“เพนกวิน” โพสต์! 7 เดือนในเรือนจำ เรายังไม่ยอมย่อมไม่แพ้ ไม่อาจเปลี่ยนแปลงตัวตน เราสู้มันเป็นความจริง ไม่ใช่เรื่องบิดเบือนอย่างที่เขากล่าวหายัดเยียดเรา
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า เพนกวิน พริษฐ์ ชิวารักษ์ แกนนำคณะราษฎร เปิดเผยภายหลังออกจากเรือนจำ ผ่านเพจเฟซบุ๊ก ระบุว่า พี่น้องราษฎรที่เคารพ
หลังจากได้นอนพักผ่อนกายใจเมื่อวานนี้ ผมรู้สึกว่าผมยังติดค้างคำขอบคุณสำหรับน้ำใจของพี่น้องทุกท่านในช่วงครึ่งปีทรหดที่ผ่านมานี้ มันเป็นช่วงเวลาที่ผมต้องเผชิญกับเรื่องราว อารมณ์ ความรู้สึก และความยากลำบากหลายอย่าง หากผมไม่ได้รับความช่วยเหลือ การสนับสนุน และกำลังใจจากพี่น้องทุกท่าน ผมคงไม่สามารถผ่านมันมาได้
ร่วมเจ็ดเดือนที่ไม่มีอิสรภาพ และถูกบีบคั้นจากทุกทาง กำลังใจคือสิ่งที่สำคัญ ซึ่งพี่น้องทุกท่านได้เติมให้ผมเรื่อย ๆ ทั้งจากที่พี่น้องออกมาชุมนุมในครั้งต่าง ๆ จนผมได้ทราบข่าวคราว ทั้งจากที่พี่น้องร่วมกันลงชื่อเรียกร้องให้ยกเลิกมาตรา 112 ทั้งจากพี่น้องที่เขียนจดหมายมาถึงผม บางท่านเขียนถึงผมมาหลายฉบับ ผมรู้สึกดีใจทุกครั้งที่ได้อ่าน และที่สำคัญ การเคลื่อนไหวของพี่น้องมวลชนยืนหยุดขัง ทุกครั้งที่ผมนั่งรถจากศาลกลับมาเรือนจำผ่านมาเห็นพี่น้องยืนทำกิจกรรมที่หน้าเรือนจำ หัวใจของผมจะชื่นฉ่ำขึ้นมาอีกครั้ง และทุกครั้งที่ผมได้ยินเสียงพลุจากหน้าเรือนจำ หัวใจของผมก็ฟูไปตามเสียงพลุเช่นกัน กระทั่งวันท้าย ๆ แห่งการจองจำ การระดมทุนประกันตัวก็ส่งผลต่อกำลังใจของผมมาก ผมต้องขอขอบคุณพี่น้องมวลชนทุกท่าน ณ ที่นี้
นอกจากนี้ผมยังต้องขอขอบคุณทีมงานทนายความที่คอยช่วยดำเนินงานด้านคดีความต่าง ๆ รวมถึงดูแลสวัสดิภาพในเรือนจำของผม และขอขอบคุณอาจารย์ทุกท่านที่ช่วยเหลือผมเรื่องหนังสืออ่านและเอกสารประกันตัว โดยเฉพาะในครั้งล่าสุดนี้ที่ทางมหาวิทยาลัยได้อนุเคราะห์เอกสารให้ผมในเวลาอันรวดเร็ว ต้องขอขอบคุณอาจารย์เป็นอย่างยิ่งครับ
ที่สำคัญ สหายร่วมอุดมการณ์ร่วมชะตากรรมในเรือนจำได้ช่วยประคับประคองซึ่งกันและกันให้ผมฝ่าฟันออกมาได้ถึงวันสุดท้าย ทั้งพี่ไผ่ พี่ไมค์ ที่ได้ประกันออกมาก่อนหน้านี้ และพี่อานนท์ พี่อาทิตย์ พี่อาร์ต ที่ยังอยู่ข้างใน ผมอยากให้ทุกคนได้ออกมาใช้ชีวิตที่มีอิสรภาพและความเป็นมนุษย์ด้วยกันข้างนอกนี้ โดยเฉพาะพี่อานนท์ซึ่งเราต่างรู้ว่าเป็นคนที่มีอุดมการณ์มั่นคง เด็ดเดี่ยวมากที่สุดคนหนึ่ง ผมเองอยากให้พี่อานนท์ยื่นประกันตัวออกมา อย่างน้อย ๆ ให้พี่ได้ออกมาพักผ่อนอยู่กับครอบครัวที่พี่คิดถึง ได้พักกายพักใจใคร่ครวญสิ่งสำคัญ ๆ และจะได้มาช่วยกันดูคดีความที่กำลังดำเนินไปเรื่อย ๆ ในตอนนี้ เราทุกคนคิดถึงพี่และอยากให้พี่ได้รับอิสรภาพและความเป็นมนุษย์คืนมา ออกมาพิสูจน์ด้วยกันว่าสิ่งที่เราสู้มันเป็นความจริง ไม่ใช่เรื่องบิดเบือนอย่างที่เขากล่าวหายัดเยียดเรา
สุดท้าย ผมขอขอบคุณทุกท่านอีกครั้ง ผมก็ยังคงเป็นผม และความจริงก็ยังคงเป็นความจริง เรายังไม่ยอมย่อมไม่แพ้ และความเปลี่ยนแปลงย่อมเป็นสิ่งจีรัง