สนธิรัตน์ ควงแกนนำ พรรคสร้างอนาคตไทย ลงพื้นที่จ.กาญจนบุรี ชูนโยบายปั้นเศรษฐกิจฐานราก แก้ปากท้องประชาชน ลั่น! ทำจริง เพราะเป็นการแก้ปัญหาให้สอดคล้องกับท้องถิ่นจริง
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ศูนย์เรียนรู้โรงเรียนชาวนา ตำบลหนองสาหร่าย อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ แกนนำและผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย พร้อมด้วย นายวัชระ กรรณิการ์ กรรมการประสานงานพรรคฯ และผู้ร่วมก่อตั้งพรรคฯ อาทิ นายศิวโรฒ จิตนิยม นายนริศ เชยกลิ่น นายบุญส่ง ชเลธร นายมนต์ชีพ ศิวะสินางกูร ลงพื้นที่ จ.กาญจนบุรี พบปะเครือข่ายร่วมอุดมการณ์สร้างอนาคตไทยกลุ่มเศรษฐกิจฐานราก และปราชญ์ชาวบ้านจากภาคกลางและภาคตะวันตก กว่า 20 คน เพื่อแลกเปลี่ยนและรับฟังความคิดเห็นในการจัดทำยุทธศาสตร์และนโยบายของพรรคเพื่อสร้างอนาคตเศรษฐกิจฐานราก แก้ปัญหาปากท้องประชาชน พร้อมเยี่ยมชมตัวอย่างความสำเร็จการดำเนินงานโครงการเศรษฐกิจฐานรากของเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนใน จ.กาญจนบุรี
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า พรรคสร้างอนาคตไทย มีจุดยืนชัดเจนในการเสนอตัวเป็นทางเลือกให้ประชาชนที่จะเข้ามาแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจของประเทศ และปัญหาปากท้องของประชาชน โดยทิศทางนโยบายของพรรคไม่ได้มองเฉพาะภาพรวมของเศรษฐกิจระดับประเทศ และระดับนานาชาติเท่านั้น
แต่พรรคยังให้ความสำคัญต่อเศรษฐกิจฐานรากที่ถือเป็นรากฐานเศรษฐกิจของประเทศคู่ขนานกันไปด้วย ซึ่งการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากจำเป็นต้องได้คนทำงานด้านนี้โดยตรงเข้ามาช่วยในการวางทิศทางนโยบายที่ครอบคลุมทั้งมิติการพัฒนา การแก้ปัญหาให้สอดคล้องกับท้องถิ่นจริงๆ เพื่อให้เป็นการขับเคลื่อนที่ถูกทางและเข้าถึงความต้องการของประชาชน ที่สำคัญนโยบายที่กลั่นกรองมาจากคนทำงานย่อมนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างแท้จริง
“ขณะนี้พรรคมีผู้ที่แสดงเจตจำนงที่จะเข้ามาร่วมงานกับพรรคเป็นจำนวนมาก ซึ่งทุกคนล้วนต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ และในวันนี้มีกลุ่มเศรษฐกิจฐานรากและปราชญ์ชาวบ้านทั้งจากภาคกลางและภาคตะวันตก อาทิ จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม ที่เห็นทิศทางนโยบายของพรรค ได้เข้ามาร่วมอุดมการณ์ ซึ่งทุกท่านเหล่านี้ล้วนแต่เป็นคนที่ทำงานขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจฐานรากและมีประสบการณ์ที่จะเข้ามาเป็นกำลังสำคัญของพรรค
ซึ่งเป็นจุดที่แสดงให้เห็นว่าพรรคมีความพร้อมทั้งด้านนโยบายและบุคลากรที่จะมาเข้ามาทำงานให้กับประเทศและพี่น้องประชาชนจริงๆ และครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มารวมตัวกัน ต่อจากนี้จะเกิดกระบวนการทำงานร่วมกันในการตกผลึกเพื่อกำหนดเป็นนโยบายการแก้ปัญหาเศรษฐกิจฐานราก แก้ปัญหาหนี้สิน แก้ปัญหาชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนที่ต้องต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลง และปัญหาอุปสรรคต่างๆ” นายสนธิรัตน์ กล่าว