ณัฐวุฒิ ชี้ คำพูดนายกฯที่รับว่ามีคนไทยรุกล้ำดินแดนกัมพูชา เสี่ยงจะเป็นอาวุธใหม่ให้เพื่อนบ้าน ไม่เคยมีผู้นำไทยคนไหนพูดแบบนี้
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ สมาชิกพรรคเพื่อไทย โพสต์ระบุว่า…
ครบ 1 เดือนที่รัฐบาลบริหารประเทศ เนื่องจากเป็นรัฐบาลวิธีพิเศษที่ไม่เคยเกิดมีมาก่อน จึงอยากบันทึกบางภาพไว้
นายกฯหนูออกตัวด้วยการขายภาพรัฐมนตรีภาพดีเด่นดังในโชว์รูม เรียกเสียงเฮได้พอสมควร แต่ทำงานได้ 22 วัน คุณวรภัค รมช.คลังก็ต้องออกไป เพราะถูกตั้งคำถามเรื่องขบวนการสแกมเมอร์ ออกแล้วก็ยังไม่จบ และดูไม่รู้ด้วยว่าจะจบอย่างไร
รัฐมนตรีในกลุ่มรวมดาวก็ถูกรุกหนัก เกิดวาทะโจรปราบโจร โจรอุ้มโจร มีเรื่องให้ต้องเคลียร์ต้องตอบรอบตัว
ปัญหาสแกมเมอร์เข้าเนื้อทุกวัน สถานการณ์แบบนี้ไม่ใช่สัญญาณบวกของรัฐบาล
วาทะสำคัญในรอบเดือนของนายกฯคือ “ตั้งแต่จำความได้ไม่เคยเสียเปรียบใคร”
ถ้าเป็นจริงก็คงสะท้อนความรู้สึกพี่หนู ตอนเซ็น MOA กับพรรคสีส้มด้วย
ส่วนตอนเซ็น MOU เรื่องแร่แรร์เอิร์ธ ท่านจะรู้สึกได้เปรียบด้วยหรือเปล่าไม่ทราบ แต่ที่แน่ๆคือคนไทยกังวลว่าจะเสียเปรียบ เพราะรัฐบาลเซ็นเงียบไม่บอกก่อน เรื่องแดงขึ้นมายิ่งชี้แจงก็ยิ่งย้อนแย้งคาใจ
ถ้าเปรียบเทียบกระบวนการของประเทศอื่นๆที่ทำ MOU กับสหรัฐอเมริกาในเรื่องนี้ จะเห็นความแตกต่างเรื่องความชัดเจนโปร่งใส เช่น ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย มีการรายงานประชาชนผ่านสื่อทั้งก่อนและหลังเซ็น โดยเฉพาะมาเลเซีย มีการชี้แจงในรัฐสภาก่อนลงนามด้วย
เรื่องนี้จะเป็นคำถามตามติดไปตลอดอายุรัฐบาล
สถานการณ์กัมพูชาน่าจะหลุดกรอบทวิภาคีไปแล้วในทางปฏิบัติ บทบาทอเมริกาชัดขึ้นและส่งผลต่อการทำข้อตกลงของทั้ง 2 ฝ่าย มีการจัดลำดับดำเนินการ กำหนดวันถอนอาวุธหนัก ซึ่งต้องติดตามอย่างใกล้ชิดเพราะอีกฝ่ายลีลาเยอะ
แต่คำพูดนายกฯที่รับว่ามีคนไทยรุกล้ำดินแดนกัมพูชาอยู่ด้วย เสี่ยงจะเป็นอาวุธใหม่ให้เพื่อนบ้าน เพราะไม่เคยมีผู้นำไทยคนไหนพูดแบบนี้ แม้ตัวนายกฯจะอธิบายว่าเป็นความผิดพลาดของการสื่อสาร ก็ไม่รู้ว่าคู่กรณีจะยอมเข้าใจตรงกันหรือไม่
คดีฮั้วสว.กำลังร้องเพลงสาละวันเตี้ยลง มีแต่เสียงฝ่ายค้านและสว.สำรองทวงถาม แต่เสียงหน่วยงานในกระทรวงยุติธรรมเงียบเชียบ สว.138 คนพลิกชีวิตจากผู้ถูกล่าวหาเป็นผู้พิพากษา ตัดสินสว.นันทนาขัดจริยธรรมร้ายแรง เสียดแทงใจคนติดตามข่าวทั่วประเทศ ขอส่งกำลังใจสู่อ.นันทนาจากตรงนี้
ส่วนการตั้งองค์กรอิสระก็เดินหน้าแบบมวยได้ใจ ใครทักท้วงอย่างไรพี่ๆเขาก็จะตั้ง เพราะตั้งมาตลอดหลายคนหลายองค์กรแล้ว
เขากระโดงกลายเป็นเขากระเตง เอาไปอุ้มซื้อเวลายาวๆ ศาลตัดสินแล้วก็แล้วไป ให้ฟ้องใหม่ ยานๆนานๆ
ชิ้นงานโชว์ในกระแสคือคนละครึ่งพลัส อย่างอื่นยังเห็นไม่ชัด ส่วนตัวคิดว่าถ้าจะยุบสภาตาม MOA คงไม่มีอะไรเพิ่มมากนัก ถ้าจะบอกว่าคนละครึ่งจะเป็นโบว์แดงให้แซงนำในสนามเลือกตั้งผมก็ไม่แน่ใจ เพราะขนาดรัฐบาลลุงตู่ผู้ให้กำเนิดคนละครึ่ง ยังได้ส.ส.กลับมาไม่ถึงครึ่ง
เรื่องรัฐธรรมนูญผมพูดตั้งแต่ต้นแล้วว่าจะไม่สำเร็จ ก็เลยเบิ่ดคำสิเว้า
รัฐบาลจะเข้าสู่สนามเลือกตั้งด้วยอำนาจรัฐเบ็ดเสร็จและทุนมหาศาล + พลังอนุรักษ์นิยมที่เห็นภูมิใจไทยแล้วอาจจะไม่ เต็มใจ แต่ก็ต้อง เป็นใจ ให้ก๊กสีน้ำเงิน เพราะดูเปล่งปลั่งที่สุดในบรรดาพรรคฝ่ายขวาที่จะตั้งรัฐบาลได้
จากต้วมเตี้ยมตามหลัง พรรคน้ำเงินโตขึ้นมาเสียเฉยๆ พร้อมกับพลังอนุรักษ์ที่แพ้ทางการเมืองไปแล้วก็กระชุ่มกระชวยขึ้นมาอีก
นี่กระมัง Grand Compromise
กรณีสุภาพสตรีหมายเลข 1 หยอกเอินผู้สื่อข่าวว่าใจร้ายกับนายกฯ มีสีสันฉูดฉาด น่าสนใจว่าทีมประเมินอย่างไร และสีสันจะฉูดฉาดขึ้นเรื่อยๆหรือไม่
ประเด็นที่รัฐบาลถูกวิจารณ์จะสะสมความชอบธรรมให้ฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ
รัฐบาลต้องเร่งสร้างผลงาน ลดกระแสลบ เพื่อรักษาสุขภาพทางการเมือง อย่างน้อยก็ให้ครบยกตาม MOA
แต่ผมดูเดือนแรกแล้วคิดว่าไม่ง่าย ต้นธันวาคมน่าจะเห็นชัดว่า ไผเป็นไผ
#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS