Connect with us

Politics

จับสัญญาณ!! เสรีพิศุทธ์ ต่อ พรรคก้าวไกล ก่อนจบคำถาม…ไม่กลัว พรรคก้าวไกลโกรธ หรือไม่??

Published

on

เสรีพิศุทธ์ เผย ปมโหวตนายกฯ ถ้ายังยืนยันอยู่ เพื่อไทยก็ไม่ผ่านหรอกเชื่อผมสิ แต่ถ้าเสียสละก็พอไปได้ ก่อนนักข่าวตั้งคำถาม ให้ก้าวไกล ไปเป็นฝ่ายค้าน หรือไม่??

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ตอบสื่อมวลชนในการแถลงข่าวหลังการประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลที่ให้สิทธิพรรคเพื่อไทยดำเนินการแสวงหาเสียงสนับสนุนเพิ่มเติมในการโหวตนายกรัฐมนตรี วันที่ 27 กรกฎาคม 2566 โดยแนวทางแรก คือหาเสียงจากสมาชิกวุฒิสภา (สว.) หากได้เสียงไปเพียงพอ ให้สิทธิพรรคเพื่อไทยขอเสียงสนับสนุนจาก สส.พรรคอื่น

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวถามในตอนหนึ่งว่าในมุมของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ถ้าจะต้องปรับลดหรือปลดล็อกเรื่องการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มีความคิดเห็นอย่างไร เห็นด้วยหรือไม่ถ้าจะต้องถอยมาตรา 112 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า การขอแก้ไขมาตรา 112 เป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เรื่องที่เป็นความผิดอะไร และเคยอภิปรายในที่ประชุมรัฐสภาไปแล้วเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2566 ที่มีการโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งแรก เพราะมาตรา 112 เป็นประมวลกฎหมายอาญา เพราะแม้แต่รัฐธรรมนูญยังแก้ได้

“ผมเนี่ยโดนข้อหา 112 มาแล้วนะ แล้วตอนผมเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เบื้องบนมาบอกให้ปลดล็อกให้หมด เป็นการเอาพระองค์ท่านมารังแกประชาชน ผมสั่งไม่ฟ้องหมดเลย ผมเรียนตรงๆ ว่าพอบอกมาตรา 112 เป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้นเอง จะให้ผมทำอย่างไรล่ะ ก็เขาอ้างอย่างนี้ ผมก็ไม่รู้จะทำอย่างไรได้ ในวันที่ 19 กรกฎาคม ที่มีการโหวตเรื่องการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีของคุณพิธา ครั้งที่ 2 เป็นการซ้ำซ้อนหรือไม่

ผิดข้อบังคับการประชุมของรัฐสภาหรือไม่ ท่านไปตรวจสอบดูสิผมไม่ได้ไปลงคะแนนกับเขาหรอก เพราะผมเห็นว่ามันผิดรัฐธรรมนูญ ถ้าไปร่วมลงคะแนนด้วยเท่ากับผมยอมรับเขา ผมไม่ลงนะครับ ผมไม่ได้ไปไหนหรอก” 

ส่วนกรณีที่ถามว่ามีคนไปร้องผู้ตรวจแผ่นดินแล้ว เราต้องพิจารณาว่าผู้นั้นเป็นผู้เสียหายหรือไม่ เกี่ยวข้องหรือไม่ ถูกละเมิดสิทธิหรือไม่ ถ้าไม่ผู้ตรวจการแผ่นดินก็คงไม่รับคำร้อง ถ้ารับก็ผิด แต่ในวันที่ 26 กรกฎาคมนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จะไปยื่นเอง โดยจะขอให้สมาชิกพรรคต่างๆ ร่วมลงชื่อ เพื่อปลดล็อกมติเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2566

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เผยต่อไปว่าถ้าเรื่องนี้ถูกปลดล็อกจะเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีซ้ำได้ อีกทั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีหน้าที่และอำนาจที่จะดำเนินการสืบสวนดำเนินคดีกับนักการเมืองที่กระทำการทุจริตประพฤติมิชอบ กระทำการขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย

“ก็ไปดำเนินการและเรียกร้องค่าเสียหายไปด้วยเลย ผมจะเป็นนายกรัฐมนตรี เสือกมาให้ผมติด ไม่ได้เป็น ฟ้องไปสัก 1,000 ล้านพอหรือเปล่าไม่รู้”

อย่างไรก็ตามในช่วงท้ายของการแถลง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้ขอพูดเพิ่มเติมว่า ทางฝ่าย สว.เขาจิ้มมาเลยถ้ามีพรรคก้าวไกลเขาไม่เอาด้วย รวมถึงอีกหลายพรรคการเมือง ซึ่งส่วนตัวเห็นว่าพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยอยู่ร่วมกันมาโดยตลอด การที่พรรคเพื่อไทยจะตัดเยื่อใยเลยก็ไม่ถูก ก็ต้องรักษาพรรคก้าวไกลเอาไว้

ขณะที่พรรคก้าวไกลก็ควรสนับสนุนพรรคเพื่อไทย จะได้ไม่หนักใจในการที่จะไปหาเสียงสนับสนุนในการโหวตนายกรัฐมนตรีเพิ่ม ควรเป็นเรื่องที่พรรคก้าวไกลต้องตัดสินใจ

“ถ้ายังยืนยันอยู่ เพื่อไทยก็ไม่ผ่านหรอกเชื่อผมสิ แต่ถ้าเสียสละก็พอไปได้ เมื่อกี้ผมก็พูดในห้องประชุมเราอยู่กลางทะเล เรือมันล่ม เป็นไง มีคนแก่ ผู้หญิง เด็ก เราคนหนุ่มจะต้องขึ้นเรือก่อนหรือ เราก็ต้องให้เด็ก คนแก่ ผู้หญิงขึ้นไปก่อน เราก็ยอมเสี่ยงภัยไปซะก่อน เดี๋ยวเรือลำที่ 2 มาเราค่อยไป ไม่ใช่ว่าไอหนุ่มกระโดดขึ้นเรือก่อนไม่ได้ เพราะฉะนั้นตอนนี้ต้องมีผู้เสียสละเพื่อให้ประชาธิปไตยไปได้ ถ้าไม่มีการเสียสละกันไปไม่ได้ เชื่อผมเถอะ”

ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อคำว่าเสียสละหมายความอย่างไร พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ตอบว่า คือแนวทางที่ 3 ที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยไปแถลงไป ไม่ใช่การตัดพรรคก้าวไกล เพราะไม่เช่นนั้นจะขาด 151 เสียง เพียงแต่ไม่ต้องแสดงตัว ต้องเล่นให้เป็นบ้าง แล้วไปรวมกันที่หลังได้

ส่วนคำถามหมายถึงการให้พรรคก้าวไกลถอยไปเป็นฝ่ายค้านหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ตอบว่า ก็ไปคิดเอาเองว่าใครควรเสียสละ ถ้าตนเองเสียสละพรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้ประโยชน์เพราะเสียงเดียว โดยเมื่อถูกผู้สื่อข่าวรุมถามต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวขึ้นมา “มีรูที่ไหนให้ผมมุดบ้างเนี่ย” ก่อนจะกล่าวต่อไปว่า รอพรรคเพื่อไทยดำเนินการ

เมื่อถามย้ำแม้ว่าพรรคก้าวไกลจะชนะเลือกตั้งก็ต้องเสียสละหรือ ได้คำตอบจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ระบุว่า “ไปดูเลือกตั้งปี 2562 พรรคเพื่อไทยได้คะแนนมากที่สุด แต่พรรคพลังประชารัฐก็แย่งจัดตั้งรัฐบาล คราวนี้พรรคก้าวไกลได้ที่ 1 พรรคเพื่อไทยได้ที่ 2 พรรคเพื่อไทยยังไม่แย่งจัดเลย เพราะฉะนั้นต้องเห็นใจเพื่อไทยบ้าง เขามีโอกาสแล้วช่วยเขา เพราะเขาก็ช่วยเต็มที่อยู่แล้ว”

ส่วนคำถามว่าจะไม่ทำให้หลักการบิดเบี้ยวใช่หรือไม่ “ไม่บิดเบี้ยวหรอก คุณต้องการอะไร ประชาธิปไตยต้องการบริหารประเทศเปล่า คราวที่แล้วคุณประยุทธ์ จะเป็นนายกรัฐมนตรียังต้องเสียสละกระทรวงสำคัญให้ภูมิใจไทย ให้ประชาธิปัตย์เลย”

ขณะที่การพูดเช่นนี้ไม่กลัวพรรคก้าวไกลโกรธใช่หรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ตอบว่า “ไม่กลัวหรอก เราพูดความจริง แล้วก็พูดด้วยความรัก” ผู้สื่อข่าวยังคงถามต่อ พรรคก้าวไกลต้องไม่แตะมาตรา 112 ใช่หรือไม่จึงจะเป็นทางรอด “จะบอกไม่แตะ เขาบอกคุณแตะอยู่แล้ว ภาพมันติดตามตรึงใจอยู่ มันไปได้หรอก”

#เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: