วอนเร่งตั้งรัฐบาลแก้ไขปัญหาหนี้สิน – กระตุ้นเศรษฐกิจ
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรค และ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจพรรคไทยสร้างไทย ออกมาแสดงความกังวลถึงปัญหาหนี้สินและหนี้เสียของประชาชน โดยเฉพาะหนี้รถยนต์
เพียง 5 เดือนแรกของปี 2566 มีการยึดรถโดยบริษัทไฟแนนซ์แล้วกว่า 9 หมื่นคัน และข้อมูลจากเครดิตบูโรจะพบว่าตั้งแต่ช่วงปี 2563 มีการชำระหนี้รถยนต์ล่าช้าสูงขึ้น โดยชำระหนี้แบบล่าช้าไม่เกิน 3 เดือนมากขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกยึดรถ ในขณะที่จนถึงปัจจุบันกลุ่มที่ค้างชำระเกิน 3 งวด มีมูลหนี้รวมแล้วกว่า 180,000 ล้านบาท โดยเป็นบัญชีที่เป็นปัญหาประมาณกว่า 550,000 บัญชี
สอดคล้องกับที่ก่อนหน้านี้ผู้จัดการใหญ่ บริษัทเครดิตบูโรได้ออกมาโพสเตือนระบุมีความเสี่ยงว่า ในอีก 4 เดือนข้างหน้า อาจจะมีลูกหนี้ถูกยึดรถรวม 1 ล้านคัน
นายสุพันธุ์ ระบุว่าปัญหาหนี้เสียที่เกิดขึ้นนั้น จะพบได้ว่าเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่ในช่วงวิกฤตโควิดเป็นต้นมา แม้ในช่วงโควิดจะมีมาตรการช่วยเหลือเช่นการชะลอการยึดรถ แต่สิ่งที่ลูกหนี้หลายคนจะยังไม่ทราบคือเมื่อพ้นช่วงการชะลอยึด ดอกเบี้ยและค่าปรับกลับสูงขึ้นมากทำให้แม้จะผ่านวิกฤตโควิดมาแล้วก็ยังไม่สามารถชำระได้ และถูกยึดรถในที่สุด เพราะดอกเบี้ยค่าปรับที่ตามมา และเศรษฐกิจยังไม่ได้ฟื้นตัวกลับมาอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะเศรษฐกิจในครัวเรือน
โดยได้เสนอว่า สิ่งที่ต้องเร่งจัดการคือการเจรจากับผู้ประกอบการไฟแนนซ์และบริษัทลิสซิ่งต่างๆ ให้ชะลอการยึดรถออกไป รวมถึงต้องมีการปรับโครงสร้างหนี้ โดยต้องลดดอกเบี้ยและค่าปรับลงมารวมถึง ขยายเวลาในการผ่อนชำระออกไป เพราะหากปล่อยให้เกิดหนี้เสียจำนวนมากจะกระทบกับเศรษฐกิจทั้งระบบ โดยเฉพาะกับกลุ่มหนี้เสียที่เกิดขึ้นในช่วงโควิด หรือ รหัส 21 นั้น ต้องเร่งแก้ไขโดยด่วน
นอกจากนั้นปัญหาที่อาจตามมาในอนาคต หากไม่เร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว จะทำห้บริษัทไฟแนนซ์ต่างๆปล่อยกู้ยากขึ้น และอาจจะกระทบต่อตลาดรถยนต์ในอนาคตด้วย โดยนายสุพันธุ์ย้ำว่าปัญหาหนี้สินเหล่านี้เป็นปัญหาที่รัฐบาลชุดใหม่ต้องเร่งเข้ามาแก้ไขโดยด่วน ยิ่งปล่อยให้อยู่ในภาวะสูญญากาศนาน ประชาชนยิ่งได้รับผลกระทบ ไม่เพียงแต่หนี้สินที่จะเพิ่มสูงขึ้น แต่ยังรวมถึงโอกาสในการสร้างรายได้ใหม่ๆและการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เริ่มขาดช่วงมาตั้งแต่การเลือกตั้งจบลงและยังไม่ได้รัฐบาลใหม่