Connect with us

Politics

“จตุพร” นำทีมชุมนุม “นับถอยหลัง 8 ปี ประยุทธ์” 21-24 ส.ค.นี้

Published

on

“จตุพร” นำทีมชุมนุม “นับถอยหลัง 8 ปี ประยุทธ์” กำหนดฤกษ์ 21-24 ส.ค.นี้

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า คณะหลอมรวมประชาชน แถลงข่าวการการเปลี่ยนสถานที่จัดเวทีสาธารณะ “นับถอยหลัง 8 ปี ประยุทธ์” ว่า จะย้ายมาจัดอย่างต่อเนื่องที่ลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการ กทม. ในวันที่ 21-24 ส.ค. เพื่อเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พ้นจากนายกรัฐมนตรีตาม ม. 158 ที่กำหนดให้มีเวลารวมกันไม่เกิน 8 ปี

นายจตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวว่า เนื่องจากการจัดเวทีสาธารณะที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุล สี่แยกคอกวัวมีประชาชนมาจำมาก คณะหลอมรวมประชาชน มีมติย้ายไปจัดที่ลานคนเมือง กทม. โดยจองสถานที่ไว้แล้ว 4 วัน คือ วันที่ 21-24 ส.ค. นี้ จึงขอเชิญประชาชนมาแสดงพลัง ร่วมกำหนดชะตากรรมประเทศด้วยกัน เพราะถ้าท่านอยู่บ้าน พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยังอยู่ในทำเนีบยรัฐบาล ดังนั้น ในเส้นทางข้างหน้าต้องมาชี้ชะตากรรมและกำหนดร่วมกัน

การจัดเวทีสาธารณะที่ลานคนเมือง จะมีกิจกรรมตั้งซุ้มอาหารการกินมาแบ่งกันกิน นำเสื้อหยุด 8 ปี พล.อ.ประยุทธ์ ต้องไป มาแจก มีดนตรีบรรเลง สลับกับปราศรัย เพื่อให้ประชาชนฟังอย่างสบายใจ ไม่ต้องกดดันอะไร

“ถ้าวันที่ 21 ส.ค.นี้ ประชาชนมามาก พล.อ.ประยุทธ์ ก็จะตัดสินใจได้ง่าย ถ้ามีคนมากก็แสดงกำลังต่อไปถึงวันที่ 22 ส.ค. แล้วเคาท์ดาวน์ไปถึงเที่ยงคืนวันที่ 23 ส.ค. ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จะออก ไม่ออกก็ช่างหัว พล.อ.ประยุทธ์ แต่ถ้าออก เราก็ฉลองชัยชนะร่วมกัน”

นายจตุพร กล่าวว่า หากถึงรุ่งเช้าวันที่ 24 ส.ค. พล.อ.ประยุทธ์ ยังอยู่เป็นนายกรัฐมนตรีเถื่อนแล้ว ประชาชนจะได้ร่วมกำหนดทิศทาง ซึ่งอยู่ที่มติของประชาชนจะตัดสินใจ ส่วนการไปทำเนียบรัฐบาลอยู่ที่มติของประชาชนเช่นกัน

“ขอบอกว่า ถ้าอยู่บ้าน พล.อ.ประยุทธ์ก็อยู่ต่อไป เมื่อมาร่วมก็จะตัดสินใจทางการเมืองอย่างใดอย่างหนึ่งได้ ซึ่งสถานการณ์จะอธิบายการชุมนุมยืดเยื้อ เช่น มีการปฏิวัตตัวเอง ก็ชุมนุมกันต่อไป ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับสถานการณ์เป็นคำตอบ โดยวันที่ 23 ส.ค.จะชุมนุมยันเที่ยงคืน จนถึงการตัดสินใจเฮือกสุดท้ายของ พล.อ.ประยุทธ์”

นายจตุพร ย้ำว่า ถึงเวลาร่วมกันจัดการ พล.อ.ประยุทธ์ ในการแก้ปัญหาชาติ ถ้าคนไทยทน พล.อ.ประยุทธ์ ได้ก็ไม่ต้องมาให้อยู่กันอย่างยั้งยืนยงกันไป ซึ่งพวกตนไม่มีเบื้องหลังอะไร ต่างคนต่างช่วยกันเพื่อแก้ปัญหาประเทศชาติ

ส่วนการประกาศไม่ยุบสภานั้น นายจตุพร กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนไม่น่าเชื่อถือแล้ว เพราะพูดไม่ปฏิวัติก็ปฏิวัติ สัญญาไม่อยู่นานก็อยู่นาน มักผิดคำสัญญามาตลอด เมื่อวันนี้มาบอกไม่ยุบสภาจึงไม่มีความน่าเชื่อถือ อีกทั้งการให้คนใหญ่คนโตในบ้านเมืองช่วยอธิบายการนับวันเวลาเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น แต่ถ้าพิจารณาความเห็นของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ กับนายสุพจน์ ไข่มุกด์ โดยเป็นประธานกับรองกรรมการร่าง รธน. 2560 ยังออกมาแสดงความเห็นในทำนองเดียวกันว่า ให้นับรวมไปถึงเวลาเป็นนายกรัฐมนตรีก่อนปี 2557 ด้วยซ้ำ

นอกจากนี้ การเริ่มนับเวลานายกรัฐมนตรีตาม รธน. 2560 จึงไม่ได้มาลอยๆ แต่อิงกับ รธน.ชั่วคราว ปี 2557 กำหนดแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีไว้ตาม ม. 19 ดังนั้น จึงต้องนับวันที่มีโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งพล.อ.ประยุทธ์ เปป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 ส.ค. 2557 เท่านั้น ซึ่งไม่มีวันอื่นใดๆ เพราะเป็นไปตาม ม.264 รับรองให้นับเวลารวมเอาไว้อย่างชัดเจน

สำหรับบันทึกการประชุมคณะกรรมการร่าง รธน. 2560 ครั้งที่ 500 นั้น นายจตุพร กล่าวว่า เกิดขึ้นหลังการทำประชามติแล้ว 2 ปีกับ 1 เดือน และประกาศใช้ รธน.เมื่อ 6 เม.ย. 2560 ไปแล้ว 1 ปีครึ่ง โดยสิ่งเหล่านี้เป็นการรันตีว่า เนื้อหา รธน. ตาม ม.158 จึงเป็นอย่างนี้ และไม่มีใครเห็นเป็นอย่างอื่น

นายจตุพร ยกกรณีตัวอย่างการใช้ รธน.มีผลย้อนหลังมาโต้แย้งว่า ในความผิด ม.157 นั้น กรณี นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี นายยงยุทธ์ วิชัยดิษฐ์ ขณะทำผิดอยู่ใน รธน. 2540 และนายปลอดประสบ สุรัสวดี ทำผิดใน รธน. 2540 ขณะถูกวิพากษาอยู่ใน รธน. 2550 บุคคลทั้งหมดต้องถูกตัดสิทธิ์การเมืองตลอดชีวิต

“โดยทุกคนต่างปฏิบัติตาม รธน. อันมีผลย้อนหลังทั้งสิ้น แล้ววันนี้จะละเว้นให้ พล.อ.ประยุทธ์ เพียงคนเดียวหรือ? เหตุนี้จึงต้องพ้นตำแหน่งตาม ม. 158 และ ม.264 ประกอบ ม. 170 ส่วนคณะรัฐมนตรีก็ต้องต้องพ้นตำแหน่งทั้งคณะด้วยตาม ม.168

ดังนั้น วันนี้ประเทศอยู่สถานการณ์ยากลำบาก แต่จุดยืนคณะหลอมรวมประชาชน ไม่กังวล พล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่หรือไป จะยุบสภา หรือลาออก หรือจะปฏิวัติตัวเอง ก็เป็นดุลพินิจของ พล.อ.ประยุทธ์ ส่วนการใช้อริยสัจ 4 มาแก้ปัญหาค่าไฟแพงนั้น เป็นการใช้ธรรมะของคนสิ้นธรรมะ เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องของการดับทุกข์ ไม่ใช่เรื่องการขึ้นค่าไฟ

นายนิติธร ล้ำเหลือ กล่าวว่า แนวคิดของคณะหลอมรวมประชาชนที่เสนอ เพื่อต้องการให้ศาล รธน. นำไปใช้ประกอบการพิจารณาเวลานายกรัฐมนตรีตาม ม.158 ของ รธน. 2560 โดยมีความเห็นว่า ม.158 มีกระบวนการ 3 ขั้นตอนในการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี แล้วบังคับใช้ในการกำหนดเวลานายกรัฐมนตรี 8 ปีต้องเป็นไปตามบทเฉพาะกาล ม. 264 เพราะมีความมุ่งหมายต้องการแก้ไขการเมืองให้มีประสิทธิภาพ ขจัดอิทธิพลในการดำรงตำแหน่ง และเกิดความหวังในการปฏิรูปประเทศ

ถ้า รธน.มีความประสงค์เขียนเป็นอย่างอื่นก็สามารถเขียนไว้ใน ม. 264 ได้ เมื่อไม่เขียนก็ไม่มีข้อยกเว้น ดังนั้น การนับระยะเวลา 8 ปี จึงนับตั้งแต่เป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อปี 2557 เรื่อยมาจนครบ 8 ปี จากนั้นพิจารณา ม.168 มาประกอบกัน เพื่อพิจารณาทางออก ไม่เกิดทางตัน หรือสุญญากาศการบริหารประเทศ เพราะ ม. 168 วรรคท้ายกำหนด ให้ปลัดกระทรวงปฏิบัติหน้าที่แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงนั้น ๆ เฉพาะเท่าที่จําเป็นไปพลางก่อน โดยให้ปลัดกระทรวงคัดเลือกกันเองให้คนหนึ่งปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี

“เหตุนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องตัดสินใจทางการเมือง ตาม ม.78 ซึ่งเน้นต้องไม่กระทบผลประโยชน์ของ ประชาชน และตาม ม.3 ให้การบริหารประเทศเกิดประโยชน์สูงสุดของประเทศ ดังนั้น จึงไม่สามารถตัดสินใจตามใจตัวเองได้”

นายนิติธร กล่าวว่า ศาล รธน.ต้องเร่งพิจารณาให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว หากศาลจะให้ประยุทธ์พักการปฏิบัติหน้าที่ไว้ชั่วคราวก็เป็นได้ แต่การเป็นรัฐบาลรักษาการนั้น รธน.ไม่เปิดช่องให้กระทำได้ สำหรบการถกเถียงถึงผลย้อนหลังเป็นคุณหรือไม่นั้น ขอให้ประชาชนร่วมกันมาปกป้องรักษา รธน. ไม่ใช้รักษาพล.อ.ประยุทธ์ เพื่อไปฉีก รธน. ในอนาคตเพื่อปกป้องตัวเองอีก ดังนั้น ประชาชนชนต้องตัดสินใจ และขอฝากไปถึงศาล รธน. ประธานรัฐสภา และพล.อ.ประยุทธ์ กับการตัดสินใจด้วย

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: