีกลุ่มเพื่อนน้องโมกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้หญิงที่เป็นช่างแต่งหน้า เป็นเพื่อนสนิทอีกระดับหนึ่งของเขา วันนั้นที่แม่ไปท่าเรือพิบูลสงคราม 1 ก็มีนักข่าวมารุมแม่เยอะมาก คนกลุ่มนี้ก็พยายามดึงคุณแม่ออกมา บอกให้แม่ออกมาว่าจะพาไปพบน้องโม และบุคคลสำคัญ แม่ก็ยึกยักแต่เขาก็เอารถจอดรอ แม่รายงานว่าคิดจะเอาเราไปฆ่าหรือทำอะไรหรือเปล่าปิดปาก ก็มีเพื่อนน้องโมไปขึ้นรถไปพบบุคคลสำคัญปรากฏว่า ก็ไปพบพวกเขานั่นแหละ แล้วบอกแม่ว่า ขอให้แม่ไม่สัมภาษณ์กับนักข่าวใดๆทั้งสิ้น ส่วนมีเหตุผลอะไรแม่ไม่ทราบ นี่แหละคือสิ่งที่เขาต้องการ ส่วนคนกลุ่มนี้ได้รับคำสั่งมาจากใกล้แม่ไม่ทราบเลย ใครจะสั่งเขาได้ เพราะโมก็ไม่อยู่แล้วแม่ก็ไม่อยากปักปรำใคร”
นางภนิตา กล่าวอีกว่า น่าจะเป็นเรื่องปัจจุบันในเรือวันนั้น อาจจะมีการทะเลาะกัน เพราะมีภาพที่น้องมานั่งเศร้าอยู่ในเรือภาพหนึ่ง ส่วนคนอื่น ๆ ไปอยู่มุมอื่น อาจมีใครไม่พอใจน้องโม เพราะในเรือมีผู้หญิงอีก 2 คน รวมทั้งหมดเป็น 3 คนก็อาจจะมีผู้หญิงที่ไม่สวย ในเรือคุณแม่ก็เห็นอยู่คือคนสวยกับคนไม่สวย ต้องเข้าใจมันเป็นอะไรกันไม่พอใจ ส่วนผู้ชายแม่ก็ไม่รู้จักแค่เห็นหน้าภาพถ่ายเรือ
นางภนิตา กล่าวอีกว่า การที่น้องโมเป็นดาราดังเป็นเรื่องยาก ที่น้องโมจะไปนั่งปัสสาวะท้ายเรือ เป็นไปไม่ได้แน่นอน น้องโมไม่ทำประกอบกับใส่รองเท้าส้นสูง และแม่ได้เห็นเรือแล้วไม่มีที่ที่จะให้เขาไปนั่งปัสสาวะ จะไปยืนปัสสาวะได้อย่างไร เมื่อใส่รองเท้าส้นสูงจะไปยืนเปิดก้นหรือ เพราะฉะนั้นการไปปัสสาวะจึงเป็นไปไม่ได้ และข่าวก็ออกว่าผู้ชายคนหนึ่งที่อยู่ในเรือไปจอดเรือเทียบกับเรืออีกลำหนึ่ง เพื่อขอเข้าห้องน้ำ เขาทำได้แต่ทำไมไม่ชวนน้องโมไปด้วยน้องโมก็ปวดปัสสาวะ เมื่อมีข่าวนี้ออกมามันก็หมายความว่า ไม่ใช่น้องโมที่จะไปปัสสาวะท้ายเรือ
“แม่เชื่อว่าน้องโมไม่ได้ตกน้ำจากอุบัติเหตุ ถ้าพูดกันตรงๆต้องบอกว่าใช่เลย เพราะในเรืออาจมีปัญหาอะไรกันก็ตาม ก็ไม่ใช่ธรรมดาแล้ว ส่วน 5 คนที่เขาให้การ แม่ไม่รู้จัก เขาให้การอย่างไรแม่ก็ไม่รู้ รู้จักแค่กระติกคนเดียว แม่ยังติดใจแม่เชื่อว่าน้องโมไม่ได้ตกเรือไม่ได้ตกน้ำ ก็จะปรึกษาตำรวจเพราะเดี๋ยวตำรวจจะสอบสวนแม่ และตำรวจขอโทรศัพท์ของน้องโมด้วย ซึ่งขณะนี้โทรศัพท์อยู่กับแม่แล้ว”
นอกจากนี้คุณแม่ กล่าวถึง ประเด็นที่ชาวเน็ตสงสัยว่าภาพในอินสตราแกรมดาราสาวโดนลบไป อีกว่า เมื่อถามว่าแม่มีหลักฐานอะไรไหมนอกจากความรู้สึก คือแม่ไม่พูด แม่ไม่อยากปรักปรำใคร คือแม่เห็นเขาไม่สุภาพกับน้องโมหลายอย่าง เขาไม่ได้รักน้องโม ไม่ได้จริงใจกับน้องโมในสิ่งที่แม่เห็น ส่วนใครลบภาพใน IG ของน้องโมแม่ไม่ทราบ เพราะว่าแม่เพิ่งได้โทรศัพท์มาเมื่อคืนนี้เอง แสดงว่าก่อนหน้านั้นโทรศัพท์ก็อยู่กับกระติกนั่นแหละ และกว่าที่โทรศัพท์จะมาถึงมือแม่ ก็อยู่กับพี่เลี้ยงของน้องโม เพราะกระติกเขาเอาโทรศัพท์ไปให้พี่เลี้ยงน้องโมที่บ้าน เมื่อแม่ได้มาก็เปิดไม่เป็น แต่พี่เลี้ยงเขาคงใช้เป็นน่าจะมีบุคคลอื่นๆที่ทราบรหัสไอจีด้วย