“พงศ์พรหม” ชำแหละการศึกษาไทย ล้มเหลวนานแล้ว!

“พงศ์พรหม” ชำแหละระบบการศึกษาไทย สุดล้มเหลว คนรวยโอกาสดีกว่า

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายพงศ์พรหม ยามะรัต รองโฆษกพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ช่วงนี้มีคนมาชวนคุยเรื่องโรงเรียนลูกเยอะขึ้นจริงๆ และส่วนใหญ่ เป็นรุ่นน้อง เป็นเพราะผมมีลูกช้ากว่าเพื่อนๆรุ่นเดียวกัน เลยได้สังเกตุพัฒนาการเด็กหลายรุ่น

เน้นนะครับ ที่จะแชร์นี้ สำหรับคนชั้นกลางลงไป ส่วนเศรษฐี (ซึ่งไม่ใช่ผมแน่ 5555) ถือว่าโชคดี เพราะลูกคุณมีโอกาสมากกว่า

สิ่งที่ผมแชร์เสมอ คือเอาอันดับการศึกษา เอาทักษะที่ควรจะได้รับ เอาสิ่งที่เด็กเรียนในระบบการศึกษาไทย VS สิ่งที่เด็กชอบ เอาสิ่งที่เด็กเรียนในระบบการศึกษาไทย VS สิ่งที่โลกใบนี้เปลี่ยนไปแล้ว
แล้วสรุปให้ฟังว่า

ระบบการศึกษาในระบบของไทย “ล้ม” ไปเรียบร้อยแล้ว แถมรัฐบาลยังถมภาษีใส่ความล่มสลายนี้อย่างมากมาย เดาว่าก็คงเพราะคนในรัฐบาล และข้าราชการมีภูมิปัญญากันแค่นี้

มาตรฐานโรงเรียนไทย ต่ำกว่ามาตรฐานโรงเรียนในประเทศอื่นๆ เด็กไทยเรียนหนัก เพื่อแค่ได้มาตรฐานเท่าโรงเรียนห่วยๆเมืองนอก เด็กไทยแย่งกันเข้าโรงเรียนแพงๆ เพื่อให้ได้แค่เท่ากับมาตรฐานเฉลี่ยโรงเรียนเมืองนอก

คำแนะนำผมคืออะไร? พึ่งตัวเองก่อน อย่าพึ่งระบบการศึกษาภายใต้กระทรวงศึกษาไทย อยากรู้ว่าต้องพัฒนาลูกไปทางไหน ค้นหาตัวตนของลูก ให้เค้าเรียนรู้หลากหลาย อะไรคือทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 อะไรคือการ “connect dot” ที่ Steve Jobs ชอบพูด

คุณต้องรู้ และคุณต้องไม่ทำตัวเป็นพ่อแม่
เน้น!!! หยุดทำตัวเป็นพ่อแม่ หยุดกราบตีนพ่อแม่
แต่คุณต้องเป็น “พี่เลี้ยง” เป็น “coach” ให้ลูกคุณ
สิ่งแวดล้อม ป่า ผึ้ง สวนในเมือง ศิลปะ ความสุนทรีย์ ดนตรีหลากชนิด เลโก้ หุ่นยนต์ ความน่าตื่นเต้นของวิทยาศาสตร์ วิศวกรรม จรวด อวกาศ การพิสูจน์ การทดลอง การคิด วิเคราะห์ แยกแยะ คุณต้องเข้าใจ ต้องเหนื่อยกว่าคนยุคก่อนๆ เพราะระบบการศึกษาไทยประถม-มัธยมศึกษาโดยเฉลี่ยล้มแล้ว เน้นตรงนี้หลายๆที

หากคุณไม่ใช่ลูกเศรษฐีที่เรียนโรงเรียนอินเตอร์ปีละล้าน หรือสาธิตต่างๆ คุณต้องเข้าใจให้ได้ว่าโรงเรียนคือ “การเรียนรู้เสริม” ไม่ใช่ “การเรียนรู้หลัก” ดีไม่ดี ยิ่งไปโรงเรียนอาจจะยิ่งโง่ลงด้วย เพราะเจอแต่แบบครูบ้ายศศักดิ์ สอนท่องจำ ตามโลกไม่ทันที่โดนพิมพ์แบบเดียวกันมาจากกระทรวงศึกษา

เริ่มที่ตัวเอง ค้นคว้า ศึกษา ออกแบบการเรียนรู้ให้กับลูกคุณคือคำตอบ และที่สำคัญ อย่าพยายามใช้เงินซื้อความสำเร็จลูก จ่ายเงินเรียนคลาสมากมาย บางคนไม่รวย กลับจ้างทีม production มาถ่ายกิจกรรมลูกเพื่อโชว์ใน social media ลูกคุณจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย