ราเมศ ย้อน จาตุรนต์ อย่าดูถูก ชาวพังงา ย้ำ รัฐบาลทรราชเหตุปฏิวัติ ปัด ไม่มีนโยบายโคตรโกง โกงทั้งโคตร
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า 7 ก.พ.2566 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการปราศรัยของ นายจาตุรนต์ ฉายแสง สมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่จังหวัดพังงา เมื่อวันที่ 5 กพ. ที่ผ่านมาว่า นายจาตุรนต์ไม่ใช่คนปักษ์ใต้จึงไม่ทราบความจริงว่า ในช่วงพรรคการเมืองที่นายจาตุรนต์สังกัดเป็นรัฐบาล ประชาชนในภาคใต้ต้องประสบกับปัญหาความทุกข์ร้อนสารพัด ตั้งแต่การเลือกปฏิบัติทำร้ายจิตใจพี่น้องชาวภาคใต้เป็นจำนวนมาก การประกาศเลือกพัฒนาเฉพาะจังหวัดที่พรรคตัวเองชนะการเลือกตั้งเท่านั้น การจัดสรรงบประมาณที่ไม่เป็นธรรม และที่สำคัญคือปัญหาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในช่วงที่เกิดเรื่องเหล่านี้นายจาตุรนต์ไปอยู่ที่ไหน
การที่นายจาตุรนต์กล่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์แพ้มาตลอดนั้น ต้องบอกว่าในการเลือกตั้งของระบอบประชาธิปไตยถือว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา มีแพ้ มีชนะ เป็นฝ่ายค้าน เป็นฝ่ายรัฐบาลบ้างสลับกันไป ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์สามารถทำหน้าที่ได้หมด เพราะพรรคของเราทำหน้าที่อย่างเต็มที่ และที่สำคัญคือยึดประโยชน์ของชาติบ้านเมืองเป็นหลัก ขณะที่บางพรรคเมื่อเป็นรัฐบาลก็ทุจริต โกงกินบ้านเมือง จนมีรัฐมนตรีติดคุกไปหลายคน และคนที่เป็นผู้นำรัฐบาลขณะนั้นก็ต้องหนีหัวซุกหัวซุน จากสาเหตุที่ยึดเอาแต่ประโยชน์ของตนเองและพวงพ้อง
นายราเมศกล่าวต่อไปว่า การที่นายจาตุรนต์กล่าวหาว่า พรรคประชาธิปัตย์คิดนโยบายและพัฒนาประเทศไม่ได้ ถือเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงทั้งสิ้น เพราะหลักการสำคัญของการคิดนโยบายนั้น พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยคิดหรือออกแบบนโยบายมาเพื่อโกง พรรคของเราไม่เลือกปฏิบัติในการพัฒนาประเทศ พรรคของเราไม่สนับสนุนให้มีการทุจริตโกงกิน ไม่ต้องการเห็นการกระทำที่ “โคตรโกง โกงทั้งโครต” ดังนั้นนโยบายที่เกิดมาจากหลักคิดของพรรคประชาธิปัตย์ จึงมีความหลากหลายและเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองอย่างยั่งยืน
ตั้งแต่การวางโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคม รถไฟทางคู่ ถนนสี่ช่องจราจร ลูกหลานไปโรงเรียนได้ดื่มนมเพื่อสร้างไอคิวและสติปัญญา มีอาหารกลางวัน จัดตั้งกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เพื่อให้นักเรียนทุกคนได้มีโอกาสเรียนหนังสืออย่างเท่าเทียม นอกจากนี้พรรคยังจัดทำนโยบายสาธารณสุข พี่น้องประชาชนเจ็บป่วยสามารถรักษาฟรีด้วยบัตรประชาชนใบเดียว และยังต่อยอดให้ผู้สูงอายุทุกคนได้รับเบี้ยยังชีพ ทุกนโยบายล้วนเป็นสิ่งดีๆ ให้พี่น้องประชาชนมากมาย
“จากการที่มีหลายพรรคการเมืองนำนโยบายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุไปขยายผลเพื่อหาเสียงเกทับในเรื่องจำนวนเงินกันอยู่ในขณะนี้ สะท้อนให้เห็นว่าเป็นนโยบายที่สำคัญ ซึ่งนโยบายเบี้ยผู้สูงอายุก็เกิดขึ้นในสมัยที่ นายชวน หลีกภัย เป็นรัฐบาล ได้ริเริ่มให้ผู้สูงอายุได้รับเบี้ยยังชีพเดือนละ 200 บาทต่อคน
ต่อมาเพิ่มเป็น 300 บาท และเพิ่มอีกครั้งสมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็น 500 บาท แต่ในสมัยรัฐบาลทักษิณ พรรคของนายจาตุรนต์ ตลอด 5 ปี กลับไม่เคยเพิ่มให้แม้แต่บาทเดียว นายจาตุรนต์ทราบหรือไม่” นายราเมศกล่าว
พร้อมกับเพิ่มเติมอีกว่า การมาให้ร้ายกับพรรคประชาธิปัตย์ว่าเป็นผู้เชื้อเชิญเผด็จการให้ออกมาทำรัฐประหารนั้น นายจาตุรนต์คงมีปัญหาด้านความจำ เพราะคนที่เชื้อเชิญให้ทหารออกมาปฏิวัติเมื่อครั้งที่ผ่านมา เป็นเพราะการมีรัฐบาลทรราช มีการทุจริตโกงกินกันอย่างมโหฬาร ใช้เสียงข้างมากในสภาออกกฎหมายล้างผิดให้กับคนโกงชาติบ้านเมือง และการที่ใส่ร้ายว่าประชาธิปัตย์สอนคนภาคใต้ให้สนับสนุนเผด็จการนั้น ก็ต้องถือว่าเป็นการใช้ถ้อยคำที่ดูถูกดูหมิ่นพี่น้องชาวภาคใต้มากที่สุด เพราะพี่น้องประชาชนทุกคนมีวิจารณญาณในการเลือก ส.ส. และพรรคการเมืองใดๆ ได้ เนื่องจากเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน
“การมาดูถูกกล่าวว่าคนใต้สนับสนุนเผด็จการคำพูดนี้เกินไปในทางการเมือง ไม่มีวุฒิภาวะ นายจาตุรนต์เป็นผู้วิเศษมาจากไหน หรือเป็นแค่เศษซากปรักหักพังในทางการเมืองที่ตะเกียกตะกายขึ้นจากหลุมมาแล้วให้ใครมาเจาะปากพูด เล่นการเมืองแบบนี้ไม่สร้างสรรค์ แต่พรรคประชาธิปัตย์นั้นไม่เคยกลัว และผมเป็นผู้สมัครในเขตเลือกตั้งที่ 2 จังหวัดพังงา ก็พร้อมสู้อย่างเต็มที่ เพราะการเมืองแนวใหม่นั้นจะสู้กันในเรื่องหลักคิด แนวนโยบาย เพื่อทำให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด และต้องให้ความเคารพต่อพี่น้องประชาชนด้วย” นายราเมศกล่าวในที่สุด
#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS
