Connect with us

Politics

พิธา พร้อมโหวตนายกฯ 13 ก.ค.นี้ ลั่น! ถ้าประชาชนไม่ถอย ตนก็ไม่ถอย !!

Published

on

พิธา เชื่อ 13 ก.ค.นี้ ส.ส. และ ส.ว. ยังมีโอกาสที่จะคืนความปกติให้กับการเมืองไทย โดยยึดมติของเสียงข้างมาก

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดท นายกรัฐมนตรี กล่าวที่ จ.นครราชสีมา ว่า การออกเดินสายต่างจังหวัด ไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะปลุกระดมมวลชนออกมากดดัน ส.ว.ให้โหวตเลือกตนเป็นนายรัฐมนตรีตามที่หลายคนตั้งข้อสังเกตอยู่ในขณะนี้ แต่เป็นการเดินทางมาขอบคุณพี่น้องชาวจังหวัดนครราชสีมา ที่ได้เลือก ส.ส.เขต พรรคก้าวไกล เข้ามาถึง 3 คน และเลือก ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ จนทำให้พรรคก้าวไกลได้จำนวน ส.ส.มาเป็นลำดับที่ 1 แต่ยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ยังไม่ได้ไปแสดงความขอบคุณ

วันนี้ก็มาตามคำเรียกร้องของชาวโคราช ได้มาพบปะหารือกับภาคเอกชน ได้รับทราบปัญหาไม่ว่าจะเรื่องเศรษฐกิจ ภาคการเกษตร ภัยแล้ง ปรากฎการณ์เอลนีโญ และเรื่องอื่นๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวลใจสำหรับพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งจะได้ช่วยกันขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาตามลำดับต่อไป

ส่วนเรื่องการปลุกระดมมวลชน ทางพรรคก้าวไกลก็คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะมักจะโดนวิพากษ์วิจารณ์แทบทุกเรื่อง แต่เราก็ยังตั้งใจทำงานของเราอย่างเต็มที่ ซึ่งในวันที่ 13 กรกฎาคมที่จะถึง จะมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว

ตนก็มีความมั่นใจขึ้นเรื่อยๆ เพราะจากการเข้าไปพูดคุยกัน ก็ได้เห็น ส.ว.หลายท่านได้ให้สัมภาษณ์สื่อฯ และส่งจดหมายเปิดผนึก ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เป็นโอกาสในการคืนความปกติให้กับการเมืองไทยและเป็นการให้โอกาสประเทศไทยด้วย ในครั้งนี้จึงเชื่อว่าทั้ง ส.ส. และ ส.ว. ยังมีโอกาสที่จะคืนความปกติให้กับการเมืองไทย โดยยึดมติของเสียงข้างมาก ซึ่งจะเป็นวาระสำคัญของประเทศว่า เราจะไปในทิศทางไหน

ดังนั้น ก็จะโฟกัสให้เต็มที่ก่อนวันที่ 13 ก.ค.นี้ก่อน ซึ่งจะโหวตกี่ครั้ง ก็ต้องให้เป็นไปตามกระบวนการที่ควรจะเป็นตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ และยึดมติของประชาชนเป็นหลัก ถ้าประชาชนไม่ถอย ตนก็ไม่ถอย ส่วนกรณีที่มีเสียงจากพรรครวมไทยสร้างชาติที่บอกว่า ถ้าโหวตไม่ผ่านในครั้งแรก ก็ควรจะให้โอกาสพรรคลำดับ 2 แทน ไม่ควรจะโหวตซ้ำอีกรอบ ซึ่งเรื่องนี้

ตนมองว่าเป็นความคิดเห็นของพรรครวมไทยสร้างชาติเอง ไม่ได้เป็นหลักการหรือข้อกฎหมายอะไร ตอนนี้ยังไม่มีแผน 2 ยังยึดตามแผนที่พรรคร่วมทั้งหมดได้พูดคุยกันไว้ก่อน” นายพิธาฯ กล่าว

ส่วนเรื่องมาตรา 112 ตนคิดว่า เป็นเงื่อนไขที่อ่อนลงเรื่อยๆ เมื่อได้รับฟังคำชี้แจงและคำอธิบายถึงเหตุและผล ส.ว.หลายๆท่านก็เริ่มจะเข้าใจว่าเองนี้ไม่ใช่เรื่องที่อิงพรรคการเมือง หรือนโยบายของพรรคการเมือง

แต่เป็นเรื่องของหลักการที่จะทำให้ระบบกลับมาเป็นปกติได้ เป็นเรื่องที่จะต้องใช้พื้นที่ของสภาฯ ซึ่งมีความหลากหลายทางความคิด ต้องเปิดโอกาสให้สภาฯ ได้ทำงาน ซึ่งตนได้อธิบายให้ ส.ว.ได้รับทราบ

หลายท่านก็เบาใจและมีความเข้าใจมากขึ้นว่า การอนุรักษ์ การรักษา และทำให้เกิดการพัฒนา จำเป็นต้องมีการพูดคุยด้วยวุฒิภาวะ จึงทำให้เงื่อนไขต่างๆน้อยลง ซึ่งเรื่องนี้ ตนสัญญาไว้กับประชาชนอย่างไร ก็ต้องทำตามนั้น ซึ่งการโหวตเลือกนายกฯ ครั้งนี้ นี้ ตนก็มั่นใจ และพยายามเต็มที่ที่สุด แต่หากโหวตครั้งแรกไม่ผ่าน ก็ต้องยึดความคิดเห็นของพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลทั้ง 8 พรรค ซึ่งเท่าที่ฟังมา ตอนนี้ยังไม่มีแผน 2

#เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: