ธันวา เผย นักการเมืองในสภาที่เป็นคนดี มีน้อย จนแทบเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ ลั่น! อยากแก้ปัญหาการซื้อเสียง ยื่นเรื่องร้องที่ไหนก็ถูกมองเป็นแค่คนบ้าคนอยากดัง
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายธันวา ไกรฤกษ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตสวนหลวง-ประเวศ พรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า สืบเนื่องจากมีข่าวซื้อตัวส.ส. และสะสมเม็ดเงินสำหรับการเลือกตั้งกันแบบไม่อายฟ้าดิน
หลายคนชอบบอกผมว่า “ธันวา คุณควรจะชัดเจน ว่าคุณต้องการเปลี่ยนอะไร สู้กับอะไร พัฒนาเรื่องไหน ไม่งั้นก็สอบตกวันยังค่ำ!!”
ลึกๆผมรู้สึกว่ามันเลือกเรื่องใดเรื่องหนึ่งไม่ได้หรอก ปัญหารอการแก้ไขมีตั้งเยอะแยะ แต่ก็เข้าใจดีว่าหากต้องการให้เกิดภาพจำในสายตาประชาชน คงต้องเลือกซักเรื่อง หรือไม่ก็ 2-3 เรื่องเน้นๆ
และหากจะให้พูดถึงเรื่องสอบตกหรือสอบได้ จากประสบการณ์การลงเลือกตั้งมา 3 รอบใน 15 ปี ขอยืนยันว่าไม่เกี่ยวเลยครับ คนที่เคยชนะผมบางคนแทบไม่เคยทำอะไรเลยด้วยซ้ำ
สำหรับสนามกทม. ปัจจัยหลักคือเรื่องกระแส รองลงมาคือการจัดตั้ง และรองลงมาสุดท้ายคือการลงพื้นที่ ส่วนสนามต่างจังหวัด กระแสกับการจัดตั้งมีบทบาทมากพอๆกัน หลายพื้นที่การจัดตั้งสำคัญสุดด้วยซ้ำ
สิ่งที่ผมมักทำมันไม่ตรงโจทย์ของการชนะเลือกตั้ง เพราะผมมุ่งแก้ปัญหาที่เป็นภาพรวม และปัญหาเชิงโครงสร้าง ไม่ใช่เรื่องเฉพาะพื้นที่ใด ซึ่งผู้ที่ได้ประโยชน์ก็คือทุกคนที่เกี่ยวข้องในเรื่องนั้นๆ เช่น
ปัญหาการค้ามนุษย์
ปัญหาการโกงการซื้อขายออนไลน์
ปัญหาในการประกอบอาชีพของคนฐานรากในเมือง
ปัญหาฝุ่น PM 2.5
ปัญหาหวยนอกระบบและบ่อนการพนัน
ปัญหาการคอร์รัปชั่นและซื้อสิทธิ์ขายเสียง
เชื่อไหมครับว่าปัญหาทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ผมเคยทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีมาแล้วหลายท่าน ถึงอธิบดีมาแล้วหลายกรม ยืนประท้วงเรียกร้องหน้าทำเนียบ หน้ากระทรวง กลางถนน ก็โคตรบ่อย
บางเรื่องทำคนเดียว บางเรื่องไปร่วมสนับสนุนกลุ่มภาคประชาชนที่เขาทำอยู่แล้ว ก็มีสำเร็จบ้าง แต่ไม่สำเร็จเป็นส่วนใหญ่ เพราะเรามันเป็นนักการเมืองข้างถนน ไม่ได้มีตำแหน่งอะไรเลย
หากต้องเลือกโฟกัสซักเรื่องจริงๆ ใจผมอยากแก้ปัญหา ‘การซื้อเสียง’ ที่สุด เมื่อวานไปค้นเอกสารเก่าๆ เจอหนังสือสมัย 10 ปีที่แล้ว ซึ่งผมได้ร่างและเดินสายร้องทำเนียบ ร้องกกต. ร้องสื่อมวลชน
จำได้ดีว่าในวันนั้นไม่มีใครตอบรับการเคลื่อนไหวของผม เพราะผมเป็นคนไม่มีชื่อเสียง เป็นใครก็ไม่รู้ เที่ยวร้องแร่แห่กระเฌอ เขาก็มองเหมือนคนบ้าคนอยากดังเท่านั้นเอง
ปัญหาในประเทศไทยมีเป็นร้อยเป็นพันเรื่อง และในทุกเรื่องต้นตอของปัญหาเกิดจาก ‘ผู้ที่มีอำนาจและบังคับใช้กฎหมาย’
..ยังมีเด็กขอทานเป็นจำนวนมากถูกขโมยจากบ้าน เพราะขบวนการมาเฟียจ่ายส่วยทุกเดือน
..ยังมีคนสั่งมือถือแล้วได้ก้อนหิน เพราะขาดการบูรณาการกันของหน่วยงานรัฐ
..ผู้ค้าขายที่ยอมทำตามกฎถูกมองว่าเป็นภาระสังคม เพราะผู้บริหารขาดวิสัยทัศน์
..การเผาและรถควันดำเต็มบ้านเต็มเมือง เพราะไม่มีเงินทอนจากการแก้ปัญหา
..หวยและบ่อนยังอยู่ใต้ดิน เพราะคนใหญ่คนโตและคนมีสีได้ส่วนแบ่งมหาศาล
พอจะเห็นไหมครับ ว่าปัญหาทั้งหมดเกี่ยวข้องกับ ‘คน’ ที่เป็นผู้ถือกฎหมายทั้งนั้น ซึ่งทั้งหมดอยู่ภายใต้ทิศทางและการควบคุมของ ‘นักการเมือง’ ไม่ว่าจะฝ่ายบริหารหรือในสภา
และหากนักการเมืองยังเป็นคนไม่ดี ยังมีเอี่ยวในสิ่งผิด อีกร้อยปีสิ่งเหล่านี้ก็ไม่ได้รับการแก้ไข ดังนั้น การจะแก้ปัญหาร้อยพันเรื่องได้ ต้องแก้ที่บรรดาผู้ปกครองประเทศให้ได้ซะก่อน
เราจะเปลี่ยนคนชั่วให้เป็นคนดีนั้นคงเป็นไปไม่ได้ แต่เราจะเปลี่ยนเอาคนดีเข้าไปแทนที่คนชั่วนั้น เป็นไปได้มากกว่า ซึ่งหากยังไม่เปิดโอกาสให้คนดีเข้าไป คนชั่วก็จะยังครอบครองอยู่เสมอ
ทุกวันนี้คนดีคนเก่ง(ไม่ใช่ผม)มีเต็มประเทศ แต่เข้าสภาไม่ได้ เพราะคนชั่วซื้อเสียงและใช้อิทธิพลในทุกครั้งของการเลือกตั้ง ซ้ำร้ายยังไม่เคยมีรัฐบาลไหนคิดจะแก้ไข เพราะซื้อเสียงกันเกือบทุกพรรค
เขียนมาซะยาว ขอสรุปว่าผมโคตรอยากแก้ปัญหาเรื่องการซื้อเสียงเลย แต่ก็เป็นแค่ความคิดของคนกระจอกๆคนนึง ที่อยากแชร์ให้เพื่อนๆได้ฟัง เผื่อใครมีกำลังมากกว่าผม จะได้ช่วยกันแก้ไขครับ.
ปล.ผมไม่ได้บอกว่าตัวเองเป็นคนดี เรื่องนิสัยเสีย บกพร่อง ทำผิด ก็มีอยู่เยอะ แต่ไม่ได้เดือดร้อนใครซักเท่าไหร่ ส่วนนักการเมืองในสภาที่เป็นคนดี มีครับ แต่มีน้อยมากๆ จนแทบเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้
ทั้งนี้นายธันวายังได้ติดแฮชแท็คสั้นๆ ด้วยว่า “ชาติฉิบหายแน่ถ้าไม่แก้ปัญหาการซื้อเสียง”