Connect with us

News

เพื่อไทย​ ถาม​ บิ๊กตู่​ เข้ามาทำงานเพื่อประชาชน หรือเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง

Published

on

“ทัศนีย์”ชี้“บิ๊กตู่”สนแต่อำนาจไม่เหลียวแลประชาชน​ เชื่อรัฐอ้างโควิดหาเหตุกู้เงิน5แสนล้านหวังปูฐานการเมือง

ผู้​สื่อข่าว​โต​โจ้​นิว​ส์ราย​งานว่า​ นางสาวทัศนีย์ บูรณะปกรณ์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า กรณีที่รัฐบาลเตรียมออกพระราชกำหนดกู้เงินจำนวน 500,000 ล้านบาท เป็นโอกาสดีที่รัฐบาลใช้สถานการณ์โควิดมาเป็นข้ออ้างในการขอกู้เงิน โดยให้เหตุผลว่าจะนำเงินมาเยียวยาประชาชนและฟื้นฟูประเทศ ทั้งๆ ที่การระบาดของไวรัสระลอกนี้เกิดจากความสะเพร่าของรัฐบาล รวมทั้งไร้มาตรการป้องกัน มีการปล่อยคนกลับบ้านช่วงสงกรานต์ การระบาดจากบ่อนการพนัน และการปล่อยปละละเลยให้ขบวนการลักลอบนำแรงงานเถื่อนเข้าเมืองผิดกฎหมายจน ส่งผลให้เกิดการแพร่เชื้อในประเทศไทยในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ

พฤติกรรมที่ผ่านมาของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใช้พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ยาวนานนับปี เพราะหวังใช้กฎหมายสร้างอำนาจให้ตัวเอง สร้างผลกระทบกับคนไทยทั้งประเทศ แต่รัฐบาลไม่สนใจเพราะ พลเอกประยุทธ์ ไม่เคยเห็นหัวประชาชน ดังนั้นรัฐบาลจึงหวังใช้การเยียวยามาหาประโยชน์ทางการเมือง รวมทั้งเกิดข้อครหามากมายเกี่ยวกับการใช้เงินกู้ของรัฐ ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์การขอกู้เงิน หลายฝ่ายเชื่อว่ารัฐบาลจะใช้เงินกู้จำนวนดังกล่าว

สร้างฐานการเมืองล่วงหน้าผ่านโครงการรัฐ หากรัฐบาลอยากให้การเยียวยาถึงมือผู้เดือดร้อนจริงๆ รัฐต้องบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่น ในการตรวจสอบคนที่ควรจะได้รับการเยียวยา ซึ่งท้องถิ่นสามารถทำงานได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งหากเยียวยาเป็นเงินสดเชื่อว่าสามารถยกระดับเศรษฐกิจชุมชนในพื้นที่ต่างๆ รวมทั้งกระตุ้นกำลังซื้อในพื้นที่เพิ่มขึ้น

รัฐบาลต้องแสดงความจริงใจที่จะช่วยประชาชน เพราะเงินที่นำมาเยียวยาเป็นเงินภาษีของคนไทยทั้งประเทศ ดังนั้นรัฐต้องคิดทำเพื่อประชาชน ไม่ควรคิดเพื่อเอาใจนายทุน หรือ ประโยชน์ทางการเมือง สุดท้ายการบริหารงบประมาณและบริหารเงินกู้ สะท้อนตัวตนของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า ตั้งใจเข้ามาทำงานเพื่อประชาชน หรือเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Click to comment

You must be logged in to post a comment Login

Leave a Reply

Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: