ครั้งนี้…คือความร่วมมือ พรรคใหญ่รัฐบาล และพรรคใหญ่ฝ่ายค้าน

“สมชาย” ซัด ส.ส.-ส.ว. ควรทำหน้าที่ของตัวเองให้สมบูรณ์ รักษาเกียรติสภาฯ

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ให้สัมภาษณ์ถึงการทำหน้าที่ของส.ส. และส.ว.ในการประชุมรัฐสภาที่ไม่อยู่ร่วมแสดงตน จนองค์ประชุมล่มและพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ไม่ทันกรอบเวลาว่า ตนไม่เห็นด้วยที่ใช้วิธีการนี้ แม้จะบอกว่ากฎหมายทำได้ แต่เราก็มีทางให้เดินเพื่อไม่ให้เกิดสุญญากาศ หากเดินไปให้สุดแล้วโหวตเอาหาร 500

จากนั้นเพื่อให้กกต.ทำความเห็นมาก็ได้ อีกทั้งยังมีฝ่ายที่เห็นด้วยกับหาร100 หรือหาร 500 สามารถไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญได้ แบบนี้จะสมบูรณ์แบบมากกว่า อีกทั้งศาลรัฐธรรมนูญไม่ต้องพิจารณาข้อเท็จจริง เพียงแต่พิจารณาข้อกฎหมายอย่างเดียวเพื่อทำความเห็น ซึ่งศาลฯสามารถวินิจฉัยได้ภายใน 2 เดือน เปิดการประชุมสภาฯสมัยหน้าก็จบแล้ว และหากมีการแก้ไขสภาฯกก็นำกลับมาแก้ไขภายใน 30 วัน ซึ่งก็ทันเวลาอยู่ดี

เพราะการเลือกตั้งจะมีขึ้นในเดือนมี.ค. ปี 66 เวลาเหลือเฟื้อ ส่วนตัวตนเคยเสนอว่าหากไม่เห็นด้วยกับการหาร 500 ก็ให้ไปโหวตคว่ำในวาระ 3 เพื่อไม่ให้เกิดสุญญากาศ และให้ทุกอย่างเดินไปตามขั้นตอน ทำไมจึงไม่เดินเส้นทางนี้กัน ถ้ากลัวมาก็กลับมาใช้ร่างหาร 100 ของคณะรัฐมนตรี ทำไมต้องหักด้ามพร้าด้วยเข่า ส.ส.และส.ว.ควรทำหน้าที่ของตัวเองให้สมบูรณ์ เพื่อรักษาเกียรติสภาฯ หากใช้เทคนิคทางกฎหมายทำแบบนี้บ่อยๆ แม้จะไม่ผิดกฎหมาย แต่ประชาชนเขาจะไม่ไว้วางใจให้เราทำกฎหมาย ตนคงไม่ตำหนิใคร สังคมจะจดจำเอง

เมื่อถามว่ากรณีที่เกิดขึ้นนี้หากเปรียบเทียบสมัยนายทักษิณ ชินวัตร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับสมัยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นรัฐบาล ใครเผด็จการรัฐสภามากกว่ากัน นายสมชาย กล่าวว่า ไม่ใช่เผด็จการรัฐสภาเลยทีเดียว เพราะครั้งนี้เป็นความร่วมมือของพรรคใหญ่ที่เป็นพรรครัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน ไม่ใช่ฝ่ายรัฐบาลเพียงอย่างเดียว อีกทั้งกรณีของน.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นการลักหลับ ใช้อำนาจคนละแบบ