Connect with us

Politics

7 ปี ลุงตู่สร้างความเจริญ! ฝ่ายค้าน อย่าเอาปากท้องประชาชนเป็นตัวประกัน !!

Published

on

“ทิพานัน” ชี้! ฝ่ายค้านขู่คว่ำพ.ร.บ.งบประมาณ อาจทำให้ทุกงบลงทุน-พัฒนาสะดุด เหมือนเอาปากท้องประชาชนเป็นตัวประกัน ย้ำรัฐบาล”ลุงตู่”ใช้งบฯคุ้มค่า 7 ปีกระจายความเจริญ

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกระแสข่าวที่จะมีการพิจารณาคว่ำร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในสัปดาห์หน้า ว่า ฝ่ายการเมืองควรพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 จำนวน 3.18 ล้านล้านบาท ด้วยหลักการและความจริงใจ โดยยึดประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นหลัก ไม่ใช่หวังผลทางการเมืองเพียงเท่านั้น

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า แม้โดยหลักการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 141 จะกำหนดว่า งบประมาณรายจ่ายของแผ่นดินให้ทำเป็นพระราชบัญญัติ ถ้าพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณออกไม่ทันปีงบประมาณใหม่ ให้ใช้กฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่ายในปีงบประมาณปีก่อนนั้นไปพลางก่อน แต่จะไม่สามารถนำงบลงทุนมาใช้ได้ ในขณะที่การลงทุนภาครัฐยังคงเป็นเครื่องยนต์ที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามรัสเซียกับยูเครน โดยเฉพาะแผนงานบูรณาการในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี เป็นตัวหลักสำคัญในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ และสร้างโอกาสในการแข่งขันและเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว

“ฝ่ายการเมืองต้องมองผลกระทบในภาพกว้างที่จะเกิดขึ้น หากโครงการต่างๆ ต้องสะดุดหยุดชะงัก ที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจ การส่งสัญญาณคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ จึงเหมือนเอาปากท้อง เอาความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนเป็นตัวประกัน” น.ส.ทิพานัน กล่าว

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ที่ผ่านมาตลอด 7 ปี รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้จัดสรรและใช้จ่ายงบประมาณเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของประเทศ คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ให้ถึงมือพี่น้องประชาชน ได้เห็นถึงผลสำเร็จที่จับต้องได้ ไม่ว่าจะเป็นบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โครงการประชารัฐเพื่อประชาชน แก้ปัญหาหนี้นอกระบบ การทวงคืนพื้นป่า แก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย การปรับภูมิทัศน์ริมคลองหลายสายให้สะอาดมีชีวิต เพิ่มพื้นที่สีเขียว เช่น สวนเบญจกิติ ใจกลางกรุงเทพฯ เป็นต้น

“ที่สำคัญบริหารงบประมาณเพื่อการพัฒนาโครงสร้างเพื่อเพิ่มศักยภาพโลจิสติกส์ไทย เช่น รถไฟความเร็วสูงระยะที่ 1 ที่จะใช้ในปี 256 และระยะที่ 2 ที่กำลังดำเนินการ และรถไฟทางคู่ทั่วประเทศเพื่อลดระยะเวลาเดินทางได้ถึง 30% รถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินเพื่อรองรับอีอีซี พร้อมกับยกระดับเส้นทางคมนาคมทางถนนทั่วทุกภูมิภาคอย่างทั่วถึง” น.ส.ทิพานัน กล่าว

น.ส.ทิพานัน กล่าวต่อว่า แม้กระทั่งการรับมือโควิด-19 จนสถานการณ์คลี่คลาย จนเป็นตัวอย่างของทั่วโลก รวมไปถึงการออกมาตรการเยียวยาประชาชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบางส่วนที่กล่าวมานี้คือการใช้งบประมาณที่คุ้มค่าในการพัฒนาทุกๆ ด้าน ดังนั้น จึงมั่นใจได้ว่าในการจัดทำงบประมาณปี 2566 ก็จะช่วยยกระดับการพัฒนาประเทศ ฟื้นฟูเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้นแน่นอน

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: