“สุเทพ” เผย อย่าวิตก กรณี “ทักษิณ” ส่ง “ลูกสาว” ลงการเมือง บอก สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว สื่อสารยุคใหม่ คนรู้ทันมากขึ้น หลอกไม่ได้เหมือน 20 ปีที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2565 เวลา 15.00น. เฟสบุ๊คส่วนตัว “ Suthep Thaugsuban (สุเทพ เทือกสุบรรณ)” ของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย(มปท.)ได้เผยแพร่รายการ “คุยกับลุง” EP 22
นายสุเทพ กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้วไม่ได้มาพูดคุยกัน กันเพราะมีหลานเดินทางมาจากฮ่องกง3 คน ไม่ได้เจอกกันนานแล้วเขาไปพักที่เกาะสมุย อยากให้คุณตาไปเจอ ก็เลยไปเจอกันและไปพักที่เกาะสมุย 2-3 วัน ตอนนี้ ที่เกาะสมุย มีชีวิตชีวามากขึ้น หลังจากที่รัฐบาลมีมาตรการผ่อนคลาย ที่จะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยได้ เกาะสมุย เกาะภูเก็ต กทม.และเชียงใหม่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่เขาตั้งใจจะมา ก็จะช่วยเศรษฐกิจของบ้านเราได้มากขึ้น
นายสุเทพ กล่าวว่า สัปดาห์นี้ เรือตรีแซมดิน เลิศบุศย์ แกนนำกปปส.ติดต่อ ประสานมาว่า ท่านติกขวีโร แห่งพุทธสถาน สันติอโศก ฝากคำถามมา 4 ข้อ ให้ช่วยตอบ จะเอาไปออกในรายการ “บุญนิยมทีวี” คำถามแรก ถามมาว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันต้องถือว่า ประเทศไทยในช่วงที่มีวิกฤตอยู่รอบด้าน ทั้งสงครามโลก สงครามโรค และสงครามภายใน ที่ไม่ต่างกับ ศึกชิงแผ่นดินของตระกูลชิน และสงครามเศรษฐกิจ ที่พร้อมจะเกิด สึนามิครั้งใหญ่ อะไร คือทางรอดของบ้านเมืองในขณะนี้ ตรงนี้ก็อยากจะตอบว่า สงครามที่จะเกิดขึ้นระหว่าง รัสเซียกับยูเครน มันยังไม่สามารถที่จะกังวลใจว่ามันจะขยายกลายเป็นสงครามโลก แน่นอน แม้จะเป็นสงครามที่อยู่ในยุโรป เป็นสงครามที่มีผลอย่างยิ่ง ต่อความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มประเทศนาโต้ และประเทศที่ไม่ได้เป็นสมาชิกนาโต้ อย่างรัสเซีย มันย่อมมีผลกระทบ ไม่เพียงกับยุโรป แต่มีไปถึงประเทศอื่นๆทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยด้วย อันนี้ชัดเจน เชื่อว่าอีกไม่นาน สถานการณ์น่าจะคลี่คลายลง อาจจะเป็นผลจากการเจรจาระหว่าง 2 ประเทศ ที่กำลังเป็นปัญหากันอยู่ สถานการณ์ที่เป็นสงครามและการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ มันไม่ใช่ทางออกที่ดี สำหรับสังคมโลก เราก็ไม้รู้ว่าต้องใช้เวลายืดเยื้อยาวนานอีกกี่เดือน ช่วงเวลาเหล่านี้จะเป็นปัญหา วันนี้เราเห็นบางประเทศต้องเข้าคิว ซื้อน้ำมัน บางประเทศต้องมีเจ้าหน้าที่ไปดูแล ประเทศไทยคงไม่ร้ายแรงถึงขนาดนั้น ราคาน้ำมันราคาแก๊สในประเทศอาจจะสูงขึ้น แต่ก็เห็นรัฐบาลมีมาตรการออกมาใช้ เขาพยายามที่จะดูแลประชาชนอย่างดี ยังคิดว่ารัฐบาลต้องแก้ไขได้
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องสงครามโรค แม้จะหนักใจ แต่ถ้าดูตัวเลขคนที่ติดเชื้อทุกวัน แม้จะเพิ่มขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นที่มีประชากรมากกว่าไทย ตัวเลขเพิ่มขึ้นของไทยยังไม่เป็นเรื่องใหญ่ แต่กลับคิดในแง่ดีว่า ตัวเลข คนติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ประชาชน ที่ไม่ยอมฉีดวัคซีน น่าจะหันมาฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เราต้องช่วยกัน ขอให้บรรดาผู้สูงอายุ ผู้อาวุโสของแต่ละครอบครัว ยอมรับไปฉีดวัคซีน เชื่อว่ากว่าจะถึงสิ้นปีนี้ สถานการณ์โรคระบาดโควิด จะเบาบางลง เราน่าจะเป็นประเทศที่อยู่ในกลุ่มที่คลี่คลายปัญหานี้ได้ และไม่กลายเป็นปัญหาที่ทำให้เกิดความทุกข์ร้อนรุนแรงมากขึ้น
นายสุเทพ กล่าวต่อถึงคำถามที่ว่า เรื่องสงครามกลางเมืองภายในนั้น ก็อยากจะบอกว่าอย่ากังวลใจว่า มันจะเป็นสงครามกลางเมือง ให้นึกว่า เป็นธรรมชาติ ธรรมดาของการเมือง มันจะกลายเป็นศึกชิงแผ่นดินของตระกูลชิน กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ส่งลูกสาวมาเดินเกมการเมือง เพื่อหวังที่จะเป็น นายกรมต.หญิงอีกคนของตระกูลชินวัตร เราไม่ต้องไปวิตกกังวลมาก เพราะเราเคยรู้เห็น ประสบกันมาแล้วว่าระบอบทักษิณ ทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติอย่างไร
“ ผมไม่คิดว่าทุกอย่าง จะเป็นไปตามแผนการ หรือ ตามความฝันของ ของคุณทักษิณ ชินวัตร เพราะสถานการณ์มันเปลี่ยนไปมากแล้ว ความคิดเห็นของคนก็เปลี่ยนไปแล้ว คุณทักษิณ ก็ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง ในการทำตลาดทางการเมือง เป็นผู้ที่เชี่ยวชาญในเรื่องการสื่อสารของโลกยุคใหม่ แต่วันนี้คนอื่นๆ ฝ่ายอื่นๆก็รู้เท่าทัน ความก้าวหน้าทางด้านการสื่อสารในโลกยุคใหม่ ประชาชนทุกฝ่ายได้รับข้อมูลข่าวสารพร้อมๆกันเร็วเท่ากัน มีการวิเคราะห์ แลกเปลี่ยนความรู้กัน เพราะฉะนั้นทุกคนก็รู้ข้อเท็จจริงมากพอๆกัน หลอกไม่ง่าย เหมือนเมื่อ20ปีก่อนที่คุณทักษิณเคยทำ ผมไม่รู้สึกกังวลใจ” นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นที่ถามว่าขณะนี้มีการตั้งพรรคเมืองใหม่ขึ้นมาหลายพรรค และ มีพรรคการเมืองน้ำดีนั้น ตรงนี้เห็นด้วย ส่วนใหญ่จะเป็นพรรคน้ำดี จะมีน้ำร้ายอยู่บ้างก็เป็นธรรมดา อยากจะถือโอกาสต้อนรับบรรดาพรรคการเมืองนักการเมืองใหม่ๆ ที่เสนอตัวมาเป็นทางเลือกให้ประชาชน ตนพูดกับเพื่อนๆตลอดเวลาว่า เราเป็นประชาชนที่อยู่ในระบอบประชาธิปไตย เรารังเกียจ หรือ ปฏิเสธการเมืองไม่ได้ เราต้องคิดว่าเป็นหน้าที่ ที่จะต้องร่วมมือกันทำให้การเมืองของประเทศไทยเป็นการเมืองที่ดี เป็นของประชาชน ทำเพื่อประชาชน โดยประชาชนอย่างแท้จริง
“ เวลาที่มีคนดีๆมาตั้งพรรคการเมือง มีคนดีๆมาเป็นนักการเมืองตนชื่นชมเอาใจช่วยขอต้อนรับในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ผมคิดว่าเป็นโอกาสที่ดีประชาชนจะได้มีทางเลือกมากขึ้นจะได้เปรียบเทียบว่า พรรคไหนกลุ่มไหนมีอุดมการณ์ หรือมีความจริงใจต่อประเทศมากกว่า ก็จะได้ช่วยกันสนับสนุนต่อไป ข้อสำคัญคือ คนทุกรุ่นอายุ ไม่ว่าจะเป็นคนหนุ่มคนสาว คนสูงอายุ ต้องทำหน้าที่ทางการเมือง อย่างน้อยคือ ติดตามสถานการณ์ของบ้านเมือง และเตรียมพร้อม ที่จะตัดสินใจว่า เราจะมอบความไว้วางใจให้กับพรรคไหนกลุ่มไหนตรงนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ” นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ที่ถามมาว่า นายกฯประยุทธ์ยังมีความเหมาะสมในการเป็นผู้นำประเทศที่นำไปสู่ความสงบเรียบร้อยอยู่หรือไม่ ก็จะบอกว่า ตนเชียร์ นายกฯ มาโดยตลอด เพราะได้พิจารณาเห็นว่า ท่านมีความปรารถนาดี มีความตั้งใจดี ที่จะทำงานให้กับประเทศชาติ และประชาชน เป็นคนสุจริต มีความมุ่งมั่น ยังไม่เห็นว่ามีอะไรที่เป็นข้อบกพร่องไม่มีอะไรที่ก่อเกิดความเสียหายจากการกระทำพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะที่เป็นนายกฯ ยังเห็นว่าท่านยังเป็นบุคคลที่มีเหมาะสม ที่จะเป็นผู้นำประเทศ ในยุค ในสมัยนี้ ในช่วงนี้โดยเฉพาะ ช่วงที่เรากำลังมีปัญหา ที่มีผลกระทบมาจากโรคภายนอก มีปัญหามาจากโรคระบาด กลายเป็นปัญหาเศรษฐกิจของชาติและประชาชน หน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้คิดว่า นายกฯประยุทธ์ ยังเป็นผู้ที่มีความเหมาะสม ตนยังเชื่อมั่นแบบนั้นอยู่
นายสุเทพ กล่าวต่อว่าที่ถามมาว่า มีพรรคการเมืองดีๆ จัดตั้งขึ้นมาใหม่กลัวว่าจะเป็นสงครามของคนดีกับคนดี ต้องมาสู้กันเองนั้น ตรงนี้ก็บอกไปแล้วว่า ตื่นเต้น ติดตามและชื่นชม ที่มีพรรคการเมืองใหม่ๆ นักการเมืองใหม่ๆ คนดีๆ ที่เสนอตัวให้ประชาชนพิจารณา ตนไม่คิดว่า จะเป็นสงครามของคนดี การที่มีหลายพรรค มีหลายทางเลือก ประชาชนก็สามารถที่จะเลือกได้ตามรสนิยมของแต่ละคน แต่ละรุ่น
“ พรรคการเมืองแต่ละพรรค ที่ตั้งขึ้นมา ก็มีตลาดของตัวเอง คนละตลาด แต่เชื่อว่าพรรคดีๆคนดีๆ เขาต้องคิดถึงความอยู่รอดปลอดภัย ของบ้านเมืองในที่สุดก็ร่วมมือกันได้ ยังเชื่อมั่นว่า คนดีๆ ก็ต้องร่วมมือกันพรรคการเมืองดีๆต้องร่วมมือกันเพื่อให้บ้านเมืองอยู่รอดปลอดภัย แต่สิ่งที่กังวลมากใจมากที่สุดคือ เรื่องเศรษฐกิจ พรรคการเมือง และนักการเมืองทั้งหลายจะต้องเสนอแนวทาง ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศชาติ และประชาชน อย่ายึดมั่นถือมั่น หลังการเลือกตั้งทั่วไป ครั้งหน้า ใครมีแนวคิดดีๆนโยบายดีๆต้องเอามารวมกัน ระดมสมองที่จะมาช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศและของครอบครัวประชาชน“ นายสุเทพกล่าว
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ตนยังเห็นว่าแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จะเป็นทางรอดของครอบครัวต่างๆ อันนี้เราต้องช่วยกัน ผลักดันเอาเศรษฐกิจพอเพียง ที่ใช้ภูมิปัญหา องค์ความรู้ ใช้ผลงานวิจัย นวัตกรรมใหม่ๆ ที่กลุ่มปัญญาชนมหาวิทยาลัยต่างๆ องค์กรต่างๆ ที่คิดค้นมา เอาไปประยุกต์ใช้ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ตรงนี้จะช่วยให้ครอบครัว มีรายได้มีความมั่นคง มีความปลอดภัยในภาวะที่มีความผันผวน ทางเศรษฐกิจและของประเทศ เป็นเรื่องที่เราต้องช่วยกันมากที่สุด
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ส่วนคำถามที่ถามว่าการเลือกตั้ง ผู้ว่ากทมฯ มีความสำคัญต่อต่างจังหวัดอย่างไร จะบอกว่า ตอบไม่ได้จริงๆ ตนไม่มั่นใจว่าการเลือกตั้งผู้ว่ากทม.จะสะท้อนอะไรไปถึงชาวต่างจังหวัดบ้าง แต่มองว่าทุกการเลือกตั้ง มันเป็นเครื่องวัดความนิยมของประชาชนที่มีต่อพรรคการเมืองและนักการเมือง เท่าที่ติดตามวันนี้มีผู้สมัครลงในนามพรรคการเมืองและแบบอิสระ ส่วนอิสระ มีทั้งแบบจริงๆบ้าง และแบบที่มีพรรคการเมืองคอยบงการอยู่ แต่คงไม่รอดจากหูตาประชาชน พี่น้องชาวกทม.ไวต่อข่าวสาร และสถานการณ์มาก เวลาพี่น้องชาวกทม.เข้าคูหาไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง โดยเฉพาะการเลือกผู้ว่ากทม.เป็นการแสดงออกว่าพี่น้องประชาชนมีความคิดเห็นทางการเมืองไปในทิศทางของพรรคการเมือง หรือ กลุ่มการเมืองไหน ตรงนี้อาจจะมีผลต่อการพิจารณา ตัดสินใจของพี่น้องชาวต่างจังหวัด เพราะหลังจากที่มีการเลือกผู้ว่ากทม.ในเดือน พ.ค.แล้วนับไปอีก 9-10 ก็น่าจะมีการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหญ่ ตรงนี้จะเป็นการตัดสินอนาคตของประเทศครั้งสำคัญ
