ปปง.จัดแบ่ง 3 งวด ยื่นขอสิทธิ์เฉลี่ยทรัพย์สินคืนเงินในคดีแชร์ Forex3D
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า จากกรณีที่ นายปิยณัฐ สุกยัง เลขาธิการเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนเพื่อความยุติธรรม และ อาย วราไพรินทร์ ธนวริสพร ดาราและนักธุรกิจสาว ผู้เสียหายในคดีแชร์ Forex3D ได้เดินทางไปทวงถามความคืบหน้าการนำทรัพย์สินที่ยึดอายัดจากคดีนี้ของ ปปง.มาเฉลี่ยคืนให้กับผู้เสียหาย เมื่อวันที่ 22 กันยายน ที่ผ่านมา
นายปิยณัฐ เลขาธิการเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนเพื่อความยุติธรรม เปิดเผยรายละเอียดการจัดเงินเยียวยาของ ปปง. ว่า หลังจากที่ได้เข้าไปทวงถามเจ้าหน้าที่ ปปง.ทราบว่า มีผู้เสียหายลงชื่อในระบบดีเอสไอ จำนวนทั้งหมด 9,804 คน ที่ขอเฉลี่ยทรัพย์สินคืน ซึ่งทางดีเอสไอ ได้มีการส่งมอบทรัพย์สินที่ยึดอายัดไว้แล้ว 3 ครั้ง ตีเป็นมูลค่าประมาณ 500-600 ล้านบาท โดยแบ่งออกเป็น 3 งวด รอบแรกสามารถยึดทรัพย์ มูลค่ารวมกว่า 90 ล้านบาท มีผู้เสียหายยื่นเรื่อง 7 พันคน และได้ยื่นศาลขอเฉลี่ยทรัพย์คืนแล้วพร้อมไม่มีใครคัดค้านและเตรียมนำทรัพย์สินขายทอดตลาด โดยหลังจากนี้กฏหมายฟอกเงิน ปปง. มีกำหนดคืนทรัพย์ภายใน 1 ปี จะครบกำหนด กันยายน พ.ศ.2566
ส่วนรอบที่สอง ตามยึดทรัพย์สินได้กลับมาอีก 200 กว่าล้านบาท เปิดให้ลงรายชื่อเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ที่ผ่านมา มีผู้ยื่นสิทธิ์มา 5 พันกว่าคน และได้เปิดให้ยื่นเรื่องคุ้มครองสิทธิ์เพิ่มเติมใหม่ผ่านเว็บไซต์ สำนักงาน ปปง. ซึ่งกำหนดยื่นรายชื่อภายในสิ้นปี 2565 เพราะต้องตรวจสอบเอกสาร หากช้าอาจต้องเลื่อนระยะเวลาออกไปอีก โดยศาลจะสั่งขอเฉลี่ยทรัพย์คืนในช่วงเดือน มิถุนายน ปี 2566 หากผู้เสียหายไม่มีใครคัดค้าน ก็จะเตรียมนำทรัพย์สินขายทอดตลาด
และรอบที่สาม ตามยึดทรัพย์ได้เพิ่มเติม 200 กว่าล้านบาท มีผู้เสียหายยื่นสิทธิ์ 7 พันคน และเพิ่งปิดลงทะเบียนไปไม่นานนี้ แต่สามารถยื่นต่อศาลเพื่อขอให้ ปปง. เปิดรับเรื่องขอคุ้มครองสิทธิ์ได้
นายปิยณัฐ กล่าวอีกว่า ทรัพย์สินที่ดีเอสไอตามยึดมาได้นั้นเป็นจำพวก กระเป๋าแบรนด์เนม หรือสินค้าแบรนด์เนมต่างๆที่มีราคาแพง, รถหรู, คอนโดและที่ดิน ซึ่งจากกระแสข่าวที่ว่าทางดีเอสไอ สามารถยึดทรัพย์ได้มากถึง 1,100 ล้านบาท นั้นไม่ทราบว่านำข้อมูลมาจากไหน แต่ตนได้รับรายละเอียดจาก ปปง.และดีเอสไอ ว่าแค่หลักร้อยล้าน
ส่วนขั้นตอนการคุ้มครองสิทธิ์ผู้เสียหายต้องยื่นเรื่องทุกรอบในการขอสิทธิ์เฉลี่ยทรัพย์สินจะคิดเป็นรายคนละ 30% จากทรัพย์สินที่ยึดมาได้ในแต่ละรอบ หากผู้เสียหายไม่ลงทะเบียนรอบแรกก็ไม่สามารถเฉลี่ยทรัพย์สินคืนได้ในรอบนั้นๆ ต้องยื่นสิทธิ์ในรอบที่ 2 และ 3 แทน หลังจากนี้ต้องติดตามดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ว่าจะมีการยึดทรัพย์สินเพิ่มเติมเป็นครั้งที่ 4 หรือไม่ หากมีก็จะเปิดให้ผู้เสียหายได้มายื่นเรื่องเพื่อขอสิทธิ์เฉลี่ยทรัพย์สินคืน
#เพื่อไม่พลาดข่าวสาร เรื่องราวสำคัญ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS