อาจารย์อุ๋ย ปชป. ชี้ สว. ดูงานทิ้งทวน 81 ล้าน ขัด พรบ. วินัยการเงินการคลัง ฯ แนะคืนเงินให้แผ่นดิน วอนทุกหน่วยงานเลิกประเพณีผลาญงบทิ้งทวน
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า จากกรณีที่สมาชิกวุฒิสภาชุดปัจจุบัน ซึ่งจะหมดวาระลงในอีกไม่ถึง 1 เดือน ข้างหน้า มีความพยายามใช้เงินงบประมาณแผ่นดินจำนวน 81 ล้าน บาท เพื่อไปดูงานที่ต่างประเทศทั้งในยุโรปและเอเชียนั้น นายประพฤติ ฉัตรประภาชัย หรืออาจารย์อุ๋ย นักวิชาการด้านกฎหมายและอดีตผู้สมัคร สส. กรุงเทพมหานคร เขตบางกะปิ พรรคประชาธิปัตย์ ได้แสดงความเห็นผ่านเฟสบุ๊คว่า
“รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา มาตรา 62 บัญญัติว่า รัฐต้องรักษาวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัดเพื่อให้ฐานะทางการเงินการคลังของรัฐมีเสถียรภาพและมั่นคงอย่างยั่งยืนตามกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ…และ มาตรา 37 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลัง พ.ศ. 2561 บัญญัติว่า…การก่อหนี้ผูกพันและการใช้จ่ายเงินของหน่วยงานของรัฐในการปฏิบัติหน้าที่หรือการดําเนินงาน ต้องเป็นไปอย่างโปร่งใส คุ้มค่าและประหยัด โดยพิจารณาเป้าหมาย ประโยชน์ที่ได้รับ ผลสัมฤทธิ์ และประสิทธิภาพของหน่วยงานของรัฐ…และมาตรา 40 บัญญัติว่า เงินที่ขอเบิกจากคลัง ถ้าไม่ได้จ่ายหรือจ่ายไม่หมด ให้หน่วยงานของรัฐ ผู้เบิกนําส่งคืนคลังโดยไม่ชักช้า
ดังนั้น เมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ว่า สว. ชุดนี้จะหมดวาระลงในเดือนหน้า และไม่สามารถกลับมาเป็นได้อีกแล้วเพราะรัฐธรรมนูญห้ามไว้ แต่เป็นเพียงแค่รักษาการณ์ชั่วคราวซึ่งมีอำนาจจำกัด จึงไม่มีเหตุที่จะต้องไปศึกษาดูงานเพื่อกลับมาทำหน้าที่อีก และหากอ้างว่าจะไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ก็ควรใช้เงินส่วนตัว เพราะกลับมาก็ไม่ได้ทำหน้าที่แล้ว เป็นเพียงแค่รักษาการณ์ชั่วคราวซึ่งมีอำนาจจำกัด เป็นการเรียนรู้เพื่อประโยชน์ของตัวเอง
การดูงานดังกล่าวจึงไม่ถือเป็นการใช้จ่ายเงินของหน่วยงานของรัฐอย่างคุ้มค่าและประหยัดตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 37 และต้องคืนเงินที่เหลือกลับเข้าคลังแผ่นดินตามมาตรา 40 ต่อไป หากฝ่าฝืนต้องรับโทษฐานทำผิดวินัยการเงินการคลังตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. 2561
ผมจึงอยากฝากให้ สว. ที่คิดจะใช้เงินงบประมาณแผ่นดินนี้ ทบทวนการกระทำเสียใหม่ ยกเลิกการเดินทางและส่งเงินคืนแผ่นดิน เพื่อสร้างบรรทัดฐานที่ถูกต้องให้กับหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ต่อไป
เพราะประเพณีผลาญงบเพื่อทิ้งทวนหรือเพื่อตอบแทนบุญคุณ ที่มักพบเจอในหน่วยงานของรัฐต่าง ๆ ตั้งแต่ส่วนกลางจนถึงส่วนท้องถิ่นนี้สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติอย่างมาก เพราะนอกจากจะขัดทั้งรัฐธรรมนูญและกฎหมายแล้วยังถือเป็นการใช้เงินภาษีที่มาจากหยาดเหงื่อแรงงานของประชาชนอย่างสิ้นเปลืองและไร้ค่า
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาวะเศรษฐกิจตอนนี้ที่ประชาชนทุกคนต่างดิ้นรนหารายได้ด้วยความเหนื่อยยากเพื่อประทังชีวิตไปวันต่อวัน หน่วยงานของรัฐทุกหน่วยจึงควรยุติประเพณีหรือธรรมเนียมปฏิบัติที่เหมือนเป็นการตบหน้าประชาชนแบบนี้เสียที”
#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS