“กำพล ปัญญาโกเมศ” พรรคสร้างอนาคตไทย จุดประกายตั้ง “กองทุนสร้างอนาคตชาวนา” เอาส่วนต่างเกวียนละ 18,000 บาท ส่วนหนึ่งแบ่งให้ชาวนา ขายข้าวเปลือกได้ราคาสูงขึ้น ไม่ใช่ชาวนาไทย ยิ่งทำนา ยิ่งมีหนี้สิน
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายกำพล ปัญญาโกเมศ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย ตั้งหัวข้อชาวนากับหนี้สิน โดยระบุว่า ทำไมชาวนาไทย ยิ่งทำนา ยิ่งมีหนี้สิน
ตอนนี้ขายข้าวเปลือกได้ กก.ละ 6 บาท หรือเกวียนละ 6,000 บาท แต่ต้นทุนปาเข้าไป 8,000 บาท ขาดทุนเกวียนละ 2,000 บาททันที โรงสีมีต้นทุนสีข้าวเปลือกเป็นข้าวสารเกวียนละ 18,000 บาท ประชาชนซื้อข้าวสารหอมมะลิถุงละ 5 กก. ประมาณ 180 บาท คิดเป็น กก.ละ 36 บาท หรือเกวียนละ 36,000 บาท คำถามที่ชาวนาฝากถาม… “แล้วส่วนต่างเกวียนละ 18,000 บาท หายไปอยู่กับใคร???”
จะดีกว่าไหม ถ้าเอาส่วนต่างเกวียนละ 18,000 บาท ส่วนหนึ่งแบ่งให้ชาวนา ขายข้าวเปลือกได้ราคาสูงขึ้น ส่วนหนึ่งแบ่งให้ผู้บริโภค ทำให้ประชาชนซื้อข้าวสารถูกลง โดยแนวคิดตั้ง “กองทุนสร้างอนาคตชาวนา” ออกเหรียญดิจิทัล (Digital Token) อาจใช้ชื่อว่า “เหรียญสร้างอนาคตชาวนา (Future Farmer Token: FFT) โดยผู้ถือเหรียญ FFT มีสิทธิ์ซื้อข้าวสารหอมมะลิเดือนละ 1 ถุง 5 กก. ที่ราคา 120 บาท (กก.ละ 24 บาท หรือเกวียนละ 24,000 บาท) ผู้ถือเหรียญสามารถซื้อข้าวสารถูกลงถุงละประมาณ 60 บาท ประหยัดไปได้กว่า 30% คล้ายกับการเป็นสมาชิกสินค้าต่างๆ แล้วได้ส่วนลดพิเศษ หลังจากออกเหรียญขายให้ผู้บริโภคใน Primary Market อาจนำเหรียญนี้เข้าซื้อขายใน Secondary Market เพื่อเพิ่มสภาพคล่องและมูลค่าของเหรียญนี้
เงินที่ระดมได้จากการขายเหรียญ รวมกับเงินสนับสนุนจากภาครัฐ นำไปชำระหนี้ชาวนาบางส่วน และพัฒนาวิสาหกิจสร้างอนาคตชาวนา จัดหาเครื่องจักร ยุ้งฉาง เครื่องสีข้าว เครื่องกำจัดมอด เครื่องบรรจุถุง ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง รวมถึงการติดตั้ง Solar Panel และนำเทคโนโลยี Smart Farming มาใช้ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดค่าใช้จ่าย
วิสาหกิจสร้างอนาคตชาวนาจะรับซื้อข้าวเปลือก กก.ละ 12 บาท หรือเกวียนละ 12,000 บาท ชาวนาได้ราคาสูงขึ้นเกวียนละ 6,000 บาท หรือเพิ่มขึ้น 100% สีเป็นข้าวสารบรรจุถุง ขายผ่านช่องทางกระจายสินค้าของรัฐ หรือขอความร่วมมือกับภาคเอกชน เช่น สาขาไปรษณีย์ไทย ร้านสะดวกซื้อตามปั๊มน้ำมัน ปตท หรือบางจาก ธกส.สาขาต่างๆ