กนก-ธีระ ถูกหมายเรียก หลังพยายามเปิดโปง งบประมาณแผ่นดินจัดซื้อ ค้นหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ด้วย Antigen Test Kit (ATK) จำนวน 8.5 ล้านชุด
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า จากกรณีที่สถานีโทรทัศน์ท็อปนิวส์ตามติดตามเสนอข่าวกรณีที่ประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ครั้งที่ 8/2564 (วาระพิเศษ) เมื่อ19 ก.ค. 64 ซึ่งมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุขเป็นประธาน มีมติเห็นชอบเพิ่มชุดตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อค้นหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ด้วย Antigen Test Kit (ATK) จำนวน 8.5 ล้านชุด ในวงเงิน 1,014 ล้านบาท เพื่อจัดหาชุดตรวจให้หน่วยบริการนำไปแจกจ่ายกับประชาชนทุกคนต่อไป โดยให้เครือข่าย รพ.ราชวิถี จัดหาชุดตรวจผ่านองค์การเภสัชกรรม (อภ.)
ระหว่างการนำเสนอข่าวการจัดหาชุดตรวจ ATK ได้พบความไม่ชอบมาพากลหลายอย่างในการจัดหาชุดตรวจ ATK โดยเฉพาะความพยายามในการเร่งรัดให้อภ.จัดหาชุดตรวจ ATK โดยมีการเสนอผ่านคณะกรรมการต่อรองราคา ของสปสช.ให้อภ.พิจารณา 2 ยี่ห้อที่มีการอ้างว่าได้ไปต่อรองราคามาแล้ว โดยระบุว่าเป็นชุดตรวจที่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก ( WHO ) และขอให้อภ.ทำการจัดหาชุดตรวจ ATK แบบเฉพาะเจาะจงด้วยวิธีพิเศษเพื่อลัดขั้นตอนโดยไม่ต้องให้อภ.ทำการประมูลตามวิธีปกติของทางราชการ นอกจากนี้ยังมีการให้ข้อมูลด้อยค่าชุดตรวจ ATK ของ บริษัท เลอฝู่ ( Lepu) ประเทศจีน ว่าไม่มีมาตราฐานในการตรวจเชื้อโควิด -19 ทั้งๆที่ได้ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย. ) นอกจากนี้ยังได้ผ่านการประกวดราคาและชนะประมูลอย่างถูกต้องตามระเบียบขององค์การเภสัชกรรม (อภ.)
ในการตรวจสอบข้อมูลเรื่องนี้ ทางสถานีโทรทัศน์ท็อปนิวส์ได้รับข้อมูลเชิงลึกคลิปเสียงการสนทนาระหว่างแพทย์ชนบทอาวุโสรายหนึ่งกับนายแพทย์วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (ผอ.อภ.) โดยข้อมูลการสนทนานั้นทางแพทย์ชนบทอาวุโสรายนี้ ได้พูดแสดงความไม่สบายใจว่าชุดตรวจ ATK ยังไม่ออกมาสักที และไม่อยากให้มีการลดสเปคต่ำเกินไปเดี๋ยวจะมีปัญหา พร้อมระบุว่าถ้ามีการนำชุดตรวจ ATK จากจีนเข้ามาจะออกมาโวยวายแน่ ท้ายการสนทนายังได้ระบุว่าชุดตรวจ ATK คงมีแค่ยี่ห้อ Abbott และ แบรนด์อาร์คิวเท่านั้นที่มีความเหมาะสมในการนำมาใช้
จากนั้นวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผอ.รพ.สิชล ได้ให้สัมภาษ์ท็อปนิวส์ ยอมรับว่าเสียงการสนทนาที่มีการเผยแพร่ออกไปเป็นเสียงของตนเองจริงที่พูดคุยกับผอ.อภ.พร้อมปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นการข่มขู่หรือล็อคสเปคแต่อย่างใด ต่อมาวันนี้ (15 ส.ค.) นพ.อารักษ์ ได้ออกแถลงการณ์โจมตีการนำเสนอข่าวของท็อปนิวส์ ในลักษณะเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนสร้างความเสียหายต่อตนเองและชมรมแพทย์ชนบท รวมถึงกล่าวหาว่าท็อปนิวส์อย่างร้ายแรงว่าเป็นสื่อมวลชนที่ขาดจรรยาบรรณ และจะแจ้งความดำเนินคดีในขณะนั้น
และล่าสุดปรากฏว่า นายกนก รัตน์วงศ์สกุล และ นายธีระ ธัญไพบูลย์ ผู้ประกาศข่าว และ สถานีโทรทัศน์ท็อปนิวส์ ได้รับหมายเรียกให้ไปพบ พ.ต.ท.เกียรติก้อง หนูจันทร์ สารวัตร(สอบสวน)สภ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา จากที่ นายแพทย์อารักษ์ วงศ์วรชาติ ได้แจ้งความเอาผิด นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ กับพวก ในข้อหา ดักฟัง ใช้ประโยชน์ เปิดเผย โดยให้ไปพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 8 มีนาคม 2565 แต่ ผู้ประกาศข่าวทั้ง 2 เพิ่งจะได้รับหมายเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2565
สถานีโทรทัศท็อปนิวส์จึงขอนำเรียนข้อเท็จจริงว่า ตลอดระยะเวลาของการทำหน้าที่สื่อสารมวลชน สถานีโทรทัศท็อปนิวส์ได้นำเสนอข่าวทุกเรื่องทุกประเด็นที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ด้วยข้อเท็จจริงบนพื้นฐานจริยธรรมและจรรยาบรรณของสื่ออย่างถูกต้องรอบด้าน ปราศจากอคติ และคำนึงถึงการรักษาผลประโยชน์ของประชาชนและผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นเรื่องสำคัญสูงสุด
และที่สำคัญการรายงานข่าวนี้ ทำให้รัฐบาลสามารถประหยัดงบประมาณแผ่นดินที่มาจากเงินภาษีประชาชนได้กว่า 400 ล้านบาท ซึ่งแต่เดิมที่ คณะกรรมการกำหนดราคา เลือกATK (จากเกาหลี) ที่ราคา 119 บาท รวมภาษี ถ้าจัดซื้อ 8.5 ล้านชิ้น ก็จะเป็นเงิน 1,014,000,000 บาท ขณะที่บริษัท ออสท์แลนด์ แคอปปิตอล จำกัด ที่ชนะการประมูล เลือก ATK (จีน) ที่ราคา 70 บาท รวมภาษี เป็นเงิน 595,000,000 บาท ดังนั้นแล้วก็ทำให้รัฐประหยัดเงินไปกว่า 419,000,000 บาท
ซึ่งการนำเสนอข่าวนี้ อยู่บนพื้นฐานของการทำหน้าที่สื่อสารมวลชนไม่ได้มีอคติหรือโกรธเคืองกับ นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ แต่อย่างใด และที่สำคัญ การนำเสนอข่าวนี้ จนส่งผลให้กระบวนการจัดซื้อ ชุดตรวจ ATK สามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จ ถูกต้องครบถ้วนตามกฎหมาย แต่สิ่งที่สื่อมวลชนได้รับคือการถูกดำเนินคดี แล้วแบบนี้ต่อไปสื่อมวลชนคงจะไม่มีใครกล้าที่จะนำเสนอข่าวเพื่อการตรวจสอบในสิ่งที่ไม่ถูกต้องอีกต่อไป