ผมไม่ได้ขู่ ! ประยุทธ์ ลุกอภิปรายลั่น สั่งสอบ ใครอยู่เบื้องหลังม็อบ

บิ๊กตู่ ชี้แจงอภิปรายไม่ไว้วางใจ ย้ำงบกองทัพจำเป็น เพื่อความมั่นคงของประเทศยืนยัน ใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า ตรวจสอบกลั่นกรองตามระบบ ไม่สามารถชี้นิ้วสั่งได้ สั่งสอบ ใครอยู่เบื้องหลังม็อบ

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวชี้แจงในระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ที่อาคารรัฐสภา หลังจากที่ถูก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย อภิปรายพาดพิงในหลายๆเรื่อง โดยกล่าวถึงการจัดทำ

และการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลในแต่ละปี ว่าเป็นการดำเนินการตามระเบียบการเงินการคลัง มีการตรวจสอบกลั่นกรองตามระบบ ไม่สามารถชี้นิ้วสั่งได้ และการตั้งงบประมาณแบบขาดดุล ก็เป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะในช่วงที่มีสถานการณ์โควิด-19 ที่จำเป็นต้องจัดสรรงบประมาณ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทั้งในประต่างประเทศ

ส่วนประเด็นงบประมาณของกองทัพนั้น นายกรัฐมนตรีชี้แจงว่ามีการชี้แจงแล้วหลายครั้ง ว่าเป็นการตั้งงบประมาณตามสัดส่วนของ จีดีพี ยืนยันรัฐบาลมีความระมัดระวังในการใช้งบประมาณ อะไรปรับได้ก็ปรับ แต่หลายอย่างหยุดไม่ได้ เพราะทหาร ยังต้องทำงาน ทั้งเรื่องการดูแลสถานการณ์ชายแดน การสนับสนุนภารกิจป้องกันโควิด-19 และการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

ขณะเดียวกันเครื่องมือที่ทันสมัย ก็ยังเป็นสิ่งจำเป็น เพราะสถานการณ์ในภูมิภาค มีความไม่แน่นอน นี่คือสิ่งที่ต้องวางแผนล่วงหน้า ซึ่งกองทัพ ก็ต้องมีการพิจารณาจัดซื้อจัดหาตามความจำเป็น

ขณะที่เรื่องของหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เป็นหนี้ที่มีส่งต่อมาหลายรัฐบาล ซึ่งก็เป็นหนี้ที่สร้างมูลค่า มีการนำมาลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และเกิดประโยชน์และรายได้กับประชาชน ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่ารัฐบาลชุดนี้ ก็สามารถทำได้ดีกว่าหลายๆ รัฐบาลที่ผ่านมา

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมในขณะนี้ ว่าหน่วยงานด้านความมั่นคง อยู่ในระหว่างการตรวจสอบว่า มีใครอยู่เบื้องหลัง หรือให้การสนับสนุนหรือไม่ ซึ่งการที่ตนเองออกมาพูด ไม่ใช่การข่มขู่ แต่ต้องการให้รู้ว่ามีกระบวนการตรวจสอบ พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีการสั่งการให้ใช้อาวุธจริงกับประชาชน

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ได้ย้ำว่า ตนเองได้ชี้แจงจากหัวใจ และจากประสบการณ์ การทำงานในฐานะนายกรัฐมนตรีมานานกว่า 7 ปี ยืนยันว่าทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ และพิจารณาบริหารราชการตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น