จตุพร ชี้ รัฐบาล ดัน กม.บ่อนคาสิโน ตั้งเป้าเม.ย. 68 หวังกอบโกยร่ำรวยรายได้จากเว็บพนันออนไลน์ ปล่อยประเทศฉิบหายต้องทนทุกข์กับอบายมุขสังคมดาษดื่น ปชช.จะต้องเตรียมตัวยับยั้งความฉิบหาย
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ถึงกรณีที่ประชุมสภา โดยเสียงข้างมากจากฝ่ายพรรคร่วมรัฐบาลมีมติไม่รับรายงานศึกษาการนิรโทษกรรมเป็นการสะท้อนถึงจิตใจที่คับแคบของรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งเคยหาเสียงเลือกตั้งไว้ แต่ไม่ทำตามคำพูด
อีกทั้งกล่าวว่า รัฐบาลสัญญาจะทำเรื่องนิรโทษกรรมทางการเมืองแล้ว ต้องกล้าตัดสินใจด้วยจิตใจที่ใหญ่เพื่อปลดปล่อยผู้ต้องคดีได้มีโอกาสกับชีวิตใหม่ หากจิตใจไม่ใหญ่แบบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกฯ และอดีตประธานองคมนตรี กับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ ที่ออกกฎหมายนิรโทษกรรมแล้ว
อย่างไรก็ตาม หากไม่มีการนิรโทษกรรมแล้ว วันนี้จะมีคนอย่างนายภูมิธรรม เวชยชัย มานั่งรองนายกฯ ควบ รมว.กลาโหม รวมทั้งจะมี นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เป็นเลขาธิการนายกฯ ไม่ได้ เพราะเคยจับอาวุธสู้กับรัฐบาลไทยมาแล้ว โดยทั้งฝ่ายกองทัพและกองทัพปลดแอกต่างสู้รบและเสียชีวิตฝ่ายละนับหมื่นมาแล้ว
“การแก้ ม.112 ยิ่งจะหาความสำเร็จไม่ได้อยู่แล้ว ทั้งที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงเลือกตั้งแก้ไข ม.112 สิ่งสำคัญยังอธิบายว่า เมื่อเป็นรัฐบาลจะไปดำเนินการประกันตัวให้ผู้ต้องขังคดี ม.112 ออกจากเรือนจำให้เร็วที่สุด ซึ่งสิ่งนี้เป็นอีกบริบทที่นายกฯ อุ๊งอิ๊ง เคยพูดไว้เมื่อไม่ได้เป็นนายกฯ แต่เมื่อได้เป็นนายกฯ ก็ลืมในสิ่งที่ตัวเองเคยพูดไว้ทั้งหมด”
ส่วนโครงการตั้งบ่อนคาสิโนนั้น นายจตุพร เชื่อว่า จะเกิดขึ้นเร็วกว่าการออกกฎหมายนิรโทษทางการเมือง เพราะขณะนี้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เตรียมเสนอร่างกฎหมายเข้า ครม. เพื่อขอมติ โดยจะทำให้เสร็จภายในสิ้นปี 2567 จากนั้นนำเข้าสู่การประชุมสภาในสมัยถัดไป ซึ่งหวังให้ผ่านสภาใน เม.ย. 2568
อย่างไรก็ตาม ร่างกำหมายตั้งบ่อนคาสิโน มีการระบุดำเนินการ 10 แห่ง ประกอบด้วย พัทยา ภูเก็ต พังงา เชียงใหม่ อุดร ขอนแก่น หนองคาย โคราช อุบล และหาดใหญ่ ที่สำคัญคงต้องรวมถึง กทม.ด้วย
“สิ่งสำคัญ รมช.จุลพันธ์ บอกว่า อายุสัญญาทำบ่อนจะสามารถต่อได้อีก 10 ปีหลังจากครบ สัญญา 30 ปีแล้ว ซึ่งจะเพิ่มความเสียหายให้ประเทศไปเรื่อยๆ อีกอย่างการเพิ่มบ่อนคาสิโนเป็น 10 แห่งประเทศจะได้ผลประโยชน์เพิ่มขึ้นรวมประมาณ 3.5 แสนล้าน ถ้าทำการท่องเที่ยวดีๆ ซึ่งปกติทำรายได้เข้าประเทศถึง 3.3 ล้านๆ ต่อปี ดังนั้น ในช่วง 30 ปีช่วงเวลาเดียวกับทำบ่อนคาสิโน รัฐอาจมีรายได้ทะลุ 90 ล้านๆ”
นายจตุพร กล่าวว่า สิ่งสำคัญรายได้ไม่ใช่เก็บเงินคนไทยที่เข้าไปเล่นหัวละ 5,000 บาท แต่มาจากบ่อนออนไลน์ ที่จะลุกลามไปถึงเด็กมัธยมด้วย ดังนั้น การประเมินคนเล่นพนันคงไม่ใช่ปีละ 4 ล้านคนจากคนไทย 3 ล้าน และต่างชาติ 1 ล้าน แต่ยังลามไปถึงเยาวชน คนจนหาเช้ากินค่ำยังต้องลุ้นพนันออนไลน์ทุกวันเพื่อความรวดเร็วไม่ต้องรอโชคจากหวยลอตเตอรี่ทุก 15 วัน
ดังนั้น บ่อนออนไลน์ที่จะเกิดขึ้น ย่อมมีความร่วมมือกับบ่อนต่างประเทศ แล้วถ่ายทอดผ่านเว็บพนันมากถึง 7 แสนเว็บเพจ ที่เป็นผลประโยชน์มหาศาล กระทรวงที่รับผิดชอบคือ ดีอีเอส โดย รมว.ประเสริฐ จันทรรวงทอง กล้ายืนยันได้หรือไม่ว่า วันนี้ไม่มีเว็บไซด์พนันออนไลน์ในไทย
“เมื่อมีบ่อนออนไลน์ในไทยก็จะจับมือถ่ายทอดผ่านเว็บในไทย รายได้บ่อนคาสิโนจึงอยู่ที่การพนันในบ่อนออนไลน์ แล้วไทยกลายเป็นแหล่งฟอกเงิน เกิดอบายมุขสังคมทั้งยาเสพติด ขายตัว ปล้นชิง วิ่งราวทรัพย์มากมายจะตามมา ซึ่งสะท้อนถึงสังคมเสื่อมทรามที่ติดตามกับบ่อนคาสิโน”
นายจตุพร กล่าวว่า การตั้งบ่อนคาสิโนจะดำเนินการได้เร็วมาก เพราะรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับให้ผลประโยชน์รัฐนั้นมีมหาศาลกว่าทุกโครงการ แต่เป็นการทำร้ายประเทศอย่างไม่ควรให้อภัยเลย อีกอย่างที่สำคัญ ถ้าบ่อนคาสิโนสร้างความสำเร็จให้จริงแล้ว ทำไมประเทศจีนสร้างเอนเตอร์เมนท์คอมเพล็กช์โดยไม่มีบ่อนการพนัน แล้วยังทยอยลดบ่อนในมาเก๊าลงตามลำดับอีกด้วย
“ผู้นำของเขาต้องการสร้างชาติไม่ให้คนติดการพนัน ติดยาเสพติด แต่ไทยไม่ได้คิดแบบนั้น จึงเป็นความเสียหาย ผมเห็นว่า ถ้่ารัฐบาลอยู่ไปถึงช่วงที่ รมช.จุลพันธุ์ ประกาศให้สภาผ่านกฎหมายบ่อนคาสิโน (ประมาณ เม.ย. 68) แล้ว คงหนีไม่พ้นต้องถูกประชาชนคัดค้านอยู่ดี”
ส่วนร่าง พรบ.ขนส่งทางรางของพรรคเพื่อไทยที่เสนอสภานั้น นายจตุพร กล่าวว่า ปกติกรรมสิทธิในสัมปทานโครงการต้องเป็นของรัฐ แต่พรรคเพื่อไทยกลับแทรกคำว่า “หรือ” ให้กรรมสิทธิเป็นของเอกชนเจ้าของโครงการด้วย จึงไม่ต้องคิดเป็นอื่น เพราะมีการวางแผนให้เป็นของเอกชน จึงไม่ใช่ร่างกฎหมายอย่างเดียวกันของ ครม. อย่างไรก็ตาม รมช.คมนาคม มนพร เจริญศรี ได้ทบทวนกลับมาใช้ร่างกฎหมายของรัฐบาลเป็นหลักแล้ว โดยอ้างว่า เป็นการสื่อสารผิดพลาด
พร้อมทั้งย้ำว่า ที่ดินสองข้างทางรถไฟความเร็วสูงไปอีสาน ที่ดินรถไฟรางจากการเวรคืนของรัฐจะตกเป็นของเอกชนหมดทั้งสองข้างทาง แล้วประเทศจะเหลืออะไร ทุกอย่างจะเป็นของต่างชาติหมดทั้งบ้าน ที่ดิน อบายมุข รวมทั้งแหล่งพลังงานทับซ้อนระหว่างไทยกับกัมพูชา ที่มีคนไทยบางคนได้เปรียบจากความเสียเปรียบของประเทศ โดยไม่มีความรู้สึกเป็นคนไทยเหลืออยู่เลย
“ด้วยความสัตย์จริง ผมไม่อยากลงถนนเลย มันเหนื่อยยาก ลำบากมาก แต่หวังว่า ประชาชนจะเตรียมตัวยับยั้งความฉิบหายจากโครงการทั้งหมดของรัฐบาลเหล่านั้นที่จะเกิดขึ้น แต่ถ้าถึงมือประชาชนก็คงไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว หลังจากนั้นเราอาจต้องมาว่ากัน”
#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS