“สงคราม”เผย “เวิล์ดแบงก์ประจานเศรษฐกิจไทย“บิ๊กตู่”สุดวิกฤต อัดมาตรการช่วยประชาชนเลือกปฏิบัติ ชี้รัฐมิติการเมืองมากกว่าจริงใจช่วยคน
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงายว่า นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า มาตรการที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศออกมาทั้ง 10 มาตรการ พบว่ารัฐบาลไม่ได้จริงใจช่วยเหลือประชาชนอย่างจริงใจ เพราะยังคงมองมิติการเมือง ด้วยการเน้นไปที่กลุ่มผู้ถือบัตรคนจนหรือ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการหาเสียงทางการเมืองมากกว่าการต้องการช่วยเหลือประชาชน
มาตรการที่ออกมาจึงเป็นการเลือกปฏิบัติ รัฐบาลช่วยแต่คนที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแล้วคนที่ไม่มีบัตรจะช่วยอย่างไร นอกจากนี้มาตรการลดค่าใช้จ่ายของประชาชน เป็นการช่วยแบบไม่ช่วยเพราะการลดราคาค่าไฟฟ้า การลดภาระค่าไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้นสำหรับผู้ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน โดยลดค่าเอฟทีลง 22 สตางค์ต่อหน่วยในช่วงเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม ทั้งนี้ในสภาพความเป็นจริงด้วยอากาศที่ร้อนอบอ้าวหากบ้านไหนเปิดแอร์ก็ไม่มีทางที่จะใช้ไฟไม่เกิน300 หน่วยต่อเดือน อยากทราบว่าบ้านพักหรูของพลเอกประยุทธ์ใช้ไฟเดือนล่ะกี่ยูนิต ที่สำคัญคือพลเอกประยุทธ์เคยจ่ายค่าไฟเองหรือไม่ ดังนั้นมาตรการที่ออกมาเหมือนจะดูดีแต่แฝงไว้ด้วยความไม่จริงใจ เพราะรัฐบาลทราบอยู่แล้วว่ามาตรการลดค่าไฟฟ้าที่ออกมามีไม่กี่หลังคาเรือนได้ประโยชน์
นายสงคราม กล่าวด้วย ไม่แปลกใจในการบริหารของพลเอกประยุทธ์ ไร้ผลงาน และ บริหารประเทศย่ำแย่ที่สุดหากเทียบกับทุกรัฐบาลที่ผ่านมา เมื่อธนาคารโลกเปิดเผยรายงานไปทั่วโลก ถึงสถานการณ์ของประเทศไทย ว่า เศรษฐกิจไทยอยู่ในสภาวะวิกฤติ ผู้มีรายได้น้อย/คนไม่มีรายได้พุ่ง 40 ล้านคน หรือเกือบเท่ากับ 2 ใน 3 ของประชากรในขณะเดียวกันรายงานว่า คอร์รัปชั่นรัฐบาลประยุทธ์ ถูกสื่อต่างชาติ รายงานว่า ไทยเป็นประเทศที่มีการคอรัปชั่น โกงกิน เป็นอับดับที่ 1 ของโลก ฉุดประเทศถอยหลัง เศรษฐกิจพุ่งดิ่งลงเหว การคลังถังแตก-คนจนไม่มีจะกิน จำนวนคนจนเป็น 9.7 ล้านคนในปัจจุบัน สวนทางกับการเติบโตของเศรษฐกิจ ทั้งที่รัฐบาลไทยกู้เงินมือเติบ 1.9 ล้านล้านบาท แต่ผลทีได้คือเศรษฐกิจเจ๊งมากสุดในเอเชีย พลเอกประยุทธ์ไม่ละอายหรือที่ธนาคาร
โลกประจานเศรษฐกิจไทยน่าเฟะแบบนี้”นายสงคราม กล่าว