การเปิดการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยที่ 78 ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด ‘การรื้อสร้างความเชื่อมั่นและการสร้างใหม่ซึ่งความเป็นเอกภาพระดับโลก : เร่งรัดดำเนินการวาระ 2030 และ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนเพื่อให้เกิดสันติภาพ การเติบโตทางเศรษฐกิจ ความก้าวหน้า และความยั่งยืน สำหรับทุกภาคส่วน’
โดยเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2566 เวลาประมาณ 06:00 น. ตามเวลาประเทศไทย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ขึ้นกล่าวคำแถลงแรก ณ ที่ประชุม UNGA78 SDG Summit 2023 เพื่อยืนยันความมุ่งมั่นของไทย ในการบรรลุ “เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน” และการมุ่งสู่เป้าหมาย ดังนี้
- ภายในทศวรรษนี้ เราตั้งใจสร้างความเปลี่ยน แปลงทางการเมืองที่เข้มแข็ง รัฐบาลฯจะมีบทบาทเชิงรุกที่สร้างสรรค์บนเวทีโลก ผ่านความร่วมมือกับนานาประเทศเพื่อเสริมสร้างระบบพหุภาคีที่สามารถก้าวข้ามความท้าทายที่จะบรรลุถึงเป้าหมาย
- ประชาคมระหว่างประเทศต้องสรรหาแหล่งเงินทุน จัดการกับช่องว่างด้านเงินทุนสำหรับ SDG เพิ่มการลงทุนเพื่อบรรลุ SDG และแสวงหาแหล่งเงินทุนใหม่ ๆ รวมถึงพันธบัตรสีเขียวและผ่านเศรษฐกิจดิจิทัล
- สร้างความเสมอภาคในระบบการเงินระหว่างประเทศ ดังนั้น ไทยจึงสนับสนุนข้อเรียกร้องของเลขาธิการ UN ให้มีการปฏิรูปและอัดฉีดเงินทุนกระตุ้น SDG 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีจนถึงปี 2573
- ในระดับชาติ ไทยได้ออกพันธบัตรสีเขียว (Green Bond) 2 ชุด ซึ่งช่วยระดมเงินทุนได้ถึง 12,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อการลงทุนลดก๊าซเรือนกระจกและเพื่อสังคม รวมทั้งได้จัดทำมาตรฐานสำหรับการประเมินการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม
- บริษัทในไทยกว่า 100 บริษัทที่อยู่ใน Global Compact Network Thailand ได้ให้คำมั่นว่าจะลงทุนมูลค่า 43,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในโครงการที่เกี่ยวข้องกับ SDG ภายในปี 2573
- ในปีหน้า เราตั้งเป้าจะออกพันธบัตรส่งเสริมความยั่งยืนเพื่อกระตุ้นการเติบโตของตลาดพันธบัตรสีเขียว โดยเพิ่มแรงจูงใจให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเพื่อบรรลุ SDG
โดยในตอนท้ายนายเศรษฐาได้กล่าวย้ำอีกว่า รัฐบาลฯได้ให้คำมั่นที่จะลดความเหลื่อมล้ำจากรุ่นสู่รุ่น ภายในปี 2573 รวมทั้งจัดให้คนไทยทุกคนมีหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการรักษาพยาบาลให้เหลือต่ำกว่า 0.25%
ในด้านสิ่งแวดล้อม เรามีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เหลือ 40% ภายในปี 2583 เพื่อบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2583 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เหลือ 0 ภายในปี 2608
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
https://twitter.com/Thavisin/