Connect with us

Politics

ต้องเอานโยบาย พปชร.มาช่วยคนอีสาน! และ ช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 ไม่เกิน 20 ไร่ตามเดิม !!

Published

on

ไพบูลย์ จี้ รัฐบาลดึงนโยบายพปชร. กลับมาใช้ ช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 ไม่เกิน 20 ไร่ตามเดิม และนโยบาย “แลนด์บริดจ์” เชื่อมท่าเรือสู่ภาคอีสาน  สร้างความเจริญพี่น้องประชาชน

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)  นายภัทรธรณ์ เทียนไชย รองเลขาธิการพรรค และ น.ส.กาญจนา จังหวะ สส.ชัยภูมิ เขต 4 รองเลขาธิการพรรค ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคเป็นประธานว่า  ได้พิจารณาในวาระสำคัญต่างๆที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน โดยที่ประชุมเห็นชอบแนวทาง

ผลักดันนโยบายปฏิรูปสถาบันการเงินเพื่อประชาชน โดยเห็นว่าต้องปฏิรูปสถาบันการเงินทั้งระบบให้ประชาชนเป็นเป้าหมายหลัก โดยมอบหมายนายธีระชัย  ภูวนาถนรานุบาล ในฐานะประธานร่วมศูนย์นโยบาย และวิชาการ พปชร. ไปศึกษาและนำข้อเสนอต่อคณะกรรมการบริหารต่อไป

ขณะเดียวกัน ยังได้พิจารณาถึงเรื่องโครงการเพื่อสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกร และภาคเกษตร(ชาวนา) ของรัฐบาลที่มีการเสนอว่า จะช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท แต่ไม่เกินคนละ 10 ไร่นั้น ไม่เพียงพอ จากประสบการณ์ของพรรคพลังประชารัฐเห็นว่า รัฐบาลควรที่จะช่วยเหลือชาวนาตามกฎเกณฑ์เดิมที่เป็นนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ และได้ดำเนินการมาต่อเนื่องในรัฐบาลชุดที่แล้วก็คือ ช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาท แต่ไม่เกินคนละ 20 ไร่ ซึ่งจะเกิดประโยชน์กับชาวนาอย่างแท้จริง

นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังได้พิจารณาโครงการ “แลนด์บริดจ์” หรือโครงการสะพานเศรษฐกิจภาคอีสานเชื่อมภาคตะวันออก เพื่อนำเสนอเป็นนโยบาย ตามที่นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เสนอในที่ประชุม โดยการพัฒนาโครงการแลนด์บริดจ์ดังกล่าวจะเชื่อมระหว่างท่าเรือตะวันออกกับภาคอีสาน หรือเรียกว่าโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ขนส่ง เพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคอีสาน   

โดยตั้งเป้าหมายที่จะเชื่อมพื้นที่ภาคอีสาน ทั้งภาคให้ติดฝั่งทะเล เช่น การเชื่อมกันระหว่างจังหวัดบึงกาฬกับท่าเรืออู่ตะเภา โดยใช้รถไฟรางคู่จากท่าเรืออู่ตะเภาไปยังจังหวัดบึงกาฬ ซึ่งจะทำให้เส้นทางนี้ผ่านภาคอีสานทั้งภาค รวมไปถึงจะต้องมีทางหลวงพิเศษให้เป็น 8 ช่องเลนจราจร จะทำให้เกิดนิคมอุตสาหกรรม 6 แห่ง วิทยาลัยอาชีวะ 12 แห่ง และท่าเรือบก 3 แห่ง ทั้งนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบในเรื่องนี้และมอบให้ศูนย์นโยบายและวิชาการไปศึกษาเพิ่มเติม

นอกจากนี้ ยังมีการหารือในเรื่องนโยบายปฏิรูประบบสถาบันการเงินเพื่อประชาชน ซึ่งพรรคพลังประชารัฐเห็นว่า จะเป็นประโยชน์กับประชาชนทั้งประเทศอย่างแท้จริง โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและประธานร่วมศูนย์นโยบายและวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ รับผิดชอบศึกษาในนโยบายดังกล่าวและนำมาเสนอในที่ประชุมในคราวต่อไป

ด้านนายภัทรธรณ์ กล่าวถึงความคืบหน้าของศูนย์ประสานงานข้อมูลเขตจังหวัดทั้ง 77 จังหวัด มีการกำหนดเป็นกลุ่มจังหวัดทั้งหมด 19 กลุ่ม โดยในส่วนของศูนย์วิชาการก็จะมีการประเมินว่า ในแต่ละกลุ่มมีศักยภาพอย่างไรบ้าง และมอบหมายให้ สส.ในพื้นที่ ได้ลงไปสำรวจปัญหาและความต้องการของพี่น้องประชาชน และทางพรรคพลังประชารัฐจะช่วยเหลือและสนับสนุนได้อย่างไรบ้าง โดยในช่วงเดือน ม.ค.68 พรรคจะมีการลงพื้นที่จริง เพื่อทำให้เกิดรูปธรรมมากยิ่งขึ้น

ด้าน น.ส.กาญจนา กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องปากท้องของพี่น้องประชาชน โดยได้เน้นย้ำให้ สส.แต่ละพื้นที่ ลงไปดูแลประชาชนในช่วงปิดสมัยประชุมสภาฯ เพื่อรับทราบและนำปัญหาที่เกิดขึ้นมาแก้ไขต่อไป

#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: