“สงคราม”เชื่อผลเลือกตั้งสะท้อนการบริหารที่ล้มเหลวของรัฐบาลชี้7ปี“บิ๊กตู่”ด้อยความสามารถประจานทั่วโลกปล่อยทุจริตโกงกินพุ่ง
ผู้สื่อข่าวโตสื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า วันที่ 31 มกราคม 2565 นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่ากรณี ที่องค์กรเพื่อความโปร่งใส เผยแพร่ผลสำรวจดัชนีการรับรู้การทุจริต ประจำปี 2564 จากจำนวนประเทศ 180 ประเทศทั่วโลก ประเทศไทยได้ 35 คะแนน จัดอยู่ในอันดับที่ 110 ของโลก ลดลงจากปีก่อนที่ได้รับ 36 คะแนน อันดับที่ 104 ของโลก เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในอาเซียน ไทยอยู่อันดับ 6 จากทั้งหมด 11 ประเทศ โดยดูได้จากการเก็บสถิติพบว่า ตั้งแต่ปี 2560-2565 ช่วงที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ครองอำนาจพบว่าการทุจริตไทยเพิ่มขึ้นอย่างเห็นชัด ส่วนที่ประกาศกลางสภาว่ารัฐบาลนี้ไม่ทุจริต จึงเป็นการโกหกประชาชนทั้งประเทศ
นอกจากเศรษฐกิจไทยจะย่ำแย่จากการบริหารประเทศที่ล้มเหลวของรัฐบาล กระทบกับความเป็นอยู่ของประชาชนทั้งประเทศ รัฐบาลปล่อยให้ผู้ประกอบการขึ้นรคาสินค้าไร้การควบคุม สินค้าแพงทั้งแผ่นดิน ในขณะที่รายได้ประชาชนลดลงอย่างเห็นได้ชัด สะท้อนว่ารัฐบาลด้อยประสิทธิภาพในการบริหาร ไร้การพัฒนาประเทศในทุกๆด้าน ในอดีตไทยเป็นผู้นำในภูมิภาคนี้ ล่าสุดต้องเสียความสามารถการแข่งขัน รวมทั้งไม่สามารถยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนได้ แล้วที่เลวร้ายที่สุดคือการปล่อยให้มีการโกงกันมาก หากยังคงยึดติดอำนาจต่อไป ไม่มีทางเลยที่สามารถฟื้นเศรษฐกิจไทยจะฟื้นได้เลย
นายสงคราม กล่าวด้วยว่า ตลอด 7 ปีที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์ไม่เคยมีผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน มีแต่การใช้อำนาจ ดำเนินการกับกลุ่มเห็นต่าง ใช้กฎหมายเป็นอำนาจจับคนเห็นต่างเข้าคุก และเปิดโอกาสให้นายทุนเอาเปรียบประชาชน มาตลอด ส่งผลให้ความเลื่อมล้ำเพิ่มสูงขึ้น
“จากการเลือกตั้งซ่อมส.ส.กรุงเทพมหานคร เขตหลักสี่ ผลการเลือกตั้งที่ออกมาส่งสัญญาณไปยังพลเอกประยุทธ์ว่า ประชาชนไม่ต้องการรัฐบาลนี้แล้ว ยิ่งอยู่นานความเหลื่อมล้ำยิ่งเพิ่มขึ้น นายทุนรวยแสนล้าน ประชาชนยากจนลงทุกวัน เพียงแค่นี้ก็ประจานการบริหารประเทศของรัฐบาลแล้ว หากพลเอกประยุทธ์อยู่ในตำแหน่งแล้วไร้น้ำยาก็เปิดโอกาสให้คนอื่นมาทำงานดีกว่า เพราะอยู่มา 7 ปีไม่มีผลงานจะรั้งอำนาจไว้เพื่ออะไร หรือ เพื่อใคร”นายสงครามกล่าว
