กกต.ว่าไง?? ผู้สมัคร ส.ส.เพื่อไทย โวย! เจอทุจริตหลายจังหวัด แต่กกต.ไม่นับคะแนนใหม่-เลือกตั้งใหม่!!

เพื่อไทย วอน กกต.เร่งตรวจสอบเหตุส่อทุจริตเลือกตั้ง พังงา ชลบุรี บุรีรัมย์ สร้างความโปร่งใสเลือกตั้ง

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายชุมสาย ศรียาภัย รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมนายกฤษ ศรีฟ้า ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดพังงา พรรคเพื่อไทย นายพนธกร ใคร่ครวญ ผู้สมัคร ส.ส. ชลบุรี พรรคเพื่อไทย นายพรรณธนู วรรณกางซ้าย ผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงข่าว

นายชุมสาย ศรียาภัย รองเลขาธิการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า มีความไม่ชอบมาพากลในการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ในพื้นที่การเลือกตั้ง 3 เขต ประกอบด้วย พังงา เขต 2 , เขต 7 บุรีรัมย์ และเขต 10 ชลบุรี โดยหลังจากการเลือกตั้งแล้ว ได้มีการตรวจสอบและพบเห็นการกระทำผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง โดยมีพฤติการณ์ มีพยานหลักฐาน เอกสาร และข้อเท็จจริงอื่นๆ

ซึ่งได้มีการทำเรื่องร้องคัดค้านการเลือกตั้งไปยัง กกต.จังหวัดและกกต.ส่วนกลางแล้ว แต่ปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ จึงได้พูดคุยหารือกันในมาตรา 140 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรปี 2561 ซึ่งผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง มีสิทธิ์ยื่นคัดค้าน กกต.ในเขตที่สมัครภายใน30 วันนับแต่การประกาศวันเลือกตั้ง

“พรรคเพื่อไทยไม่ได้ทอดทิ้งผู้สมัครในทุกเขต อยากให้ กกต.ระดับจังหวัดหรือส่วนกลาง อย่าได้เกรงกลัวอิทธิพลใดๆ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด”

นายกฤษ ศรีฟ้า ผู้สมัคร ส.ส.พังงา เขต 2 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ได้ยื่นเรื่องต่อ กกต.จังหวัดในประเด็นการกระทำที่ส่อถึงความไม่สุจริตเที่ยงธรรม ไปเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเฉพาะการนับคะแนนที่ไม่ถูกต้องตามระเบียบการนับคะแนนของ กกต. เช่น

1.การไม่จัดให้มีการนับคะแนนให้ประชาชนเห็นได้ชัดเจน จนไม่สามารถร้องคัดค้านได้

2.การนับคะแนนไกลมากจากผู้ใช้สิทธิ์ใช้เสียง โดยมีเชือกมากั้นไว้

3.ห้ามไม่ให้มีการถ่ายรูป ถ่ายคลิปวิดีโอต่างๆ

4.ไม่มีการยกบัตรขึ้นมา เพื่อจะให้พี่น้องประชาชนในหลายหน่วย

5.การวินิจฉัยบัตรดี บัตรเสีย ได้โดยคนคนเดียว คือคนที่ยกขึ้นมา คนอื่นไม่ได้มีส่วนร่วม

6.บัตรเสีย ไม่ได้มีการลงนามเห็นชอบร่วมกันว่าเสียด้วยสาเหตุอะไร

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน จังหวัดพังงาเขต 2 มีการนับคะแนนใหม่ แต่เป็นการนับคะแนนจากบัตรบัญชีรายชื่อ เราร้องเรียนให้มีการนับคะแนนบัตรแบบแบ่งเขต ซึ่งไม่สอดคล้องกับสิ่งที่ร้องขอไป นอกจากนี้ยังมีเรื่องการซื้อสิทธิ์ ขายเสียง ซึ่งได้ยื่นร้องเรียนและหลักฐานต่อ กกต.เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีทั้งพยานบุคคล พยานวัตถุ คลิปเสียง

นายพนธกร ใคร่ครวญ ผู้สมัคร ส.ส. ชลบุรี เขต 10 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีการตรวจพบการทุจริตในหลายๆ ประการ ซึ่งตนแพ้เป็นอันดับ 2 ไป 74 คะแนน ความผิดปกตินี้ เกิดขึ้นตอนที่ลงคะแนนแล้ว มีบางหน่วยเลือกตั้งที่บัตรเลือกตั้งไม่เพียงพอ ทำให้ประชาชนต้องรออยู่เป็นชั่วโมง และยังพบว่า เจ้าหน้าที่ได้เอาบัตรเลือกตั้งออกนอกหน่วย ซึ่งเป็นความผิด ซึ่งตนมีหลักฐานทั้งเอกสาร คลิป

นอกจากนี้ยังมีประเด็นการนับคะแนนที่ล่าช้า ซึ่งพบว่า เขต 10 สัตหีบ นับคะแนนช้าเป็นอันดับต้นๆของประเทศ โดยนับคะแนนเสร็จ 06.00 น. และยังมีเหตุส่อบัตรเขย่ง ที่เกินมา 4,995 คะแนน ซึ่งการประกาศนับคะแนนใหม่ 47 หน่วยที่ผ่านมา ไม่มีเขต 10 ชลบุรี จึงขอเรียกร้องความยุติธรรม

“เลือกตั้งผลแพ้ ชนะ เรารับได้เป็นเรื่องธรรมดา เพียงแต่กระบวนการการตัดสินต้องมาจากกระบวนการที่ถูกต้อง ยุติธรรมและที่สำคัญต้องโปร่งใส ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า กกต.จะรับไปพิจารณาไปอย่างเร็วที่สุด” นายพนธกร กล่าว

นายพรรณธนู วรรณกางซ้าย ผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 7 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในเขต 7 บุรีรัมย์ มีการแก้ไขคะแนนที่ขึ้นกระดานถึง 3 ครั้ง เกิดความล่าช้าจากการส่งหีบบัตร บัตรเลือกตั้งถึงที่หมายประมาณตีสอง ทั้งที่เสร็จแล้วตั้งแต่ 3 ทุ่ม ส่วนหีบบัตรที่นำมาส่งก็ไม่มีสายรัด จำนวนบัตรเลือกตั้ง ส.ส. บางหน่วย ไม่ตรงกับที่ประกาศในเว็บไซต์ ซึ่งหลังจากนี้ตนจะยื่นเรื่องต่อ

กกต.ส่วนกลาง เพื่อขอเอกสารและหลักฐานอื่นๆอีกครั้ง เพราะก่อนหน้านี้ได้มีการยื่นเรื่องไปแล้ว แต่ กกต.ไม่ได้ให้ความร่วมมือและโยนงานกันไปมาระหว่างท้องถิ่นและส่วนกลาง ซึ่งตนขอเรียกร้องความยุติธรรมในการเลือกตั้งครั้งนี้