กระทรวงสาธารณสุข เผย ผลสำรวจ พบว่า ผู้ใช้บริการห้างสรรพสินค้า และร้านตัดผม มีพฤติกรรมยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข เผยจากผลการสำรวจการเฝ้าระวังพฤติกรรมสุขภาพของกองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ได้เฝ้าระวังการรับรู้มาตรการภาครัฐ มาตรการสำหรับองค์กร COVID Free Setting กรณีร้านเสริมสวย แต่งผม หรือตัดผม ดำเนินการระหว่างวันที่ 10 – 28 มกราคม 2565 ผ่านระบบออนไลน์ (Google Form) ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์ในการเผยแพร่เครื่องมือจากเครือข่ายเฝ้าระวังพฤติกรรมสุขภาพผ่านทางเพจเฟซบุ๊ค กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ผลการเฝ้าระวังพฤติกรรมสุขภาพ มีผู้ตอบสำรวจ จำนวน 987 คน อายุเฉลี่ยระหว่าง 46 – 47 ปี ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ผลสำรวจ พบว่า ผู้ใช้บริการทั้งในห้างสรรพสินค้า และร้านตัดผม มีพฤติกรรมที่สะท้อนการรับรู้ตามมาตรการป้องกันตนเอง ดังนี้คือ
มีผู้รับบริการไม่ได้สวมหน้ากากอนามัยทับด้วยหน้ากากผ้า ร้อยละ 12
มีผู้รับบริการไม่ได้รอคิวอยู่ด้านนอกร้านเมื่อไปรับบริการที่ร้านตัดผม ร้อยละ 10.9
มีผู้รับบริการไม่ได้ล้างมือบ่อยๆ เมื่อไปใช้บริการ ร้อยละ 2.4
ทั้งนี้ พฤติกรรมดังกล่าวอาจทำให้เกิดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด 19 เพิ่มขึ้นได้ ดังนั้น จึงขอย้ำเตือนผู้รับบริการที่ไปใช้บริการในห้างสรรพสินค้า และในร้านตัดผม รวมถึงผู้ประกอบกิจการห้างสรรพสินค้า ร้านเสริมสวย และร้านตัดผม ใส่ใจมาตรการสำหรับองค์กร (COVID Free Setting) เป็นพิเศษ โดยเฉพาะมาตรการป้องกันตนเองสูงสุด (UP-DMHTT) การเว้นระยะห่าง หมั่นล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะการสวมหน้ากากอนามัยที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันการรับเชื้อโควิด และลดการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น เพื่อลดพฤติกรรมเสี่ยงติดโควิด 19
สำหรับการสวมหน้าหน้ากากอนามัยที่ปัจจุบันกลายเป็นเครื่องป้องกันโรคโควิด 19 ที่สำคัญชิ้นหนึ่ง จึงอยากเชิญชวนให้ทุกคนคำนึงถึงการใช้หน้ากากอนามัยที่ถูกสุขอนามัย โดยต้องเปลี่ยนหน้ากากอนามัยทุกวัน ไม่ควรใช้ซ้ำ ไม่ใช้หน้ากากอนามัยที่มีกลิ่นผิดปกติ เปรอะเปื้อน หรือมีตำหนิ และต้องคลุมจมูกและปาก รับกับใบหน้าไม่แน่นหรือหย่อนเกินไป แถบปรับกระชับดั้งจมูกต้องยึดแน่น ไม่หลุดออกง่ายขณะใช้ ทั้งนี้ก่อนสวมหน้ากากควรล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ และห้ามใช้หน้ากากร่วมกับผู้อื่นเด็ดขาด