“ก้าวไกล” เปิดแคมเปญ“ ภายใต้สโลแกน “ต้องก้าวไกล ให้ไทยก้าวหน้า”
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล เปิดแคมเปญ “เลือกตั้งใหญ่ พรรคก้าวไกล” ภายใต้สโลแกน “ต้องก้าวไกล ให้ไทยก้าวหน้า” เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งปี 2566 พร้อมกับการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม.ของพรรค อีกทั้งยังมีการเปลี่ยนสีประจำพรรคใหม่เป็นสีส้มจี๊ด เพื่อความสดใส และหมายถึงวันใหม่ๆที่เรากำลังจะเจอกันในอนาคต และเปิดตัวน้องไข่ต้ม แมวส้มมาสคอตก้าวไกล
ทั้งนี้นายพิธา กล่าววิสัยทัศน์ตอนหนึ่งว่า สำหรับการเลือกตั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นปีหน้า เมื่ออดีตพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบไป พวกเราแยกออกเป็นสองทาง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และนายปิยบุตร แสงกนกกุล ไปทำงานเกี่ยวกับท้องถิ่นจนมีระบบน้ำประปาที่ทันสมัยที่สุดในประเทศไทยในอ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด ถือเป็นการสร้างระบบและขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศ ที่นำเอาปัญหามาเป็นตัวตั้งและสร้างขีดความสามารถใหม่ๆให้กับประเทศ
แน่นอนว่าตอนนี้เราจะเข้าสู่ศึกการเลือกตั้งโดยไม่มีพวกเขา ไม่มีนายธนาธรและนายปิยบุตร แต่เราได้พิสูจน์แล้วว่าพรรคก้าวไกลของเราสามารถสร้างอนาคตใหม่ได้ และตอนนี้เหมือนอย่างที่สื่อบอกคบเพลิงนั้นอยู่ในมือพิธา และพิธาพูดกับทุกคนว่าเรามาไกลเกินกว่าที่จะแพ้ และตนไม่ได้มาเล่นๆ เพื่อที่จะแพ้ด้วย ตนพร้อมที่จะเป็นนายกฯของทุกคน ไม่ว่าจะรวยดีมีจน ไม่ว่าจะอายุมากหรืออายุน้อย จะเลือกตนหรือไม่เลือกตน ตนพร้อมที่จะเป็นนายกฯที่ทันสมัย ที่ทำให้คนไทยเท่าเทียมกันให้กับประเทศไทยก้าวหน้าไปอนาคต แล้วเจอกันที่ทำเนียบรัฐบาล
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือไอติม ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบายพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ก้าวใหม่ของพรรคก้าวไกลคือ 1.เพิ่มการมีส่วนร่วมในการคิดค้นนโยบาย โดยเปิดตัวแฟลตฟอร์มตลาดนโยบาย 2.เพิ่มการมีส่วนร่วมในการสนับสนุนพรรคเพิ่มช่องทางระดมทุนใหม่ เปิดการอุดหนุนสินค้าพรรค บริจาคออนไลน์ และตัดบัตรเครดิตรายเดือน และ 3.เพิ่มการมีส่วนร่วมในการตรวจสอบผู้แทน มีสมุดปกส้มวิถีก้าวไกลเหมือนสัญญาประชาคมเปิดให้ประชาชนร่วมตรวจสอบว่าผู้แทนทำตามที่เสนอตัวมาเป็นผู้สมัครหรือไม่
ด้านนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค กล่าวว่า 8 ปีภายใต้ระบอบประยุทธ์ ประเทศของเราถอยหลังจนไปสู่ปากเหวทุกด้าน การเมืองตกต่ำประชาชนตกยาก เศรษฐกิจตกขบวน หลังการรัฐประหารพวกเขาเคยบอกว่าจะขอเวลาอีกไม่นาน จะเข้ามายุติความขัดแย้งในสังคม จะเข้ามาปราบนักการเมืองโกง จะขอปฏิรูปประเทศก่อนเลือกตั้ง แต่ในความเป็นจริงพวกเขากลับเข้ามาสร้างระบอบการเมืองเพื่อสืบทอดอำนาจ สถาปนาตัวเองให้อยู่เหนืออำนาจประชาชน เอื้อประโยชน์ให้ทุนผูกขาดกินรวบประเทศ ปล่อยให้ประชาชนต้องรอคอยเศษเงินจากพวกเขา ความขัดแย้งในสังคมร้าวลึกรุนแรง
กลไกองค์กรอิสระกลายเป็นเครื่องมือทางการเมือง ปกปิดความฉ้อฉลของพวกพ้องตนเอง หรือไม่ก็กลายเป็นเครื่องมือในการทำลายล้างศัตรูทางการเมือง การเมืองในระบบรัฐสภาถอยหลังเข้าคลอง นักการเมืองทรยศเสียงประชาชนเพราะอำนาจรัฐ และอำนาจเงินอย่างโจ่งแจ้ง ระบบราชการเต็มไปด้วยเส้นสาย ใครอยากได้ดีต้องมีตั๋ว ตั้งแต่ตั๋วเด็กจนไปถึงตั๋วช้าง ระบบราชการคอยรับใช้เจ้านาย ไม่ใช่รับใช้ประชาชน
นายชัยธวัช กล่าวอีกว่า 8 ปีมานี้กฎหมายไม่เป็นกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมเสื่อมลงทุกวัน ใช้คุก ศาล ทหาร ตำรวจทำลายสิทธิเสรีภาพของประชาชน คนหนุ่มสาวและประชาชนนับร้อยนับพันถูกจับกุมคุมขังด้วยข้อหาร้ายแรงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนภายใต้ระบอบประยุทธ์ โรงเรียนลูกหลานกลายเป็นโรงงานล้างสมอง เพื่อทำให้ประชาชนโง่และเชื่อง เรียนจบไม่มีงานทำ ล้าหลังโลกยุคใหม่ มีนายทุนผูกขาดรวยเป็นแสนล้าน เพราะการสนับสนุนของรัฐ แต่รัฐกลับปล่อยให้ผู้ประกอบการรายเล็กต้องล้มหายตายจากไป ประชาชนส่วนใหญ่ต้องจมปลักกับกองหนี้ ค่าแรงรายได้สูงขึ้นไม่ทันรายจ่าย โลกคนรวยกับคนจนถอยห่างออกจากกันมากขึ้นทุกวัน เครื่องขจัดปัญหาทางเศรษฐกิจมีแต่จะอ่อนกำลังลง ไม่ทันโลกยุคใหม่
นายชัยธวัช กล่าวอีกว่า 8 ปีมานี้หลายคนสิ้นหวัง มองไม่เห็นอนาคตตัวเองและประเทศ แต่เราอย่าเพิ่งสิ้นหวัง เพราะเราปล่อยให้ประเทศที่เรารักถอยหลังไปมากกว่านี้ไม่ได้ และความเปลี่ยนแปลงใหญ่เกิดขึ้นได้ถ้าพวกเราช่วยกันเพิ่มความเปลี่ยนแปลงให้มากขึ้นคนละไม้คนละมือ พวกเราอย่าเพิ่งสิ้นหวัง เพราะการเปลี่ยนแปลงความก้าวหน้าได้เริ่มขึ้นแล้ว ประชาชนและคนหนุ่มสาวตื่นตัวขึ้นครั้งใหญ่ เสียงเรียกร้องถึงอนาคตของประเทศที่ก้าวหน้าดังขึ้นทุกหย่อมหญ้า การเมืองแบบใหม่ นักการเมืองแบบใหม่ ความคิดทางการเมืองแบบใหม่กำลังเติบโตขึ้นในสังคมไทย
สิ่งใหม่กำลังเข้ามาแทนที่สิ่งเก่า เรายกระดับสภาขึ้นมาได้ ขยับเพดานเป็นพื้นที่สะท้อนอำนาจสูงสุดของประชาชนได้ ให้ข้าราชการรับใช้ประชาชน และประชาชนจะสถาปนารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ต้องไม่มีใครอยู่เหนือรัฐธรรมนูญและกฎหมายอีกต่อไป กองทัพต้องอยู่ภายใต้พลเรือน เราต้องปลดล็อคท้องถิ่นให้ได้ ยุติระบบราชการวมศูนย์เพื่อคืนอำนาจสูงสุดในการกำหนดอนาคตตัวเองให้ประชาชนมทั่วประเทศ การเลือกตั้งครั้งหน้าจะต้องเป็นการเลือกตั้งเพื่อเปลี่ยนเศรษฐกิจและปากท้องของประชาชนให้ก้าวหน้าและทันโลกยุคใหม่ การเลือกตั้งครั้งหน้าต้องเปลี่ยนการศึกษาให้เป็นระบบที่เรามีความฝัน จิตนาการและเติบโตไปพร้อมกับโลกสมัยใหม่ มีสวัสดิการถ้วนหน้า
“การเลือกตั้งจะกลายเป็นการเปลี่ยนประเทศได้ ก็ด้วยพลังของพวกเราทุกคน เปลี่ยนได้ด้วยการเมืองที่เห็นหัวประชาชน เปลี่ยนได้ ด้วยการเมืองที่กล้าหาญ มีเจตจำนงแน่วแน่ เปลี่ยนได้ ด้วยการเมืองที่ไม่วนกลับไปสู่วังวนแบบเดิม ประเทศไทยของเรา ถอยหลังไม่ได้อีกแล้ว มีแต่ต้องก้าวไกล ให้ไทยก้าวหน้าหนึ่งเสียงของทุกคน จะเป็นหนึ่งเสียง ที่เพิ่มความเปลี่ยนแปลงไปสู่อนาคต อย่ารอการเปลี่ยนแปลง แต่จงเป็นส่วนหนึ่งของมัน” นายชัยธวัช กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม.ของพรรคที่มีการเปิดตัวในวันนี้นั้น ไม่มีชื่อส.ส.กทม.พรรคก้าวไกลที่ทำหน้าที่อยู่ในขณะนี้มาร่วมเปิดตัวลงรับสมัครเลือกตั้งส.ส.กทม.ของพรรคก้าวไกลในสมัยหน้าด้วย อาทิ น.ส.วรรณวรี ตะล่อมสิน ส.ส.กทม.เขต 3 (ยานนาวา-บางคอแหลม) ที่ก่อนหน้านั้นเจ้าตัวประกาศจะวางมือทางการเมือง เพื่อไปทำหน้าที่แม่ รวมถึงไม่มีชื่อนายสมเกียรติ ถนอมสินธุ์ ส.ส.กทม. เขต 21 (บางนาและเขตพระโขนง) นายทศพร ทองศิริ ส.ส.กทม. เขต 24 (ราษฎร์บูรณะ ทุ่งครุ) นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ ส.ส.กทม. เขต 27 (ตลิ่งชัน,ทวีวัฒนา และหนองค้างพลู) ที่คาดว่าจะมีการย้ายไปร่วมงานการเมืองกับพรรคการเมืองอื่น