คามิโคจิ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น (Japan Alps) เป็นสถานที่แห่งสายน้ำตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา เป็นพื้นที่ธรรมชาติ ในจังหวัดนากาโน่ และเป็นส่วนหนึ่งของ อุทยานแห่งชาติชูบุซังกาคุ (Chubu Sangaku National Park) เลียบ แม่น้ำอาซุสะ (Azusa River) ซึ่งมีระยะทางยาวกว่า 15 กิโลเมตร
ใครที่ชอบธรรมชาติ รักการผจญภัย ชอบเที่ยวป่าเขา ต้องไปที่คามิโคจิ แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ที่มีวิวสุดอลังการแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น และเป็น จุดชมวิว Japan Alps ที่สวยงามที่สุด จนได้รับขนานนามว่าเป็น สวิสเซอร์แลนด์แห่งประเทศญี่ปุ่น
เนื่องจากตั้งอยู่ระหว่าง เมืองมัตสึโมโตะ และ ทาคายามะ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จึงนิยมไปเที่ยวแบบ One Day Trip แต่ใครที่อยากจะพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติในอุทยาน ที่นี่ก็มีจุดกางเต็นท์และที่พักให้บริการเช่นกันค่ะ
ฤดูกาลที่ควรไปเที่ยวที่คามิโคจิ ก่อนจะไปเที่ยว คามิโคจิ สิ่งแรกที่ควรรู้เลยคือ ที่นี่เปิดให้ท่องเที่ยวเพียงปีละ 7 เดือนเท่านั้น ตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน จนถึง กลางเดือนพฤศจิกายน ถ้าใครมีแพลนไปเที่ยวคามิโคจิในช่วงฤดูหนาวถือว่าอาจจะได้ไปเสียเที่ยว เพราะเป็นช่วงที่ทางอุทยานจะปิดทำการเพื่อที่จะฟื้นฟูธรรมชาติ อีกทั้งสภาพอากาศยังหนาวมากทำให้ไม่เหมาะกับเที่ยวนั่นเองค่ะ
ความสวยงามของคามิโคจิจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละฤดู แต่ช่วงสวยที่สุดของการมาเที่ยวที่นี่ก็คือช่วง ฤดูร้อน และ ฤดูใบไม้ร่วง สำหรับคนที่ชอบความเขียวขจีของผืนป่าและเขา ท้องฟ้าแจ่มใส อากาศอบอุ่นหน่อยก็ต้องไปในช่วงฤดูร้อน ช่วงเดือนกรกฎาคมไปจนถึงกลางเดือนกันยายน สำหรับคนที่ชอบอากาศเย็นๆ ได้ชมสีสันของใบไม้ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีก็ต้องมาช่วงปลายเดือนกันยายนจนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน บอกได้เลยว่าความงามไม่แพ้ที่อื่นแน่นอนค่ะ และจะสวยที่สุดในช่วงปลายเดือนตุลาคม เพราะเป็นช่วงที่ต้นไม้ได้เปลี่ยนสีแบบเต็มที่ ตัดกับภูเขาหิมะและสายน้ำสีฟ้าของแม่น้ำอาซุสะได้เป็นความสวยงามอีกแบบเลยค่ะ
สะพานกัปปะ (Kappa Bridge) เป็นสะพานที่ทอดข้ามผ่านแม่น้ำอาซุสะพร้อมกับวิวของภูเขาทางด้านหลัง ถือว่าเป็นจุดชมวิวและมุมถ่ายรูปยอดฮิต ยิ่งมาในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ต้นไม้ทุกต้นจะผลัดใบเป็นสีแดง สีส้ม สีเหลือง ไล่สีวิวสวยงามอลังการที่สุดๆเลยค่ะ
บึงไทโช (Taisho Pond) เป็นจุดชมวิวที่ไม่ไกลจากสะพานกัปปะ แต่ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันมาก กับความสวยงามของภูเขาที่สะท้อนบนผืนน้ำ บึงนี้เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟยาเกะดาเกะ (Mt.Yakedake ) ในปี ค.ศ. 1915 ทำให้เราเห็นเศษไม้ที่ผุพังบ้าง แต่บรรยากาศโดยรวมแล้วสวยงามเหนือคำบรรยาย หากมาในแต่ละช่วงเวลาก็จะเห็นความอัศจรรย์ที่ต่างกันไป เช่น ยามเช้าหลังพระอาทิตย์ขึ้น, ช่วงหิมะปกคลุมยอดภูเขา หรือแม้แต่ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี
บึงเมียวจิน (Myojin Bridge) เป็นบึงที่สวยงาม ตั้งอยู่ในเขตศาลเจ้าโฮทากะ (Hotaka Shrine) ทำให้มีบรรยากาศเงียบสงบ มีความศักดิ์สิทธิ์ ทุกๆ ปีจะมีการจัดงานเทศกาลที่นี่ด้วย หากเดินไปสุดปลายท่าน้ำที่ยื่นเข้าไปในบึง จะเห็นระฆังและกล่องสำหรับบริจาควางไว้ เราสามารถทำบุญและบูชาเทพเจ้าตรงนี้ได้
ในคามิโคจิมีเส้นทางให้ศึกษาธรรมชาติหลักๆ อยู่ 2 เส้น เส้นทางแรกคือ เส้นทางระหว่าง บึงไทโช(Taisho Pond) กับ สะพานกัปปะ ความยาวประมาณ 3 กิโลเมตร สำหรับใครที่มีเวลาอยากชมธรรมชาตินานๆ แนะนำให้ไปยังเส้นทาง บึงไทโช ไปจนถึง สะพานเมียวจิน (Myojin Bridge) ระยะทาง 7 กิโลเมตร เราจะได้ชมธรรมชาติอันร่มรื่นของป่าเขา รวมถึงทักทายกับน้องลิงก้นแดงที่จะออกมาให้เราเห็นหน้าค่าตาเป็นระยะ ทำให้เพลิดเพลินกับธรรมชาติไปอีกแบบค่ะ แต่แนะนำว่าควรเช็คสภาพอากาศให้เรียบร้อยก่อนเดินทางนะคะ
แม่น้ำอะซุสะ (Azusa River) แม่น้ำสีฟ้าใสแจ๋วเหมือนกับกระกระจก แม่น้ำอะซุสะเป็นอีกหนึ่งในไฮไลต์ของคามิโคจิ แม่น้ำสายนี้มีต้นน้ำมาจาก ภูเขายาริ (Mt. Yari) ไหลผ่ากลางหุบเขาคามิโคจิ ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักที่เป็นหัวใจของ คามิโคจิ เลยก็ว่าได้ เป็นแหล่งพักใจของนักท่องเที่ยวไว้สำหรับทำกิจกรรมพักผ่อนต่างๆ สามารถเดินเล่นเลียบแม่น้ำได้สบายๆ เลยค่ะ
อยากเที่ยวญี่ปุ่น หรืออยากทราบข้อมูล แต่ไม่อยากวุ่นวายกับการเตรียมการเดินทาง ปล่อยให้หน้าที่นั้นเป็นของทีมงาน บริษัท ชินฟูจิ ทราเวลเลอร์ บริษัทรับจัดทัวร์โดยตรงสู่ประเทศญี่ปุ่น มีบริการที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นบริการจัดกรุ๊ปเหมา กรุ๊ปส่วนตัว กรุ๊ปศึกษาดูงาน บริการเช่ารถบัส รถตู้ รถเที่ยวแบบ 1 Day Trip ไกด์นำเที่ยว บริการจองร้านอาหาร ที่พัก ค่าเข้าชม ให้ข้อมูลเส้นทางที่น่าสนใจ โดยผู้ชำนาญเส้นทางเป็นอย่างดี
สามารถติดตามได้ที่ Shinfuji Traveler Co.,Ltd หรือ สนใจจองทริป Line : @shinfujitraveler
ติดตามเรา Website : o2oforum Facebook : o2oforum Line : @o2oforum Subscribe : o2oforum Tel : 0970344225, 0970347554, 0970343220, 0952156145