การออมเงินในยุค 2024 ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การหยอดกระปุกอีกต่อไป เพราะเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในชีวิตประจำวัน ทำให้การออมเงินกลายเป็นเรื่องสนุก ยืดหยุ่น และทันสมัย เรามาดูวิธีการออมที่ไม่ซับซ้อน แถมยังช่วยจัดการเงินให้คุณอย่างเป็นระบบและเติบโตอย่างยั่งยืนในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันกันดีกว่า
1. ออมผ่านแอปพลิเคชันการเงิน
แอปฯ ออมเงินสมัยนี้มีฟีเจอร์หลากหลายมาก เช่น การติดตามรายรับ-รายจ่าย จัดหมวดหมู่เป้าหมาย และคอยแจ้งเตือนการออม แอปฯ ที่แนะนำก็มีอย่าง Piggipo หรือ TMRW ที่ให้เราเลือกตั้งเป้าหมายการออม เช่น ออมเพื่อเที่ยวปีใหม่ หรือลดภาระหนี้สิน ซึ่งแอปฯ เหล่านี้จะช่วยให้เรามองเห็นภาพรวมการออมชัดเจนและติดตามง่ายขึ้น
2. แบ่งบัญชีออมเป็นหมวดหมู่ต่างๆ
การแบ่งบัญชีเป็นหมวด เช่น บัญชีสำหรับค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน บัญชีเงินเกษียณ หรือบัญชีเพื่อการท่องเที่ยว ช่วยให้เห็นว่าเงินแต่ละก้อนมีเป้าหมายอะไร นอกจากจะช่วยจัดระเบียบแล้ว ยังทำให้เรารู้สึกว่าการออมเงินเป็นเรื่องสนุก ไม่จำเจ
3. ลงทุนในกองทุนและหุ้น
สำหรับใครที่อยากให้เงินโตขึ้นกว่าแค่ออมเฉยๆ ลองลงทุนในกองทุนรวมที่มีการจัดการให้เหมาะกับมือใหม่ หรือเลือกลงทุนในหุ้นที่สนใจผ่านแอปฯ อย่าง FINNOMENA หรือ SCB Easy Invest ซึ่งสามารถเลือกระดับความเสี่ยงที่ต้องการและมีทีมจัดการการลงทุนช่วยให้การลงทุนไม่ยุ่งยาก
4. ออมเงินผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล
คริปโตฯ และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ กลายเป็นช่องทางการลงทุนที่หลายคนสนใจ แต่อย่าลืมว่ามีความเสี่ยงสูง ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดและเริ่มต้นลงทุนด้วยจำนวนเงินที่ไม่สูงเกินไปผ่านแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ เช่น Bitkub หรือ Binance ซึ่งมีฟีเจอร์สำหรับนักลงทุนมือใหม่และมืออาชีพ
5. การออมอัตโนมัติผ่านธนาคาร
ธนาคารหลายแห่งมีโปรแกรมหักเงินอัตโนมัติเพื่อช่วยให้การออมเป็นเรื่องง่าย เช่น ธนาคารกรุงศรี หรือ SCB ที่มีฟีเจอร์ให้เราสามารถตั้งค่าให้หักเงินเข้าบัญชีออมได้เองโดยไม่ต้องคอยจำ ซึ่งช่วยสร้างนิสัยการออมอย่างต่อเนื่องโดยไม่รู้สึกว่าเป็นภาระ
6. ออมเล็กๆ แต่สม่ำเสมอ เช่น การเก็บแบงค์ 50
การออมเงินแบบง่ายๆ เช่น เก็บแบงค์ 50 หรือเก็บเหรียญ 10 ทุกครั้งที่ได้มาเป็นวิธีที่น่าลอง เพราะไม่ต้องกดดันตัวเองมากและมีความยืดหยุ่น นอกจากนี้ยังช่วยสร้างนิสัยการออมไปในตัว และเมื่อเวลาผ่านไป เงินก้อนเล็กๆ เหล่านี้อาจกลายเป็นเงินก้อนใหญ่ได้อย่างไม่น่าเชื่อ
7. การออมแบบปรับตามเป้าหมาย
หากมีเป้าหมายออมเฉพาะ เช่น การซื้อรถ การออมเพื่อการศึกษาต่อ สามารถปรับสัดส่วนการออมตามเป้าหมายได้ เช่น ตั้งเป้าออม 10% ของรายได้สำหรับการซื้อรถ หรือออม 5% สำหรับแผนท่องเที่ยว การแบ่งเป้าหมายออมเป็นสัดส่วนนี้จะช่วยให้เรารู้สึกว่ามีเป้าหมายที่แน่นอนและไม่ใช่การออมแบบไร้ทิศทาง
สรุป
ไม่ว่าจะใช้วิธีไหน การออมเงินในยุคนี้ไม่ได้เป็นแค่เรื่องของการเก็บออมเท่านั้น แต่เป็นการสร้างนิสัยทางการเงินที่ดี ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพื่อให้ออมง่ายขึ้น สะดวกขึ้น และเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ลองเลือกวิธีที่ตรงกับตัวเองที่สุด แล้วเริ่มออมตั้งแต่วันนี้เพื่ออนาคตที่มั่นคงกว่าเดิมครับ!
อย่าลืมกดติดตาม Tojo News เพื่อพบกับข่าวสาร และบทความใหม่ ๆ จากเรา
Line Today TOJO NEWS , ToJoNews
#โตโจนิวส์ #TOJONEWS #สำนักข่าวโตโจนิวส์ #ออมเงิน #เงิน #ลงทุน
