Connect with us

News

เพื่อไทย พร้อมแล้ว!! เตรียมส่ง ลูกชาย “ป๋าเหนาะ” ชิงพื้นที่ “หลักสี่”!!

Published

on

ชลน่าน เผย เพื่อไทย จ่อส่ง สุรชาติ เทียนทอง อดีตผู้สมัครพรรค ลงเลือกต้องซ่อมเขตหลักสี่

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.กทม. เขตหลักสี่ หลังนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้สิ้นสุดสมาชิกภาพการเป็น ส.ส. ว่า พรรค พท.ได้มีการพูดคุยกันเบื้องต้นว่า จะมีการนัดหมายเพื่อพูดคุยเรื่องนี้ที่ทำการพรรค พท. วันนี้ ส่วนจะมีการส่งผู้สมัครหรือไม่ขึ้นอยู่กับมติของที่ประชุม ซึ่งเป็นหน้าที่ของกรรมการบริหารพรรคที่จะเป็นคนตัดสิน
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า หากดูเงื่อนไขหรือเหตุผลที่จะนำไปสู่การพิจารณาว่าจะส่งผู้สมัครหรือไม่ เรามีข้อพิจารณาพอสมควร เพราะเขตหลักสี่เป็นพื้นที่เดิมของพรรค พท. เราแพ้การเลือกตั้งในปี 62 แต่แพ้อันดับหนึ่งแค่ไม่กี่คะแนน โดยได้ 32,000 กว่าคะแนน ถือว่าเป็นคะแนนที่ดีมากสำหรับการเลือกตั้งในกทม. หากตรวจสอบดูจะพบว่า ในกทม. พรรค พท. ส่งผู้สมัคร 20 เขต ได้ 32,000 กว่าคะแนนเป็นอันดับ 3 ของผู้ที่ได้รับเลือกตั้งในกทม. นั่นคือฐานคะแนนเดิมที่มีอยู่

นอกจากนี้ นายสุรชาติ เทียนทอง อดีตผู้สมัครส.ส. ก็หน้าที่ผู้แทนของประชาชนอยู่ในเขตเลือกตั้งตลอดเวลา ซึ่งก็เป็นภาพอย่างหนึ่งที่นำเข้าสู่กระบวนการตัดสิน หากพรรค พท. ไม่ส่งเลือกตั้งก็จะตอบคำถามประชาชนไม่ได้ และพรรคก็จะสูญเสียโอกาส

เมื่อถามว่า คุณสมบัติของนายสุรชาติ จะสู้นางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ หรือ “เจ๊หลี” ภรรยาของนายสิระ ว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม. พรรค พปชร. ได้หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรามั่นใจ โดยเฉพาะเรื่องการทำหน้าที่ ความพร้อม และจิตวิญญาณความเป็นผู้แทน ซึ่งเขาพิสูจน์ว่า 17 ปี ในการใช้ชีวิตอยู่กับการเป็นผู้แทน ซึ่งจากการแสดงออกเขามีความมุ่งมั่นและตั้งใจมาก ดังนั้นเรื่องความพร้อมและคุณสมบัติเราไม่ห่วง แต่ไม่ได้บอกว่าเราเหนือกว่าคนอื่น แต่เรามั่นใจว่า สิ่งที่เรานำเสนอประชาชนน่าจะเป็นคุณสมบัติที่พรรคเพื่อไทย เลือกสิ่งที่ดีที่สุด


เมื่อถามว่า ความมั่นใจว่าจะชิงเก้าอี้ส.ส.เขตหลักสี่คืนมาได้หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า มั่นใจว่าน่าจะชิงเก้าอี้คืนกลับมาได้แม้จะมีคู่แข่ง ซึ่งพรรคที่เกี่ยวข้องน่าจะส่งทั้งหมด สายประชาธิปไตยอย่างน้อย 2 พรรค ความจริงแล้วการเลือกตั้งซ่อม เราคิดกันว่าจะใช้ยุทธศาสตร์ในการเลือกตั้งมาเป็นข้อตัดสินหรือไม่ในการส่งผู้สมัคร ซึ่งขึ้นอยู่วิธีคิดของแต่ละพรรคการเมือง เราไม่สามารถไปโน้มน้าวชักจูงหรือทำให้เกิดกระบวนการนี้ได้

หากสามารถมารวมกันได้ก็เป็นยุทธศาสตร์การเลือกตั้งเพื่อชนะในพื้นที่นั้นๆ แต่ประชาชนต้องยอมรับได้ เช่น ฝ่ายประชาธิปไตยแข่งกับอีกฝ่ายหนึ่ง โดยมีมีการคิดร่วมกัน สู้ร่วมกัน ก็จะมีโอกาสชนะสูงมาก มั่นใจว่าฝ่ายประชาธิปไตยชนะแน่ในเขตนี้ แต่จะเป็นพรรคไหนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ส่วนเงื่อนไขที่จะมารวมกันนั้นจะต้องหลีกหนีคำว่า “ฮั้วการเมือง” ให้ได้

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Click to comment

You must be logged in to post a comment Login

Leave a Reply

Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: