สภาฯ ยังไม่ฟันจริยธรรม “เต้ มงคลกิตติ์” ข่มขู่ “อดีตส.ส.สิระ”
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า ผลการประชุมของคณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการ ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุมว่า เมื่อเวลา 16.30 น. คณะกรรมการฯ ได้เผยแพร่เอกสารข่าว โดยมีข้อสรุปต่อการตรวจสอบเรื่องร้องเรียน กรณีพิจารณาเรื่องร้องเรียนจริยธรรมของนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กรณีเสนอชื่อนายณัชพล สุพัฒนะ หรือ มาร์ค พิทบูล อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ซึ่งมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเข้าดำรงตำแหน่งที่ปรึกษากรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการบริหารจัดการปาล์มน้ำมันอย่างเป็นระบบ โดยไม่กำกับควบคุมบุคคลดังกล่าวหลังจากได้รับการแต่งตั้ง โดยคณะกรรมาธิการพิจารณาคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของผู้ถูกร้อง และมีมติมอบหมายให้คณะอนุกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาสอบหาข้อเท็จจริงเรื่องร้องเรียนจริยธรรมดังกล่าวตามระเบียบคณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎรว่าด้วยหลักเกณฑ์ และวิธีพิจารณาของคณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2563 ข้อ 30 วรรคสอง
ส่วนกรณีที่นายมงคลกิตติ์โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กข่มขู่นายสิระ เจนจาคะ อดีตส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ คณะกรรมการฯ พิจารณารายงานการสอบหาข้อเท็จจริงแล้วเห็นว่า ประเด็นการสอบหาข้อเท็จจริงของคณะอนุกรรมการฯ มีความครบถ้วนเพียงพอต่อการวินิจฉัยของคณะกรรมการฯ โดยลำดับต่อไปคณะกรรมการฯ จะได้นัดประชุมเพื่อวินิจฉัยการกระทำของนายมงคลกิตติ์ว่าเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติ ตามข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการ พ.ศ. 2563หรือไม่อย่างไร ทั้งนี้ระเบียบคณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎรว่าด้วยหลักเกณฑ์ และวิธีพิจารณาของคณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2563 ข้อ 37 กำหนดว่า ก่อนที่คณะกรรมการฯ จะได้วินิจฉัยการกระทำของผู้ถูกร้องว่าเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมฯ หรือไม่นั้น ผู้ร้องหรือผู้ถูกร้องอาจทำคำแถลงการณ์เป็นหนังสือสรุปความเห็นของตนเองเสนอต่อคณะกรรมการก่อนการวินิจฉัยก็ได้ โดยคณะกรรมการจึงมอบหมายให้เลขานุการคณะกรรมการฯ แจ้งสิทธิดังกล่าวให้ผู้ร้องและผู้ถูกร้องทราบ หากผู้ร้องหรือผู้ถูกร้องมีความประสงค์จัดทำคำแถลงการณ์เป็นหนังสือสรุปความเห็นของตนก่อนที่คณะกรรมการฯ วินิจฉัย ให้ดำเนินการภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งสิทธินี้ และคณะกรรมการฯ จะได้กำหนดวันประชุมเพื่อวินิจฉัยเรื่องดังกล่าวต่อไป