Connect with us

News

จบยาก!! “เรืองไกร” จี้​ กกต.สอบสมาชิกพปชร.​ 100​ คน​ ปม​ให้สอบมติขับ​ก๊วนธรรมนัส!!

Published

on

เรืองไกร​ จี้​ กกต.ตรวจสอบ ผู้ร้อง​ พปชร.ทุกคนยังเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ จริงหรือไม่ เลขที่ใด ประเภทใด ตั้งแต่เมื่อใด คำร้องดังกล่าวผู้ร้องทั้งหมดได้อ่านและลงนามโดยตนเอง หรือไม่​ ปมสอบขับ​ 21​ ส.ส.

ผู้​สื่อข่าว​โต​โจ้​นิว​ส์ราย​งานว่า​ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า กรณีมีข่าวสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ จำนวนกว่า 100 คน ร้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ตรวจสอบมติพรรคพลังประชารัฐที่ขับ ส.ส. 21 คน ดังปรากฏเป็นข่าวโดยทั่วไปนั้น โดยคำร้องดังกล่าวอ้าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 42 ซึ่งวรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “ในกรณีสมาชิกซึ่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคนหนึ่งคนใด หรือสมาชิกจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยคน เห็นว่ามติของพรรคการเมืองที่ตนเป็นสมาชิกอยู่ขัดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้หรือกฎหมายอื่น ให้มีสิทธิร้องขอต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณาวินิจฉัย”

นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า คำว่า “สมาชิกจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยคน” จึงเป็นเงื่อนไขในการใช้สิทธิ ดังนั้นเพื่อให้แน่ใจว่า การใช้สิทธิดังกล่าวเป็นไปตามกฎหมาย กกต. ประกอบกับระเบียบ กกต. กำหนดให้มีการตรวจมูลกรณี ด้วย ดังนั้น กกต.จึงควรตรวจสอบก่อนว่า ผู้ร้องทุกคนยังเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ จริงหรือไม่ เลขที่ใด ประเภทใด ตั้งแต่เมื่อใด คำร้องดังกล่าวผู้ร้องทั้งหมดได้อ่านและลงนามโดยตนเอง หรือไม่ คำร้องดังกล่าวผู้ร้องทุกคนยืนยันรับรองคำร้องที่ลงนาม หรือไม่ คำร้องดังกล่าวผู้ใดเป็นผู้ทำขึ้น คำร้องดังกล่าวผู้ร้องทุกคนรู้อยู่ว่าเป็นความจริงไม่ใช่ความเท็จ หรือไม่ และหากคำร้องดังกล่าวเป็นความเท็จ จะเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 101 หรือไม่

นายเรืองไกร กล่าวว่า การใช้สิทธิของสมาชิกตามมาตรา 42 อาจมีโทษตามมาได้ ทั้งนี้ ตามมาตรา 101 วรรคหนึ่ง ซึ่งบัญญัติว่า “ผู้ใดแจ้งหรือกล่าวหาพรรคการเมืองหรือบุคคลใดว่ากระทำความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ต่อคณะกรรมการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยรู้อยู่ว่าเป็นความเท็จ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอน สิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้น”

นายเรืองไกร กล่าวว่า กรณีจึงมีเหตุที่ควรขอให้ กกต. ทำการตรวจมูลกรณีตามระเบียบ กกต. ด้วยการเชิญผู้ที่ลงนามทุกคนมาให้ถ้อยคำเพื่อยืนยันตนเองก่อนว่า ผู้ร้องทั้งหมดเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐจริงหรือไม่ ผู้ร้องทุกคนยืนยันรับรองว่าได้อ่านก่อนที่จะลงนาม หรือไม่ คำร้องดังกล่าวผู้ใดเป็นผู้ทำขึ้น คำร้องดังกล่าวผู้ร้องทุกคนรู้อยู่ว่าไม่ใช่ความเท็จ ใช่หรือไม่ และหากคำร้องดังกล่าวเป็นความเท็จ จะเข้าข่ายเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 101 หรือไม่ ดังนั้นตนจะส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS ไปถึง กกต. เพื่อขอให้ตรวจมูลกรณีตามคำร้องของสมาชิกกว่า 100 คน

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: