ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงโลกโซเชียลถึงพูดถึงการกักตัวของหลายคน ที่อยู่ระหว่างกักตัว แต่กลับออกมาทำกิจกรรมภายนอกว่า
เรื่องนี้ต้องไปดูข้อเท็จจริงว่าหากเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศต้องกักตัวทุกคน เพื่อเฝ้าระวังความปลอดภัย ส่วนผู้ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อภายในประเทศต้องเฝ้าระวังและตรวจสอบอาการของตนเอง โดยต้องจำกัดสถานที่และไม่ควรไปพบปะกับผู้อื่น เช่นเดียวกับที่ตนเองเคยปฏิบัติ เมื่อสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ว่าฯสมุทรสาคร ส่วนที่บางคนไม่กักตัวตามที่แพทย์แนะนำก็ให้สังคมช่วยกันลงโทษ
ซึ่งกฎหมายไม่ได้กำหนดไว้ เพียงแต่มีข้อห้ามไม่ให้นั่งรับประทานอาหารที่ร้านและดื่มแอลกอฮอล์เกิน 21.00 น. ส่วนเรื่องการรวมกลุ่มสังสรรค์ ได้ขอความร่วมมือให้หลีกเลี่ยง ดังนั้นขึ้นอยู่กับว่าใครจะให้ความร่วมมือหรือไม่
ขอย้ำว่าทุกคนควรอยู่ด้วยจิตสำนึก เพราะหากใช้กฎหมายควบคุมทั้งหมดก็อาจจะต้องล็อกดาวน์ ซึ่งก็จะทำให้ทุกอย่างแย่ รัฐบาลทำได้เท่าที่ทำและขอความร่วมมืออย่างเต็มที่ หากไม่ได้ก็ให้สังคมประณาม แต่หากพบว่าตรงไหนผิดกฎหมายก็ให้ดำเนินการ โดยขณะนี้กำชับและให้ตำรวจจัดสายตรวจเพิ่มเติม เพื่อดูแลความเรียบร้อย
ขณะที่สมาคมภัตตาคารไทย เตรียมเสนอขอขยายเวลาเปิดร้านจาก 21.00 น.เป็น 23.00 น.นั้น ก็พร้อมที่จะพิจารณา แต่ต้องนำข้อเสนอมาดูว่าจะดำเนินการอย่างไร ส่วนตัวเห็นว่าหากเป็นไปได้อาจเสนอให้เปิดถึง 24.00 น.รวมถึงการพิจารณาลดพื้นที่เสี่ยงด้วย โดยต้องรอเสนอต่อที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ในวันที่ 29 มกราคมนี้
You must be logged in to post a comment Login