“ชวน หลีกภัย” เผย อีกหนึ่งในปัญหาระบบยุติธรรม บุคลากรในกระบวนการยุติธรรมขาดจิตสำนึกและขาดทัศนคติที่ดีในการให้บริการความยุติธรรมแก่ประชาชน
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่เป็นวิทยากรบรรยายในหัวข้อ “สภาพปัญหาของกระบวนการยุติธรรมไทยกับมุมมองของนักการเมืองต่อกระบวนการยุติธรรมไทย” ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ให้แก่ผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง รุ่นที่ 26 จัดโดยสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม
นายชวน กล่าวว่า วันนี้เป็นการบรรยายถึงสภาพปัญหาของกระบวนการยุติธรรมไทยที่ได้เรียนรู้ และรับทราบจากประสบการณ์ของการทำหน้าที่ในฐานะที่เป็นนักการเมือง ทั้งในฐานะที่เคยได้ทำหน้าที่ในส่วนของฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร เพื่อถ่ายทอดมุมมองของนักการเมืองต่อกระบวนการยุติธรรมไทย โดยหลักสำคัญที่ต้องยึดเป็นหลักในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์ของประชาชน คือ หลักธรรมาภิบาล 6 ประการ ซึ่งเมื่อกล่าวถึงหลักธรรมาภิบาลแล้วจะพบว่าสภาพปัญหาของกระบวนการยุติธรรมไทย สามารถจำแนกได้ดังต่อไปนี้
นายชวน กล่าวว่า 1.ปัญหาเกี่ยวกับระบบการบริหารงานยุติธรรม 2.ปัญหาเกี่ยวกับระบบการดำเนินคดีอาญา 3.ปัญหาเกี่ยวกับระบบการปฏิบัติต่อผู้กระทำความผิด 4.ปัญหาที่เกิดจากการปฏิบัติโดยไม่ชอบธรรมจากบุคคลในกระบวนการยุติธรรม 5.กระบวนการยุติธรรมขาดการมีส่วนร่วมและการสนับสนุนจากประชาชน 6.กระบวนการยุติธรรมขาดองค์ความรู้และศักยภาพในการพัฒนา และ 7.บุคลากรในกระบวนการยุติธรรมขาดจิตสำนึกและขาดทัศนคติที่ดีในการให้บริการความยุติธรรมแก่ประชาชน
นายชวน กล่าวอีกว่า จากสภาพปัญหาข้างต้นสะท้อนให้เห็นว่ากระบวนการยุติธรรมของไทยประสบกับปัญหาสำคัญหลายประการ ทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรม ทั้งเรื่องกฎหมายบางฉบับที่ล้าสมัยและไม่สอดคล้องกับสภาพของสังคมไทยที่เปลี่ยนแปลงไป การใช้อำนาจในการออกกฎหมายที่เอื้อประโยชน์ต่อคนเฉพาะกลุ่ม และปัญหาด้านการทุจริตคอร์รัปชั่นที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมกับคนส่วนใหญ่ในสังคม ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้อย่างรวดเร็ว เป็นธรรม และทั่วถึง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นการผลักดันให้เกิดการเรียกร้องให้มีการปฏิรูปทางด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม
“การนำหลักธรรมาภิบาลมาใช้จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานได้ อีกทั้งยังเป็นกลไกในการควบคุมติดตามและตรวจสอบ โดยมีประชาชน หรือองค์กรภายนอกเข้ามามีส่วนร่วม ประกอบกับการยึดหลักคุณธรรม คือการยึดถือและเชื่อมั่นในความถูกต้องดีงาม มีความซื่อสัตย์สุจริต และมีระเบียบวินัย ซึ่งผู้บริหารและข้าราชการทั้งฝ่ายการเมืองและข้าราชการประจำต้องตั้งใจปฏิบัติภารกิจตามหน้าที่ โดยให้ความสำคัญกับผู้รับบริการหรือประชาชน นอกจากนี้ ต้องทำให้สังคมไทยเป็นสังคมที่ประชาชนมีส่วนร่วมรับรู้ และร่วมเสนอความเห็นในการตัดสินใจเรื่องสำคัญของสังคม ฉะนั้น จึงต้องปรับวิธีคิดโดยให้ทุกฝ่ายบูรณาการการทำงานร่วมกัน
และนำหลักธรรมาภิบาลมาใช้เพื่อให้งานบรรลุผลสำเร็จ รวมทั้งส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนและประชาสังคมในกระบวนการยุติธรรมมากขึ้น ส่งเสริมให้ประชาชนได้มีโอกาสรับรู้ข้อมูลข่าวสารและผู้ที่มีส่วนเข้ามาเกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรม ตลอดจนการรณรงค์ให้ประชาชนรู้สิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย และตระหนักถึงความสำคัญของกระบวนการยุติธรรมในฐานะเป็นกลไกหลักในการผดุงไว้ ซึ่งหลักนิติธรรมอย่างจริงจัง” นายชวน กล่าว