“ไฮโซลูกนัท-ภรรยา” จี้ ปชป แสดงความรับผิดชอบ เผยคนทำมีอาการทางจิต
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือไฮโซลูกนัท พร้อมด้วย นางหทัยรัตน์ วิทยภูมิ หรือ แอนนา ภรรยา เดินทางเข้าพบตำรวจ เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมหลังวานนี้นางหทัยรัตน์ เข้าแจ้งความดำเนินคดีรองหัวหน้าพรรคการเมืองที่ข่มขืนกระทำชำเรา
นายธนัตถ์ กล่าวว่า ตำรวจแจ้งให้ภรรยาตน มาให้ปากคำเพิ่มเติม โดยยังไม่ทราบว่ามีรายละเอียดอย่างไร แต่เรื่องหลักฐานที่จะนำมาใช้ประกอบนั้น เป็นรายละเอียดที่มอบให้นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้มไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าพฤติกรรมของนักการเมืองคนนี้ถือเป็นอาการทางจิตแน่นอน เพราะเคยมีข่าวของบุคคลนี้เกิดขึ้นที่ประเทศอังกฤษเมื่อ 19 ปีก่อน และตนยังได้หลักฐานแชตการพูดคุยระหว่างเหยื่อกับผู้ก่อเหตุ เมื่อปี 2561 ซึ่งตอนนั้นเหยื่อมีอายุแค่ 17 ปีเท่านั้น แต่ผู้ก่อเหตุบอกว่าจะกลับไปเจอที่กรุงเทพ พร้อมชวนไปเที่ยวกลางคืน เชื่อว่าเหยื่อบางรายไม่พร้อมออกมาเปิดเผยเรื่องราวนี้ ตนก็อยากให้เขาได้ออกมาพูด ยืนยันว่าเราพร้อมจะปกป้องทุกเสียงทุกคนและต่อสู้คดีนี้ให้ถึงที่สุด เพราะทุกคนรับรู้ แต่ไม่เคยมีเหยื่อออกมาต่อสู้เลยตลอด 19 ปี จนมีเหยื่อรายเดียวที่เปิดหน้าออกมา ก็มีคนอื่นๆ ตามออกมาอีก
ส่วนกรณีที่เหตุการณ์เกิดขึ้นนานไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอไฮโซลูกนัด บอกว่าอยากให้ตั้งข้อสังเกตุว่า ชัดแค่ไหนกรณีแบบนี้หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และคริสตัลชัดแค่ไหนถึงจะพอใจหากใช้เหตุผลและลดอคติทางการเมือง จะเห็นว่าทุกคนพูดตรงกันทั้ง ลักษณะที่เกิดเหตุและพฤติกรรมหากสิ่งนี้ไม่เพียงพอก็แสดงว่าเราคาดหวังกับสังคมนี้มากเกินไป พร้อมบอกว่ายังเชื่อมั่นในศักยภาพของตนเอง สื่อมวลชน และความต้องการความยุติธรรมของประเทศและเราพร้อมจะปกป้องและเป็นกระบอกเสียงให้กับผู้เสียหายไม่เคยกลัวอำนาจใด
ขณะเดียวกัน ไฮโซลูกนัทยังฝากถึงพรรคประชาธิปัตย์อดีตต้นสังกัดว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีท่าทีที่แสดงออกถึงความเสียใจมีแต่ปกป้องผู้กระทำผิดการลาออกจากรองหัวหน้าพรรคไม่มีค่า เพราะเป็นตำแหน่งที่ไม่มีแม้แต่เงินเดือน และเรียกร้องให้พรรคออกมาแสดงออกอย่างสมเกียรติ และไม่แปลกใจที่มีไลน์กลุ่มพรรคออกมาให้กำลังใจบุคคลนี้เพราะนักเมืองก็เข้าข้างกันอยู่แล้ว และหากทำขนาดนี้ยังมีตำแหน่งหน้าที่ก็ไม่ใช่เรื่องเล่นๆหากมีใจเป็นมนุษย์ก็ช่วยมารับผิดชอบการกระทำส่วนคนที่รู้ว่าคนนี้มีพฤติกรรมแบบนี้ก็ขอให้พิจารณา
ด้าน นางหทัยรัตน์ กล่าวว่า หลังออกมาแจ้งความ ก็มีเหยื่ออีก 2 คนติดต่อเข้ามาหา โดยบอกว่าถูกนักการเมืองคนนี้ กระทำในลักษณะที่คล้ายกันกับตนเอง ซึ่งหนึ่งในนี้ เคยเกิดเหตุขึ้นที่ต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ไม่กังวลว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบอะไรกับตน คนที่ควรกังวลควรเป็นคนกระทำมากกว่า ซึ่งนับแต่เกิดเรื่อง ก็ไม่มีการติดต่อเข้ามาจากฝ่ายผู้ก่อเหตุเข้ามาเลย เขากระทำโดยไม่รู้สึกผิดชอบชั่วดีมาแล้วหลายครั้ง ผู้เสียหายถูกข่มขืนลวนลาม ยืนยันว่านี่ไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่เป็นเรื่องของสังคม ทุกคนรู้ความจริงแต่ทำอะไรไม่ได้ ตอนตนทราบข่าวแต่แรก ก็รู้สึกไม่แปลกใจ แต่พอเห็นท่าทางที่ผู้ก่อเหตุออกมาปฏิเสธ ตนก็รู้สึกโกรธมาก เพราะสิ่งที่เหยื่อออกมาพูดนั้นเป็นความจริงทั้งหมด มองว่าหากปล่อยคนนี้หลบหนีไปได้ คงไม่อาจฝากความหวังกับกระบวนการยุติธรรมได้แล้ว
เมื่อถามว่าสิ่งที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อการทำงานทางการเมืองในฐานะ ผู้สมัคร ส.ก.หรือไม่ นางหทัยรัตน์ ระบุว่า ตอนนี้ออกไปทำงานไม่ได้เหมือนเดิมเพราะรู้สึกมีผลกระทบต่อจิตใจ การที่ตนออกมาพูดมันทำให้มีภาพจำกลับมา แต่ต้องออกมาพูดเพื่อเป็นกระบอกเสียงของประชาชนหากเรื่องนี้กระทบกับเป็นผู้สมัคร ส.ก.ก็พร้อมจะลาออกเพราะต้องการเรียกร้องเรื่องนี้เป็นหลัก