ผู้สื่อข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเชีย ต้องจมอยู่ใต้บาดาล ตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้ว หลังเจอฝนจากฤดูมรสุมถล่มหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วมอย่างฉับพลัน ประชาชนอย่างน้อย 1,380 คนต้องอพยพหนีน้ำขึ้นที่สูง ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
สำนักงานบริหารจัดการภัยพิบัติแห่งชาติของอินโดนีเซีย(BNPD) รายงานว่า ต้องดำเนินการอพยพประชาชนอย่างน้อย 1,380 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่อาศัยอยู่ฝั่งตะวันออกและฝั่งใต้ของเมืองหลวง มาตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้ว เฉพาะในกรุงจาการ์ตาซึ่งได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุด จากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในระยะนี้ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน โดยระดับน้ำท่วมขังในบางพื้นที่สูงกว่า 2 เมตร
นายอานิส บาสเวดาน ผู้ว่าฯนครจาการ์ตา กล่าวว่า จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้รับรายงานอย่างเป็นทางการ เกี่ยวกับผู้เสียชีวิตและผู้สูญหาย อย่างไรก็ตาม หน่วยกู้ภัยยังคงเดินหน้าตรวจสอบชุมชนมากกว่า 200 แห่ง ที่ได้รับผลกระทบ โดยจะเน้นให้ความช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และผู้ที่ไม่สามารถให้ความช่วยเหลือตัวเองได้ก่อน ทั้งนี้ เทศบาลกรุงจาการ์ตาได้จัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวเพิ่มอีกมากกว่า 20 แห่งด้วย
ส่วนสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของอินโดนีเซียคาดการณ์ว่า นครจาการ์ตา เมืองหลวงของประเทศอาจต้องเผชิญกับฝนที่จะตกลงมาอย่างหนักอีกในสัปดาห์นี้ และอิทธิพลของพายุมรสุมระลอกนี้อาจกินเวลาไปจนถึงสิ้นเดือน กุมภาพันธ์อาจจะเลยไปจนถึงต้นเดือน มีนาคม นอกจากนี้ยังได้ยกระดับการเตือนภัยน้ำท่วมฉับพลัน ในเขตปาซาร์ มิงกู ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ด้วย หลังมีปริมาณฝนสะสมสูงกว่า 226 มิลลิเมตร ตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2550 เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ในกรุงจาการ์ตาและเมืองรอบนอก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตรวมกันมากกว่า 50 ราย
ขณะที่รัฐบาลของประธานาธิบดีโจโค วิโดโด มีแผนย้ายเมืองหลวงจากกรุงจาการ์ตาซึ่งตั้งอยู่บนเกาะชวา มีประชากรมากกว่า 30 ล้านคน ไปยัง กาลิมันตัน บนเกาะบอร์เนียว ในส่วนที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของอินโดนีเซีย ทางตะวันออกของประเทศ
แม้แผนการดังกล่าวมีอันต้องชะลอไปก่อน เนื่องจากภาครัฐต้องจัดสรรงบประมาณไปฟื้นฟูประเทศ จากวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 แต่เมื่อใดก็ตามที่แผนการกลับมาเดินหน้าอีกครั้งอย่างเป็นทางการ
อินโดนีเซียจะเป็นประเทศที่ 3 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งย้ายเมืองหลวงหรือตั้ง “เมืองหลวงทางราชการ” ต่อจากเมืองปุตราจายาของมาเลเซีย และกรุงเนปิดอว์ของเมียนมา
ข่าวและภาพจาก
https://aje.io/8mkr2
You must be logged in to post a comment Login