โฆษก พปชร.สับเละ รัฐบาลไม่เข้าใจการท่องเที่ยว ทุ่มงบฯผิดทาง เรียกร้องให้เพิ่ม งบฯเพื่อความปลอดภัย และความมั่นใจของนักท่องเที่ยว ยกการท่องเที่ยว“ภูฎาน”เป็นแบบอย่าง
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงาน พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ตนขอยกการท่องเที่ยวภูฎาน มาเป็นแบบอย่างให้รัฐบาลเข้าใจว่า ระบบการท่องเที่ยวของประเทศไทย ไม่ดีพอ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ เชิงวัฒนธรรม และอารยธรรม นักท่องเที่ยวต้องการเที่ยวในสถานที่ที่ประเทศตัวเองไม่มี ดูศิลปะวัฒนธรรม อารยธรรม ตลอดจน soft power อาหารและบริการที่เป็นลักษณะเฉพาะของไทย“
”พร้อมยกการท่องเที่ยว “ภูฏาน” เป็นตัวอย่างของประเทศกำลังพัฒนา ที่มีความโดดเด่นในเรื่องการคัดกรองคุณภาพของผู้คนที่จะเข้ามาในประเทศ โดยมีกลยุทธ์ด้านการท่องเที่ยวแบบ High Value, Low Volume มาตลอด นั่นคือ เป็นการท่องเที่ยวที่เน้นคุณภาพ ไม่เน้นด้านปริมาณ “
พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า จากผลการศึกษาของ รศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล อาจารย์ประจำ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พบว่า การใช้นโยบาย High Value,Low Volume ที่รัฐบาลภูฎาน ดำเนินการโดยเพิ่มมาตรการคัดกรองนักท่องเที่ยวล่วงหน้าในระดับสูง นอกจากจะเป็นการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวให้อยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบทางลบต่อประเทศ ยังเป็นกุศโลบายในการดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและมีกำลังทางเศรษฐกิจ
ทำให้ได้นักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและ ปฏิบัติตามกฎระเบียบ รักษาความสะอาด เคารพขนบธรรมเนียมประเพณีของชุมชน การใช้ทรัพยากรที่เหมาะสม ไม่ทำให้สภาพแวดล้อมของประเทศตกต่ำ และประเทศภูฏานไม่อนุญาตให้มีบ่อนกาสิโน เพราะขัดต่อหลักการพัฒนาประเทศ ทำให้การวัด ความเจริญผ่านความสุขมวลรวมของชาติ (Gross National Happiness: GNH) อยู่ในเกณฑ์สูงมากและ ดัชนีความสงบสุข (Global Peace Index) เผยแพร่โดย Institute for Economics and Peace พบว่า ปี 2567 ภูฏานถูกจัดอยู่ในลำดับที่ 21 ของประเทศที่มีความสงบสุขที่สุดในโลก เป็นลำดับที่ดีกว่าประเทศรายได้สูงหลายประเทศ ในขณะที่ไทยถูกจัดอยู่ลำดับที่ 76 ซึ่งแย่กว่าทุกประเทศในภูมิภาคอาเซียน ยกเว้นเพียงฟิลิปปินส์และเมียนมาเท่านั้น“
”เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศไทยมีศิลปะวัฒนธรรม อารยธรรมมายาวนาน นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีภูมิประเทศที่สวยงามมีทั้งทะเล(sea)ชายหาด(sand) พระอาทิตย์สดใส(sun) และมีอาหารอร่อยระดับโลก(food) มีผลไม้ นานาชนิดตลอดปี เป็นที่นิยมและได้เปรียบมากกว่าประเทศอื่น
แต่รัฐบาลกลับทิ้งความได้เปรียบ และไปสร้างกาสิโน หรือบ่อนการพนัน เพื่อไปแข่งกับลาสเวกัส มาเก๊า และประเทศบางประเทศ ซึ่งไม่มีปัจจัยบวกทางการท่องเที่ยว เหมือนประเทศไทย“พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า
พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า ประการหนึ่งที่มีความสำคัญคือ ความเชื่อมั่นในการความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวและของประชาชนประชาชนโดยรวม ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งของนักท่องเที่ยวในการตัดสินใจที่จะมาหรือไม่มาเที่ยวในประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่ที่ผ่านมารัฐบาลพรรคเพื่อไทย ไม่ได้ให้ความสนใจ ใส่ใจ หรือเพิ่มประสิทธิภาพ โดยการเพิ่มงบประมาณและสวัสดิการให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือฝ่ายปกครอง อาสาสมัครใน ท้องที่ที่มี นักท่องเที่ยวจำนวนมาก เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพในการทำงานและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวแต่อย่างใด สังเกตได้จากการพิจารณางบประมาณที่ผ่านมา งบฯในการรักษาความปลอดภัยท่องเที่ยว เพิ่มขึ้นนิดเดียว แต่ไปทุ่มเทกับการจัดอีเวนท์ เป็นหลัก ทำให้เจ้าหน้าที่ขาดขวัญกำลังใจ และประสิทธิภาพในการทำงานลดลง
ตลอดจนโครงการใหญ่ๆ ที่มีผลต่อการรักษาความปลอดภัยพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยว ถือว่า เป็น Mega Project ที่สำคัญของประเทศ เช่น โครงการศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินแห่งชาติหรือ ศูนย์191 มูลค่ากว่า 7,000ล้านบาท ก็มี นาย บี ล็อบบี้ยิสต์ คนใกล้ตัวพรรคเพื่อไทย พยายามล็อคสเปคอยู่
“ การเปิดบ่อนกาสิโน โดยหวังว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มขึ้น5-10% และ คาดการณ์ว่ามีรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นนั้น ตามที่รัฐบาลกล่าวอ้างนั้น การหลั่งไหลเข้ามาของนักท่องเที่ยวทุกประเภท แม้อาจนำมาซึ่งรายได้ของประเทศในระยะสั้น แต่จะส่งผลเสียต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในระยะยาว
และหากเปิด“กาสิโน” เมื่อไหร่ แก๊งคนร้ายข้ามชาติและแก๊งฟอกเงิน จะหลั่งไหลมาประเทศไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จะทำให้นักท่องเที่ยวดีๆ มีคุณภาพ หนีไปเที่ยวประเทศอื่นมากกว่า อย่างเช่นประเทศจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี ที่มี เชื่อมั่นในความปลอดภัย มากกว่าประเทศไทย“
#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS